พิพิธภัณฑ์ดินดล
พิพิธภัณฑ์ในอาคาร
กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ได้จัดตั้งพิพิธภัณฑ์การเกษตรเฉลิม
พระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวโดยมีวัตถุประสงค์เพื่อเฉลิม พระเกียรติ
พระบาทสมเด็จพระบรม ชนกาธิเบศรมหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร
เนื่องในมหามงคลสมัยที่ทรง...
พิพิธภัณฑ์กลางแจ้ง
พิพิธภัณฑ์กลางแจ้ง
พิพิธภัณฑ์กลางแจ้ง
พิพิธภัณฑ์กลางแจ้ง
พิพิธภัณฑ์กลางแจ้ง
พิพิธภัณฑ์เสมือนจริง
พิพิธภัณฑ์เสมือนจริง
พิพิธภัณฑ์เสมือนจริง
พิพิธภัณฑ์เสมือนจริง
พิพิธภัณฑ์เสมือนจริง
พิพิธภัณฑ์เสมือนจริง
สนุกสนานไปกับการผจญภัย ที่จะพาย้อนเวลาตามหาความหมายของคำว่า “กษัตริย์ เกษตร”
ตลาดเศรษฐกิจพอเพียง จัดขึ้นทุกเสาร์ อาทิตย์ สัปดาห์แรกของเดือน เป็นตลาดนัดแห่งมิตรภาพ และการแบ่งปัน เพื่อจุดประกายความคิด แลกเปลี่ยนเรียนรู้ภูมิปัญญานวัตกรรมเกษตร เศรษฐกิจพอเพียง
จัดกระบวนการแลกเปลี่ยนเรียนรู้เครือข่ายพิพิธภัณฑ์เกษตรเฉลิมพระเกียรติฯเพื่อสร้างความร่วมมือในการขับเคลื่อนงานในระดับพื้นที่เพื่อเผยแพร่พระเกียรติคุณ และพระอัจฉริยภาพของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 9 ด้านการเกษตร และสร้างผู้สืบทอด การจัดการผลผลิตและการอนุรักษ์พันธุกรรม โดยการดำเนิน โครงการขยายผลเครือข่าย พกฉ. และโครงการเผยแพร่ขยายผล นวัตกรรมเกษตร เศรษฐกิจพอเพียง ปัจจุบัน มีศูนย์เครือข่าย พกฉ.
วันอาทิตย์ที่ 7 ธันวาคม 2568 พันจ่าเอก ประเสริฐ มาลัย ผู้อำนวยการ พกฉ. ร่วมเป็นเกียรติในพิธีเปิดงาน สืบสานพระราชปณิธาน งานศิลปาชีพบางไทร ครบรอบ 41 ปี จัดขึ้นเพื่อน้อมรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณของ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ในฐานะผู้ทรงก่อตั้งงานศิลปาชีพ และเป็นเสาหลักในการจัดหาอาชีพแก่ราษฎร และน้อมรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณของ พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร ผู้ทรงเป็นคู่บุญบารมีและแรงบันดาลใจสำคัญในการแก้ไขปัญหาความยากจนของราษฎรควบคู่กับงานศิลปาชีพ โดยมี นายวิณะโรจน์ ทรัพย์ส่งสุข ปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เป็นประธาน พร้อมด้วย นายเศรษฐเกียรติ กระจ่างวงษ์ เลขาธิการสำนักงานการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม กล่าวรายงาน และผู้บริหารในสังกัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องเข้าร่วม ณ ศูนย์ส่งเสริมและพัฒนาอาชีพเสริมนอกภาคการเกษตร อ.บางไทร จ.พระนครศรีอยุธยา พร้อมทั้งร่วมกิจกรรม ปลูกต้นไม้ตามปณิธานของแม่ และเยี่ยมชมนิทรรศการและกิจกรรมภายในงาน 4 กิจกรรม ดังนี้ 1. นิทรรศการน้อมรําลึกในพระมหากรุณาธิคุณของ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง โดยแสดงพระราชประวัติ พระราชกรณียกิจในการก่อตั้งมูลนิธิและศูนย์ศิลปาชีพ บางไทรฯ และการส่งมอบภารกิจให้ ส.ป.ก. 2. นิทรรศการเทิดพระเกียรติเนื่องในโอกาสวันคล้ายวันประสูติของ สมเด็จพระเจ้าลูกเธอเจ้าฟ้าพัชรกิติยาภา นเรนทิราเทพยวดีกรมหลวงราชสาริณีสิริพัชร มหาวัชรราชธิดา โดยจัดทํานิทรรศการแสดงพระราชกรณียกิจของพระองค์ที่เกี่ยวข้องกับงานศิลปาชีพ หรือการพัฒนาคุณภาพชีวิตประชาชน 3. กิจกรรมเชิงปฏิบัติการด้านงานหัตถกรรม (Workshop) ให้ประชาชนได้เข้าร่วมเรียนรู้แบบไม่เสียค่าใช้จ่ายจํานวน 2 แผนกวิชา พร้อมทั้งเปิดอาคารฝึกอบรมให้ประชาชนเข้าเยี่ยมชมกระบวนการผลิต และผลงานหัตถกรรมของช่างฝีมือระดับครู 4. การจําหน่ายผลิตภัณฑ์ศิลปหัตถกรรมคุณภาพสูงจากศิษย์เก่าของ ศพส. และร้านค้าภายในชุมชนรอบพื้นที่
สำนักงานพิพิธภัณฑ์เกษตรเฉลิมพระเกียรติฯ จัดโครงการเผยแพร่และถ่ายทอดองค์ความรู้พระอัจฉริยภาพกษัตริย์เกษตร แก่เยาวชนและประชาชน ณ ศูนย์เรียนรู้เครือข่ายพิพิธภัณฑ์เกษตรฯ จังหวัดนครสวรรค์ วันเสาร์ที่ 6 ธันวาคม 2568 สำนักงานพิพิธภัณฑ์เกษตรเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว (องค์การมหาชน) จัดโครงการเผยแพร่และถ่ายทอดองค์ความรู้พระอัจฉริยภาพกษัตริย์เกษตร ให้แก่เยาวชนและประชาชนในพื้นที่ศูนย์เรียนรู้เครือข่ายพิพิธภัณฑ์เกษตรฯ “สุพจน์ โคมณี” จังหวัดนครสวรรค์ โดยได้รับเกียรติจาก พันจ่าเอก ประเสริฐ มาลัย ผู้อำนวยการสำนักงานพิพิธภัณฑ์เกษตรเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว พร้อมด้วยนางสาวจุฑามาศ ทองชมพูนุช ผู้อำนวยการสำนักเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร ให้การต้อนรับผู้เข้าร่วมกิจกรรม พร้อมแลกเปลี่ยนมุมมองและสร้างแรงบันดาลใจในการน้อมนำศาสตร์พระราชาไปประยุกต์ใช้ในชีวิตและการประกอบอาชีพ โครงการดังกล่าวจัดขึ้นเพื่อเปิดโอกาสให้เยาวชนและประชาชนได้เรียนรู้พระเกียรติคุณและพระอัจฉริยภาพด้านการเกษตร ผ่านกิจกรรมการเรียนรู้ที่หลากหลาย ทั้งการเยี่ยมชมฐานการเรียนรู้ภายในพิพิธภัณฑ์ในอาคารและพิพิธภัณฑ์กลางแจ้ง การฝึกปฏิบัติ “การขยายพันธุ์พืชแบบควบแน่น” รวมถึงการศึกษาหลักการบริหารจัดการทรัพยากรดินและน้ำตามแนวพระราชดำริของ พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร นอกจากนี้ ผู้เข้าร่วมยังได้เยี่ยมชมนิทรรศการจากเครือข่ายพิพิธภัณฑ์เกษตรฯ และหน่วยงานในสังกัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ที่มาร่วมถ่ายทอดองค์ความรู้ภายในงานมหกรรม “ภูมิพลังแผ่นดิน” ซึ่งจัดขึ้นระหว่างวันที่ 4–7 ธันวาคม 2568 ณ พิพิธภัณฑ์การเกษตรฯ จังหวัดปทุมธานี โดยมุ่งหวังให้ประชาชนเห็นคุณค่าทรัพยากรธรรมชาติ สืบสานภูมิปัญญาการเกษตรไทย และนำความรู้ที่ได้รับไปประยุกต์ใช้เพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืน
พกฉ. ร่วมกับ สวก. คัดเลือกผลงานนวัตกรรมและเทคโนโลยีภาคการเกษตร อุตสาหกรรมเกษตร หรืออุตสาหกรรมที่เกี่ยวข้องกับภาคการเกษตร Young Agri Future 2025 จากผลงานนักเรียน นักศึกษา คนรุ่นใหม่ ทั่วประเทศ เพื่อช่วยยกระดับคุณภาพชีวิตของเกษตรกร และการพัฒนาด้านการเกษตรสู่การผลิตและสร้างความเข้มแข็งของภาคการเกษตร เชื่อมโยงภารกิจตลอดจนการขับเคลื่อนตามหลักปรัชญของเศรษฐกิจพอเพียง ด้านการเกษตร เพื่อเป็นแนวทางในการน้อมนำสู่การปฏิบัติ และปรับประยุกต์ใช้ให้เกิดประโยชน์ สู่แนวคิดอนาคตเกษตรไทยยั่งยืน เมื่อวันที่ 3-4 ธันวาคม 2568 สำนักงานพิพิธภัณฑ์เกษตรเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว (องค์การมหาชน) หรือ พกฉ. ร่วมกับ สำนักงานพัฒนาการวิจัยการเกษตร (องค์การมหาชน) หรือ สวก. และกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ จัดกิจกรรมนำเสนอผลงานรอบชิงชนะเลิศ และพิธีมอบรางวัลผู้ชนะการประกวด ในโครงการประกวดนวัตกรรมและเทคโนโลยีภาคการเกษตร อุตสาหกรรมเกษตร หรืออุตสาหกรรมที่เกี่ยวข้องกับภาคการเกษตร Young Agri Future 2025 ระดับพื้นฐาน (มัธยมศึกษา-ปวช.) และระดับอุดมศึกษา (ปวส.-อนุปริญญา-ปริญญาตรี) รวม 20 รางวัล มูลค่ารวม 530,000 บาท โดยโครงการดังกล่าว ได้เปิดโอกาสให้นักเรียน นักศึกษา และคนรุ่นใหม่ จากทั่วประเทศนำความรู้ และความคิดสร้างสรรค์ มาสร้างนวัตกรรมและเทคโนโลยีทางการเกษตร สุดยอดนักคิดรุ่นใหม่ ถ่ายทอดความยิ่งใหญ่แห่งศาสตร์พระราชา ในการช่วยยกระดับคุณภาพชีวิตของเกษตรกร และช่วยในการพัฒนาด้านการเกษตรสู่การผลิตและสร้างความเข้มแข็งของภาคการเกษตร ภายใต้หัวข้อ “นวัตกรรมเกษตร : เพิ่มประสิทธิภาพและมูลค่าการผลิตเกษตรไทยยั่งยืน” รวมถึงการพัฒนาต่อยอดผลงานนวัตกรรมที่พร้อมจะพัฒนาและประยุกต์ใช้เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในกระบวนการด้านการเกษตร สู่โอกาสในการพัฒนา ขยายผลและการต่อยอดทางธุรกิจภาคการเกษตรสู่แนวทางในการขับเคลื่อนยุทธศาสตร์การพัฒนาประเทศ และที่สำคัญคือ ผลงานที่ได้รับการคัดเลือก มีโอกาสในการได้รับทุนวิจัยเพื่อพัฒนาต้นแบบ หรือการต่อยอดในเชิงพาณิชย์ สำหรับผลงานที่ผ่านเกณฑ์การพิจารณาให้ทุนวิจัย ของ สวก. ในวงเงินมูลค่ารวม 20,000,000 บาท (ยี่สิบล้านบาท) อีกทั้งยังได้รับเกียรติจากคณะกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ และผู้สนับสนุนทั้งภาครัฐและภาคเอกชน กว่า 12 หน่วยงาน ที่ร่วมสนับสนุนกิจกรรม จนทำให้เกิดผลงานนวัตกรรมและเทคโนโลยีภาคการเกษตรฯ ใหม่ๆ จากมุมมองของกลุ่มคนรุ่นใหม่ที่เข้าร่วมโครงการ กว่า 100 ผลงานจากทั่วประเทศ และคัดเลือกผลงานจนเหลือผู้ผ่านเข้ารอบตัดสินเพียง 59 ผลงานที่ได้เข้าร่วมกิจกรรม Work shop Young Agri Future 2025 และนำเสนอผลงานต่อคณะกรรมการตัดสินในรอบ Final จนได้ผู้ชนะเลิศและรองชนะเลิศของแต่ละระดับ โดยมีผลงาน ที่ผ่านเข้ารอบชิงชนะเลิศ อาทิ เทคโนโลยีสมาร์ทฟาร์มสำหรับตรวจสอบและควบคุมการเจริญเติบโตของสาหร่ายผักกาดทะเล , เครื่องเพาะปลูกพืชเศรษฐกิจแบบลงหัวด้วยระบบหมอกไฮบริดควบคุม สภาพแวดล้อมผ่านระบบอัจฉริยะเพื่อรับมือกับความไม่แน่นอนของสภาพ อากาศ , นวัตกรรมลดความชื้นวัตถุดิบทางการเกษตรต้นทุนต่ำเพื่อสร้างและเพิ่มรายได้อย่างยั่งยืนตามหลักเศรษฐกิจพอเพียง ผู้อำนวยการสำนักงานพิพิธภัณฑ์เกษตรเฉลิมพระเกียรติพระบาทสวมเด็จพระเจ้าอยู่หัว กล่าวเพิ่มเติมว่า พกฉ. ให้ความสำคัญกับการสร้างเครือข่ายด้านการส่งเสริมการเรียนรู้ รวมทั้งการขยายผลต่อยอดตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง โดยเฉพาะการพัฒนาและยกระดับคุณภาพของเกษตรกรผ่านโครงการและกิจกรรมต่างๆ ร่วมกับทุกหน่วยงาน เพื่อให้เกิดเป็นเครือข่าย กิจกรรม และโครงการที่เข้มแข็งต่อไปในอนาคตและให้ โครงการ Young Agri Future เป็นกลไกในการส่งเสริมให้คนรุ่นใหม่ นักเรียน นักศึกษา รวมทั้ง กลุ่ม Young Famer หรือเกษตรกรผู้สนใจในการขับเคลื่อนการส่งเสริมการใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีและนวัตกรรมภาคการเกษตรฯ เพื่อยกระดับความสามารถในการแข่งขัน พร้อมต่อยอดผลงานนวัตกรรมจากการวิจัยสู่การผลิตเชิงพาณิชย์ต่อไปอย่างยั่งยืน ต่อไป สำหรับผลการตัดสิน และรับรางวัลโครงการประกวดผลงานนวัตกรรมและเทคโนโลยีภาคการเกษตร และอุตสาหกรรมเกษตรหรืออุตสาหกรรมที่เกี่ยวข้องกับภาคการเกษตร มีทีมที่ได้รับรางวัล ดังนี้ ระดับอุดมศึกษา (ปวส. - อนุปริญญา - ปริญญาตรี) 1. รางวัลชนะเลิศ รับถ้วยรางวัล พร้อมเงินรางวัล 100,000 บาท ได้แก่ทีม Agro -Tech LRU จากมหาวิทยาลัยราชภัฎเลย ผลงานนวัตกรรมการปอกเปลือกเขียวและกะเทาะกะลามะคาเดเมีย 2 ฟังค์ชัน 2. รางวัลรองชนะเลิศอันดับ 1 รับโล่รางวัล พร้อมเงินรางวัล 50,000 บาท ได้แก่ทีม CACOWs สำนักวิชาทรัพยากรการเกษตร จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ผลงาน โครงการนวัตกรรมการจัดการห่วงโซ่คุณค่าโกโก้ บนฐานโมเดลเศรษฐกิจ BCG 3. รางวัลรองชนะเลิศอันดับ 2 รับโล่รางวัล พร้อมเงินรางวัล 30,000 บาท ได้แก่ทีม Ecosphere จากมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี ผลงาน พลาสคูร่า 4. รางวัลนวัตกรรมเกษตรขวัญใจมหาชน (Popular Vote) รับโล่รางวัล พร้อมเงินรางวัล 20,000 บาท ได้แก่ทีม BOUNTYHUNTER จากมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลธัญญบุรี ผลงาน นวัตกรรมลดความชื้นวัตถุดิบทางการเกษตรต้นทุนต่ำเพื่อสร้างและเพิ่มรายได้อย่างยั่งยืนตามหลักเศรษฐกิจพอเพียง 5. รางวัลชมเชย 6 รางวัล รับเกียรติบัตร พร้อมเงินรางวัล 20,000 บาท ได้แก่ - ทีม First Farm Harvester มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ผลงาน : นวัตกรรมเครื่องเก็บข้าวโพดพร้อมอัดก้อนในตัวลดการเผาอย่างยั่งยืน - ทีม AMEC_1 มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลตะวันออก ผลงาน : เครื่องให้ปุ๋ยคอกน้ำใต้ดิน - ทีม DekAgino สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง ผลงาน : เครื่องพ่นสารอัติโนมัติสำหรับวัชพืชโดยควบคุมผ่านการเรียนรู้เชิงลึก - ทีม KWTK Team วิทยาลัยเทคนิคเขาวง ผลงาน : เครื่องคัดแยกขนาดพุทรานมบ้านโพนสู่การพัฒนาคุณภาพชีวิตที่ยั่งยืน - ทีม BOUNTYHUNTER มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลธัญบุรี ผลงาน : นวัตกรรมลดความชื้นวัตถุดิบทางการเกษตรต้นทุนต่ำเพื่อสร้างและเพิ่มรายได้อย่างยั่งยืนตามหลักเศรษฐกิจพอเพียง - ทีม ไข่ทองคำนวัตกรรมยั่งยืน วิทยาลัยเกษตรและเทคโนโลยีอุบลราชธานี ผลงาน : ไส้กรอกไข่ทรงเครื่องกึ่งสำเร็จรูป ระดับพื้นฐาน (มัธยมศึกษา - ปวช.) 1. รางวัลชนะเลิศ รับถ้วยรางวัล พร้อมเงินรางวัล 80,000 บาท ได้แก่ ทีม OsSe จากโรงเรียนเฉลิมพระเกียรติ 60 พรรษา ผลงาน : การพัฒนาเครื่องมือตรวจจับละอองสารเคมีด้วยโทรศัพท์มือถือ 2. รองชนะเลิศอันดับ 1 รับโล่รางวัล พร้อมเงินรางวัล 40,000 บาท ได้แก่ ทีม Angel Film จากโรงเรียนเตรียมอุดมศึกษาภาคใต้ ผลงาน : โครงงานการพัฒนาแผ่นฟิล์มคลุมดินชีวภาพจากกาบกล้วยเปลือกส้มโอ และไบโอชาร์จากเปลือกมังคุดในการรักษาความชื้นหน้าดิน 3. รองชนะเลิศอันดับ 2 รับโล่รางวัล พร้อมเงินรางวัล 20,000 บาท ได้แก่ ทีม ทีม Aerosol จากโรงเรียนชลประทานวิทยา ผลงาน : เครื่องเพาะปลูกพืชเศรษฐกิจแบบลงหัวด้วยระบบหมอกไฮบริดควบคุมสภาพแวดล้อมผ่านระบบอัจฉริยะเพื่อรับมือกับความไม่แน่นอนของสภาพ อากาศ 4. รางวัลนวัตกรรมเกษตรขวัญใจมหาชน (POPULAR VOTE) รับโล่รางวัลพร้อมเงินรางวัล 10,000 บาท ได้แก่ ทีม จิ้งจกผงกหัว โรงเรียนกาฬสินธุ์พิทยาสรรพ์ ผลงาน : เครื่องเพิ่มประสิทธิภาพในการฟักของตั๊กแตนเพื่อแก้ไขปัญหาการฟักไข่ของตั๊กแตนที่ไม่สม่ำเสมอ 5. รางวัลชมเชย 6 รางวัล รับเกียรติบัตร พร้อมเงินรางวัล 10,000 บาท ได้แก่ - ทีม AI BODIN 4 จากโรงเรียนบดินทรเดชา (สิงห์ สิงหเสนี) 4 ผลงาน : โรงเลี้ยงมวนตัวห้ำอัตโนมัติ - ทีม LUSH จากโรงเรียนเบญจมเทพอุทิศจังหวัดเพชรบุรี ผลงาน : เทคโนโลยีสมาร์ทฟาร์มสำหรับตรวจสอบและควบคุมการเจริญเติบโตของสาหร่ายผักกาดทะเล - ทีม TAD จากโรงเรียนธาธิตมหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ ฝ่ายมัธยม ผลงาน : นวัตกรรมระบบการเลี้ยงหนอนแมลงวัน BSF กึ่งอัตโนมัติเพื่อย่อยสลายอาหารชีวภาพลดการเกิดก๊าซเรือนกระจก - ทีม ซุปเปอร์ขาไก่ จากโรงเรียนมหิดลวิทยานุสรณ์ ผลงาน : การพัฒนาไฮโดรเจลผสมเจลาตินที่ก่อตัวเฉพาะที่สำหรับการปลดปล่อยเคอร์คูมิน - ทีม ปกรณ์พันธ์ไม้อยากพัฒนา นวัตกรรมเกษตร จากโรงเรียนปากเกร็ด ผลงาน : การสังเคราะห์และศึกษาคุณลักษณะของคาร์บอนควอนตัมดอทจากชีวมวลทางการเกษตรเพื่อกระตุ้นการงอกของเมล็ดและการเกิดรากของกิ่งปักชำตอบสนองแนวพระราชดำริเกษตรทฤษฎีใหม่ - ทีม VANTIX จากโรงเรียนปรินส์รอยแยลส์วิทยาลัย ผลงาน : การใช้สารอินทรีย์ระเหยง่ายเป็นชีวสัญญาณในการพัฒนาระบบเฝ้าระวังความผิดปกติของข้าวโพดเลี้ยวสัตว์ที่ถูกหนอนกระทู้ข้าวโพดลายจุดทำลายโดยการใช้เซ็นเซอร์อิเล็กทรอนิส์และปัญญาประดิษฐ์
วันที่ 5 ธันวาคมของทุกปี เป็นวันที่คนไทยทั้งแผ่นดินน้อมสำนึกพระมหากรุณาธิ ที่สุดมิได้ ของพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร พระมหากษัตริย์ผู้ทรงทำงานหนักท่ามกลางพระราชกรณียกิจนับพันโครงการ โดยเฉพาะพระอัจฉริยภาพด้านการจัดการดินที่โดดเด่นและเป็นที่ประจักษ์ระดับโลก ดินที่เป็นรากฐานของอาหาร ความมั่นคง และการดำรงชีวิต จนได้รับการยกย่องในระดับโลกให้เป็น “นักวิทยาศาสตร์ดินเพื่อมนุษยธรรม” สำนักงานพิพิธภัณฑ์เกษตรเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว (องค์การมหาชน) จึงได้จัดงานและกิจกรรมในเดือนธันวาคม มหกรรม “ภูมิพลังแผ่นดิน” เพื่อน้อมสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ และเผยแพร่ศาสตร์พระราชาด้านการพัฒนาดินและการเกษตรให้ประชาชนทุกกลุ่มสามารถนำไปประยุกต์ใช้ได้จริงอย่างยั่งยืนพันจ่าเอก ประเสริฐ มาลัย ผู้อำนวยการสำนักงานพิพิธภัณฑ์เกษตรเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว กล่าวว่า “งานภูมิพลังแผ่นดินเป็นเวทีสำคัญที่พิพิธภัณฑ์การเกษตรฯ ใช้ในการเทิดพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศรมหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราชฯ ผู้ทรงเป็นกำลังของแผ่นดินและนักวิทยาศาสตร์ดินเพื่อมนุษยธรรมภายในงานมีนิทรรศการเทิดพระเกียรติ นิทรรศการเครือข่ายฯ และกิจกรรมถ่ายทอดองค์ความรู้เพื่อน้อมนำศาสตร์พระราชาให้ประชาชนสามารถประยุกต์ใช้ได้จริง” โดยในช่วงเช้าวันนี้ มีพิธีทำบุญตักบาตรข้าวสาร อาหารแห้ง พระสงฆ์ 69 รูป และพิธีไถ่ชีวิตโค โครงการธนาคารโค-กระบือเพื่อเกษตรกร ตามพระระราชดำริ เพื่อถวายเป็นพระราชกุศลแด่ พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง โดยกรมปศุสัตว์ และในช่วงเย็นมีพิธีจุดเทียนน้อมรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณ พร้อมการแสดงโขนเทิดพระเกียรติ ชุด “คารวาลัยพระมิ่งมาตาคู่บุญญา บารมีบรมจักรีองค์ภูมิพล” จากคณะศิลปกรรมศาสตร์มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลธัญบุรี และบทเพลงขลุ่ยเพื่อพ่อ โดย อ.ธนิสร์ ศรีกลิ่นดี ศิลปินแห่งชาติ และคุณขวัญข้าว ธิดารินทร์ ตลอดการจัดงานทั้ง 4 วัน ประชาชนสามารถร่วมกิจกรรมเรียนรู้และอบรมเชิงปฏิบัติการกว่า 16 หลักสูตรโดยไม่เสียค่าใช้จ่าย ทั้ง Onsite และ Online รวมถึงเข้าชมพิพิธภัณฑ์โดยไม่มีค่าใช้จ่าย ได้แก่ พิพิธภัณฑ์ในหลวงรักเรา พิพิธภัณฑ์มหัศจรรย์พันธุกรรม พิพิธภัณฑ์ป่าดงพงไพร พิพิธภัณฑ์ดินดล และพิพิธภัณฑ์สนองพระราชปณิธาน อีกทั้งชม ช้อป สินค้าเกษตรปลอดภัย ผลผลิตเกษตรอินทรีย์ อาหารพื้นบ้าน และต้นไม้นานาพันธุ์กว่า 200 ร้านค้า กิจกรรมพิเศษสำหรับทุกวัย เช่น ทำภาพพิมพ์ Wood Cut ถุงผ้า Eco Bag จากสีธรรมชาติ เพาะ แจก แลกเปลี่ยนต้นไม้ และกิจกรรมสร้างสรรค์อื่น ๆ เพื่อให้ผู้เข้าชมได้เรียนรู้สิ่งใหม่ในทุกวัน สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ โทร. 02-529-2212, 087-359-7171 ,094-649-2333 หรือทางFacebook พิพิธภัณฑ์การเกษตรฯ และเว็บไซต์ www.wisdomking.or.th
วันที่ 5 ธันวาคม 2568 เวลา 08.00 น. พันจ่าเอก ประเสริฐ มาลัย ผู้อำนวยการ พกฉ. นำคณะผู้บริหาร เจ้าหน้าที่ เครือข่ายพิพิธภัณฑ์เกษตรฯ พร้อมด้วยประชาชนร่วมทำบุญตักบาตรข้าวสารอาหารแห้ง แด่พระภิกษุสงฆ์ จำนวน 69 รูป ณ ลานหน้าพระบรมฉายาลักษณ์ฯ สำนักงานพิพิธภัณฑ์เกษตรเฉลิมพระเกียรติฯ ปทุมธานี เวลา 10.00 น. จัดให้มีพิธีถวายภัตตาหารเพลแด่พระสงฆ์ จำนวน 10 รูป จัดขึ้นเพื่อถวายเป็นพระราชกุศลแด่พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร และสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง จัดขึ้น ณ ลานภูมิปัญญา ภายในพื้นที่พิพิธภัณฑ์ในหลวงรักเรา สำนักงานพิพิธภัณฑ์เกษตรเฉลิมพระเกียรติฯ ปทุมธานี
สำนักงานพิพิธภัณฑ์เกษตรเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว (องค์การมหาชน) หรือ พกฉ. จัดประชุมคณะทำงานกลั่นกรองระเบียบ ข้อบังคับ พกฉ. ครั้งที่ 10/2568 โดยมีนายปฏิญญา เหลืองทองคำ เป็นประธานการประชุม ในวันที่ 4 ธันวาคม พ.ศ. 2568 เวลา 13.30 น. ณ ห้องประชุมตานรอยพ่อ ขั้น 3 อาคารสำนักงานพิพิธภัณฑ์เกษตรเฉลิมพระเกียรติฯ อำเภอคลองหลวง จังหวัดปทุมธานี โดยมีรายละเอียดการประชุม ดังนี้ ระเบียบวาระที่ 1 เรื่องที่ประธานแจ้งให้ที่ประชุมทราบ ระเบียบวาระที่ 2 เรื่องรับรองรายงานการประชุมคณะทำงานกลั่นกรองระเบียบ ข้อบังคับ พกฉ. ครั้งที่ 10/2568 เมื่อวันที่ 22 ตุลาคม 2568 ระเบียบวาระที่ 3 เรื่องที่เสนอให้ที่ประชุมทราบ 3.1 เรื่อง รายงานผลการประชุมคณะกรรมการสำนักงานพิพิธภัณฑ์เกษตรเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ครั้งที่ 11/2568 เมื่อวันที่ 20 พฤศจิกายน 2568 เกี่ยวกับกรณีดังนี้ - ร่างข้อบังคับคณะกรรมการสำนักงานพิพิธภัณฑ์เกษตรเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ว่าด้วยการบริหารงานบุคคล (ฉบับที่ 4) - ร่างระเบียบคณะกรรมการสำนักงานพิพิธภัณฑ์เกษตรเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ว่าด้วยหลักเกณฑ์และวิธีการเกี่ยวกับการสั่งพักงาน และการจ่ายเงินเดือนของผู้ถูกสั่งพักงาน - ร่างระเบียบคณะกรรมการสำนักงานพิพิธภัณฑ์เกษตรเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ว่าด้วยการอุทธรณ์และร้องทุกข์ และการพิจารณาวินิจฉัยอุทธรณ์และร้องทุกข์ระเบียบวาระที่ 4 เรื่องที่เสนอให้ที่ประชุมพิจารณา 4.1 เรื่อง ร่างบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ (MOU) เรื่อง การเป็นพันธมิตรด้านองค์ความรู้และเนื้อหาทางวิชาการในโครงการ "King's Wisdom Inspiration Youth Galaxy" ระหว่างสำนักงานพิพิธภัณฑ์เกษตรเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว (องค์การมหาชน) กับ บริษัท มลชญา จำกัด 4.2 เรื่อง ร่างข้อบังคับคณะกรรมการสำนักงานพิพิธภัณฑ์เกษตรเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ว่าด้วยการบริหารงานบุคคล (ฉบับที่ 5) 4.3 เรื่อง ร่างข้อบังคับคณะกรรมการสำนักงานพิพิธภัณฑ์เกษตรเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ว่าด้วยสวัสดิการและสิทธิประโยชน์อื่นของเจ้าที่ (ฉบับที่ 2) ระเบียบวาระที่ 5 เรื่องอื่น ๆ
วันที่ 4 ธันวาคม 2568 ณ สำนักงานพิพิธภัณฑ์เกษตรเฉลิมพระเกียรติฯ จังหวัดปทุมธานี เปิดงานมหกรรมใหญ่ “ภูมิพลังแผ่นดิน” ประจำปี 2568 อย่างเป็นทางการ โดยได้รับเกียรติจาก นายนเรศ ธำรงค์ทิพยคุณ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เป็นประธานในพิธี งานนี้จัดขึ้นเพื่อสืบสานพระราชปณิธานพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศรมหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถพิตร ด้านการพัฒนาการเกษตรและความเป็นอยู่ของประชาชน โดยเฉพาะพระอัจฉริยภาพด้านการจัดการดิน สะท้อนศาสตร์พระราชาที่จับต้องได้ และนำไปปฏิบัติได้จริง ผ่านนิทรรศการเทิดพระเกียรติ นิทรรศการเครือข่ายพิพิธภัณฑ์เกษตรฯ ผู้มากประสบการณ์ การอบรมวิชาของแผ่นดิน และ Workshop กว่า 16 หลักสูตร พร้อมชิม ช็อป สินค้าเกษตรในตลาดเศรษฐกิจพอเพียงกว่า 200 ร้าน และนอกจากนี้ยังมีการนำผลงานในโครงการประกวดนวัตกรรมและเทคโนโลยีภาคการเกษตร อุตสาหกรรมเกษตร หรืออุตสาหกรรมที่เกี่ยวข้องกับภาคการเกษตร Young Agri Future 2025 ภายใต้หัวข้อ “นวัตกรรมเกษตร : เพิ่มประสิทธิภาพและมูลค่าการผลิตเกษตรไทยยั่งยืน” ของน้อง ๆ นักเรียน และนักศึกษาที่ผ่านการเข้ารอบทั้ง 59 ทีมมาร่วมจัดแสดง พันจ่าเอก ประเสริฐ มาลัย ผู้อำนวยการสำนักงานพิพิธภัณฑ์เกษตรฯ กล่าวว่า “ในหลวงรัชกาลที่ 9 ทรงสอนให้พวกเรารู้จักดูแลผืนดิน แผ่นน้ำ และทรัพยากรธรรมชาติ งานมหกรรม “ภูมิพลังแผ่นดิน” ครั้งนี้ จัดขึ้นระหว่างวันที่ 4 – 7 ธันวาคม 2568 เพื่อเทิดพระเกียรติและน้อมรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณของในหลวงรัชกาลที่ 9 ผู้ทรงเป็น “พลังของแผ่นดิน” ที่มุ่งพัฒนาเกษตรกรไทยให้มีความมั่นคงทั้งด้านทรัพยากร ดิน น้ำ ป่า และคุณภาพชีวิต ผ่านหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงและหลักการทรงงาน ซึ่งจัดขึ้นภายใต้แนวคิด “ดินที่สมบูรณ์ สู่เมืองที่สมดุล เกื้อกูลชีวิต” ถ่ายทอดแนวพระราชดำริด้านการจัดการดินอย่างยั่งยืน ผ่านนิทรรศการเทิดพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร พร้อมเปิดพื้นที่เรียนรู้องค์ความรู้ด้านการเกษตร นวัตกรรม เทคโนโลยี ดิน น้ำ ป่า และการจัดการทรัพยากร รวมถึงองค์ความรู้จากเครือข่ายพิพิธภัณฑ์เกษตรฯ ที่นำเสนอประสบการณ์จริงจากการน้อมนำคำพ่อสอนไปใช้ในชุมชน ในนิทรรศการ “ดินอุดม น้ำสมบูรณ์ เกื้อกูลชีวิตที่สมดุล” เช่น การฟื้นฟูดิน การบริหารจัดการน้ำ การสร้างอาชีพ การแปรรูปเพิ่มมูลค่า และการสร้างคนรุ่นใหม่ในวิถีเกษตร” กิจกรรมพิเศษ เนื่องในวันพ่อแห่งชาติ วันดินโลก 5 ธันวาคม 2568 เวลา 08.30 น. ร่วมทำบุญตักบาตรข้าวสารอาหารแห้ง พระสงฆ์ จำนวน 69 รูป เพื่อถวายเป็นพระราชกุศลแด่พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร และสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง และช่วงเวลา 17.00 น. เป็นต้นไป ขอเชิญร่วมกิจกรรมและรับชมการแสดงโขนเทิดพระเกียรติ ชุด “คารวาลัยพระมิ่งมาตาคู่บุญญาบารมีบรมจักรีองค์ภูมิพล” พร้อมรับฟังบทเพลงพระราชนิพนธ์จากเสียงขลุ่ยของอาจารย์ธนิสร์ ศรีกลิ่นดี และคุณขวัญข้าว ธิดารินทร์ และร่วมจุดเทียนน้อมรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณ โดยตลอดทั้งงานเปิดเข้าชมฟรี พิพิธภัณฑ์ในหลวงรักเรา พิพิธภัณฑ์มหัศจรรย์พันธุกรรม พิพิธภัณฑ์ป่าดงพงไพร พิพิธภัณฑ์ดินดล และพิพิธภัณฑ์สนองพระราชปณิธาน นิทรรศการขุมทรัพย์แห่งแผ่นดิน พร้อมกิจกรรมเรียนรู้อบรมวิชาของแผ่นดินกว่า 16 วิชา โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย และชม ช็อป ผลผลิตเกษตรปลอดภัยในตลาดเศรษฐกิจพอเพียงที่รวบรวมสินค้าคุณภาพจากเครือข่ายเกษตรกรทั่วประเทศกว่า 200 ร้านค้า Pavilion พร้อมกิจกรรมมีส่วนร่วมมากมายในงาน อาทิ ทำภาพพิมพ์ wood cut กิจกรรม Eco Bag สีสันจากธรรมชาติ หล่อเหรียญและลงสพระบรมรูปปั้น DIY เพาะแจกแลกเปลี่ยนต้นไม้ เป็นต้น ท้ายนี้ ผอ.สำนักงานพิพิธภัณฑ์ฯ กล่าวเชิญชวนประชาชนทุกคนมาเรียนรู้ศาสตร์พระราชาจากประสบการณ์จริงของบุคคลต้นแบบทั่วประเทศ ในงานมหกรรม “ภูมิพลังแผ่นดิน” 4 – 7 ธันวาคม 2568 เพื่อนำไปปรับใช้ในชีวิตประจำวัน ไม่ว่าจะเป็นการทำเกษตรแบบพึ่งตนเอง การจัดการทรัพยากรในครัวเรือน หรือการสร้างอาชีพจากภูมิปัญญาไทย พร้อมจุดประกายแรงบันดาลใจให้ทุกคนได้ร่วมกันสานต่อพระราชปณิธานเพื่อสร้างพลังแห่งแผ่นดินที่มั่นคงต่อไป” สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม โทร.02-529-2212, 087-359-7171, 094-649-2333 หรือทาง Facebook พิพิธภัณฑ์การเกษตรฯ Website www.wisdomking.or.th
สำนักงานพิพิธภัณฑ์เกษตรเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว (องค์การมหาชน) จัดงานใหญ่ส่งท้ายปี งานมหกรรม “ภูมิพลังแผ่นดิน” จัดขึ้นในวันที่ 4 – 7 ธันวาคม 2568 เพื่อเทิดพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ด้านการจัดการดินเพื่อการเกษตร เนื่องในวันคล้ายวันพระบรมราชสมภพ 5 ธันวาคม วันพ่อแห่งชาติ และวันดินโลก พระมหากษัตริย์นักพัฒนา พระผู้ทรงมีพระอัจฉริยภาพ พระมหากรุณาธิคุณด้านการจัดการดินที่ยั่งยืน และทรงวางรากฐานความอุดมสมบูรณ์ให้แก่ผืนแผ่นดินไทย โดยจัดงานภายใต้แนวคิด “ดินที่สมบูรณ์ สู่เมืองที่สมดุล เกื้อกูลชีวิต” ถ่ายทอดศาสตร์พระราชาผ่านนิทรรศการ พร้อมเสริมทัพองค์ความรู้ผลงาน เทคโนโลยี และนวัตกรรมเกษตร จากหน่วยงานในสังกัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ หน่วยงานภาคีเครือข่าย เครือข่ายพิพิธภัณฑ์เกษตรฯ 4 ภูมิภาค และจากเยาวชนคนเก่งที่นำผลงานนวัตกรรมในโครงการประกวดนวัตกรรมและเทคโนโลยีภาคการเกษตร อุตสาหกรรมเกษตร หรืออุตสาหกรรม หรืออุตสาหกรรมที่เกี่ยวข้องกับภาคการเกษตร ชม ช้อป เพลิดเพลินกับตลาดเศรษฐกิจพอเพียง และกิจกรรมเรียนรู้มากมายตลอด 4 วัน ตั้งแต่เวลา 08.00 – 17.00 น. ณ พิพิธภัณฑ์การเกษตรเฉลิมพระเกียรติฯ จังหวัดปทุมธานี พันจ่าเอก ประเสริฐ มาลัย ผู้อำนวยการสำนักงานพิพิธภัณฑ์เกษตรเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว กล่าวว่า “พิพิธภัณฑ์การเกษตรฯ ทำหน้าที่สำคัญในการเผยแพร่พระเกียรติคุณและพระอัจฉริยภาพของสถาบันพระมหากษัตริย์ไทย 5 ธันวาคม วันคล้ายวันพระบรมราชสมภพพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร วันพ่อแห่งชาติ วันชาติ และวันดินโลก เพื่อน้อมรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณและพระอัจฉริยภาพด้านการจัดการดินที่ทรงวางรากฐานความอุดมสมบูรณ์ของผืนดินไทย เพื่อประโยชน์สุขของมหาชนชาวไทย การจัดงานมหกรรมในหลวงรักเรา ครั้งนี้จัดขึ้นภายใต้แนวคิด “ดินที่สมบูรณ์ สู่เมืองที่สมดุล เกื้อกูลชีวิต” ถ่ายทอดแนวพระราชดำริด้านการจัดการดินอย่างยั่งยืน ผ่านนิทรรศการเทิดพระเกียรติ นิทรรศการเครือข่ายพิพิธภัณฑ์เกษตรฯ ภาคีความร่วมมือ และงานนี้ถือเป็นครั้งสำคัญที่ผนึกกำลังร่วมจากทุกหน่วยงานในสังกัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ การน้อมนำศาสตร์พระราชาของในหลวงรัชกาลที่ 9ในโซนมหกรรม“เกษตรไทยก้าวสู่อนาคต ด้วยศาสตร์พระราชา” ที่ถ่ายทอดความยิ่งใหญ่แห่งศาสตร์พระราชา และจัดแสดงผลงานนวัตกรรมและเทคโนโลยีเพื่อการเกษตร และนิทรรศการไฮไลท์ที่มีชีวิตจากเครือข่ายพิพิธภัณฑ์ฯ ผู้น้อมนำคำพ่อสอนที่นำเอาองค์ความรู้และภูมิปัญญาท้องถิ่นและวิถีชีวิตที่สอดคล้องกับธรรมชาติ จากภูเขาสู่ท้องทะเล การจัดการดินและน้ำของทั้ง 4 ภูมิภาค การทำเกษตรในพื้นที่สูง การปลูกพืชอนุรักษ์ดิน หญ้าแฝก การจัดการดินหัวไร่ปลายนา การทำป่าร่วมยาง และป่าวนเกษตร ที่สะท้อนเอกลักษณ์ความเป็นไทยในทุกมิติ” นายอร่าม แก้วนิล ผู้เชี่ยวชาญพิเศษ ให้รายละเอียดเพิ่มเติมว่า “ภายในงานครั้งนี้ ผู้เข้าร่วมงานจะได้เรียนรู้จากพี่น้องเครือข่ายพิพิธภัณฑ์ฯ บุคคลต้นแบบที่น้อมนำแนวพระราชดำริไปประยุกต์ใช้ในพื้นที่ของตนเอง และประสบความสำเร็จ ในนิทรรศการ “ดินอุดม น้ำสมบูรณ์ เกื้อกูลชีวิตที่สมดุล” โดยงานนี้นำเสนอองค์ความรู้และภูมิปัญญาท้องถิ่นที่สอดคล้องกับธรรมชาติและวิถีชีวิตที่สร้างความอุดมสมบูรณ์ และเกิดสมดุลอย่างยั่งยืน มาจัดแสดง แลกเปลี่ยน และถ่ายทอดประสบการณ์ ในโซนฐานนิทรรศการย่อยต่างๆ ทั้งการจัดการดินและน้ำ จาก 4 ภูมิภาค การทำเกษตรในพื้นที่สูง การปลูกพืชอนุรักษ์ดิน ระบบป่าต้นน้ำ เช่น หญ้าแฝก ระบบเหมืองฝาย ต้นไม้ท้องถิ่น ฝายชะลอน้ำ การจัดการดินหัวไร่ปลายนา การทำป่าร่วมยาง และป่าวนเกษตร ทั้งวิถีวัฒนธรรม ความเชื่อ ที่อยู่คู่กับเกษตรกร องค์ความรู้ พืชน้ำ พันธุกรรมสัตว์ประจำถิ่น วิถีชาวนา วิถีประมงชายฝั่ง และความหลากหลายทางชีวภาพ และที่สำคัญภายในงานยังมีการถ่ายทอดองค์ความรู้ผ่านการอบรมวิชาของแผ่นดินและ Workshop กว่า 16 วิชา โดยไม่มีค่าใช้จ่าย อาทิ หลักสูตร“จากพืชเชิงเดี่ยว สู่เกษตรพอเพียง” โดย รศ.ดร.สุภีร์ สมอนา จาก “สวนเกษตรคนอินทรีย์” จ.นครราชสีมา หลักสูตร“ปรุงดินด้วยปุ๋ยหมัก 5 พลัง” โดย อาจารย์เพชรรุ่ง พุกกะเวส เครือข่ายพิพิธภัณฑ์เกษตรฯ จ.จันทบุรี หลักสูตร“สะเดานอกฤดู สร้างรายได้” โดย อาจารย์วีรยุทธ ศรีเลอจันทร์ (อ.ทอง ธรรมดา) เครือข่ายพิพิธภัณฑ์เกษตรฯ จ.นครราชสีมา หลักสูตร“พลิกดิน สู่ชีวิตอินทรีย์” โดย อาจารย์สุธรรม จันทร์อ่อน “ปราชญ์เกษตรของแผ่นดิน” จ.นครปฐม หลักสูตร“ระบบซิงค์ผลิตไฟฟ้า ลดการพึ่งพา” โดย อาจารย์ธีระยุทธ ทองเต่าอินทร์ หลักสูตร“ปั้นแบรนด์ธุรกิจ ด้วยเทคนิคการเล่าเรื่อง” โดย ดร.สุชีรา มาตยภูธร ภาควิชาส่งเสริมและนิเทศศาสตร์เกษตร คณะเกษตร กำแพงแสน จ.นครปฐม หลักสูตร“เบญจคุณ บำรุงดิน” โดย อาจารย์เฉลิม พีรี “สวนเกษตรสมคิด” เครือข่ายพิพิธภัณฑ์เกษตรฯ จ.กำแพงเพชร นายสมเกียรติ ไพฑูรย์ เครือข่ายพิพิธภัณฑ์เกษตรฯ จังหวัดปราจีนบุรี กล่าวเพิ่มเติมส่วนของกิจกรรมเครือข่ายพิพิธภัณฑ์เกษตรฯ ว่า “นิทรรศการ “ดินอุดม น้ำสมบูรณ์ เกื้อกูลชีวิตที่สมดุล”เกิดจากความร่วมมือของเหล่าเครือข่ายพิพิธภัณฑ์เกษตรฯ ได้มารวมตัวและร่วมจัดแสดงนิทรรศการ ถ่ายทอดความรู้ ประสบการณ์ที่ได้ประยุกต์ใช้ในภูมิสังคม ของแต่ละคน ผ่านความสำเร็จ ความล้มเหลวมาบอกเล่า และสร้างแรงบันดาลใจในงานครั้งนี้ โดยเฉพาะด้านการจัดการดิน ซึ่งถือเป็นหัวใจสำคัญของการเกษตร แต่ละพื้นที่มีลักษณะดิน ภูมินิเวศน์ และปัญหาที่แตกต่างกัน ดังนั้นจะได้เห็นตัวอย่างการปรับใช้แนวพระราชดำริให้เหมาะสมกับสภาพแวดล้อมท้องถิ่น เช่น การทำแนวกันดินและระบบน้ำสำหรับพื้นที่สูงและลาดชัน การบำรุงดินทรายหรือดินเปรี้ยวด้วยปุ๋ยหมักและวัสดุอินทรีย์ การปลูกพืชคลุมดินเพื่อป้องกันการชะล้างดินในพื้นที่ลุ่ม การจัดการหัวไร่ปลายนาอย่างเป็นระบบ การสร้างป่าร่วมยางหรือป่าวนเกษตรเพื่อฟื้นฟูความอุดมสมบูรณ์ของดินและระบบนิเวศน์ และการปลูกหญ้าแฝกเพื่อรักษาหน้าดิน ทุกเทคนิคและวิธีการเหล่านี้สะท้อนการน้อมนำแนวพระราชดำริให้เข้ากับบริบทของดินในแต่ละภูมิภาคอย่างเหมาะสม พร้อมทั้งสอดแทรกองค์ความรู้เรื่องการจัดการน้ำและการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติอย่างสมดุล เพื่อให้ผู้เข้าร่วมงานไม่เพียงแค่ชมผลงาน แต่สามารถเรียนรู้แนวทางและนำไปปรับใช้ได้จริงตามสภาพพื้นที่ของตนเอง เป็นการส่งต่อภูมิปัญญาและแนวคิดที่ยั่งยืนของในหลวงรัชกาลที่ 9 สู่การปฏิบัติในชีวิตจริง” พันจ่าเอก ประเสริฐ มาลัย ผู้อำนวยการสำนักงานพิพิธภัณฑ์เกษตรเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว กล่าวเชิญชวนเนื่องในวันพ่อแห่งชาติ ในช่วงเช้าเวลา 08.30 น. ขอเชิญร่วมทำบุญใส่บาตรข้าวสารอาหารแห้ง พระสงฆ์ จำนวน 69 รูป เพื่อถวายเป็นพระราชกุศลแด่พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร และสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง และช่วงเวลา 17.00 น. เป็นต้นไป ขอเชิญร่วมกิจกรรมและรับชมการแสดงโขนเทิดพระเกียรติ ชุด “คารวาลัยพระมิ่งมาตาคู่บุญญาบารมีบรมจักรีองค์ภูมิพล” พร้อมรับฟังบทเพลงพระราชนิพนธ์จากเสียงขลุ่ยของอาจารย์ธนิสร์ ศรีกลิ่นดี และคุณขวัญข้าว ธิดารินทร์ และร่วมจุดเทียนน้อมรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณ และขอย้ำว่าตลอดทั้ง 4 วัน ชม ช้อป ผลผลิต สินค้าแปรรูปจากเกษตรกรเครือข่ายฯ กว่า 200 ร้าน เปิดให้เข้าชม 6 พิพิธภัณฑ์ ไม่มีค่าใช้จ่าย ได้แก่ พิพิธภัณฑ์ในหลวงรักเรา พิพิธภัณฑ์มหัศจรรย์พันธุกรรม พิพิธภัณฑ์ป่าดงไพร พิพิธภัณฑ์ดินดล พิพิธภัณฑ์สนองพระราชปณิธาน นิทรรศการขุมทรัพย์แห่งแผ่นดิน และพิพิธภัณฑ์กษัตริย์เกษตร นิทรรศการ Immersive of Mado Pavilion พร้อมกิจกรรมหลากหลายภายในงาน อาทิ ทำภาพพิมพ์ wood cut กิจกรรม Eco Bag สีสันจากธรรมชาติ เพาะแจกแลกเปลี่ยน เป็นนต้น มาทุกวันได้เรียนรู้สิ่งใหม่ๆทุกวัน สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมโทร.02-529-2212, 087-359-7171, 094-649-2333 หรือทาง Facebook พิพิธภัณฑ์การเกษตรฯ Website www.wisdomking.or.th
วันที่ 28 พฤศจิกายน 2568 น้อง ๆ และเจ้าหน้าที่ จากโรงเรียนสาธิตแห่งมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ศูนย์วิจัยและพัฒนาการศึกษา กทม. โรงเรียนนครรังสิต สิริเวชชะพันธ์ จ.ปทุมธานี และกรมปศุสัตว์ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กทม. เข้าร่วมโครงการส่งเสริมการเรียนรู้เกษตรเศรษฐกิจพอเพียง โดยเริ่มต้นกิจกรรมด้วยการเรียนรู้พระอัจฉริยภาพของในหลวงรัชกาลที่ 9 ที่มุ่งเน้นการพัฒนาประเทศ และส่งเสริมให้ประชาชนสามารถพึ่งพาตนเองได้ รวมถึงเรียนรู้เรื่องราวหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง ในพิพิธภัณฑ์ในหลวงรักเรา ผ่านนิทรรศการตามรอยพ่อ นิทรรศการนวัตกรรมเกษตรเศรษฐกิจพอเพียง นิทรรศการตามรอยพ่อ นิทรรศการวิถีเกษตรลุ่มน้ำ นิทรรศการน้ำคือชีวิต นิทรรศการตลาดเก่าชาวเกษตร และนิทรรศการพิพิธภัณฑ์ป่าดงพงไพร ต่อด้วยเข้าชมภาพยนตร์แอนิเมชัน 3 มิติ และ 7 มิติ นอกจากนั้นทางคณะยังได้เข้าชมพิพิธภัณฑ์กลางแจ้ง สนุกไปกับการเดินชมการเรียนรู้ผักคุณภาพในโรงเรือน การขยายพันธุ์พื้น เกษตรพอเพียงเมือง และ 1 ไร่ พอเพียง ที่ พร้อมลงมือฝึกปฏิบัติการขยายพันธุ์พืชแบบควบแน่น และการเพาะเห็ดฟางในตะกร้า เป็นต้น หน่วยงานใดที่สนใจเข้าร่วมเรียนรู้ในรูปแบบหมู่คณะ สามารถดูหลักสูตรต่างๆได้ที่ https://www.wisdomking.or.th/views/course/ สอบถามรายละเอียด 094-649-2333 087-359-7171 02-529-2212 หรือ www.wisdomking.or.th facebook: wisdomkingmuseum และ Line ID: @wisdomkingmuseum
สำนักงานพิพิธภัณฑ์เกษตรเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว (องค์การมหาชน) จัดโครงการส่งเสริมการเรียนรู้การอนุรักษ์ทรัพยากร “ค่ายเรียนรู้พันธุกรรมพืชท้องถิ่น จังหวัดอุตรดิตถ์” ระหว่างวันที่ 21–23 พฤศจิกายน 2568 ณ ศูนย์เรียนรู้เครือข่าย พกฉ. จังหวัดอุตรดิตถ์ “กลุ่มเกษตรธรรมเพื่อชีวิต” วัดดอยท่าเสา อำเภอเมือง จังหวัดอุตรดิตถ์ โดยมีเยาวชนในพื้นที่เข้าร่วมทำกิจกรรม โครงการดังกล่าวมีวัตถุประสงค์เพื่อเสริมสร้างความรู้และความเข้าใจด้านการอนุรักษ์พันธุกรรมพืชท้องถิ่น ตลอดจนปลูกฝังจิตสำนึกในการหวงแหนและรักษาทรัพยากรธรรมชาติในชุมชน กระตุ้นให้เยาวชนตระหนักถึงคุณค่าและประโยชน์ของทรัพยากรพืชพื้นบ้าน ซึ่งเป็นรากฐานสำคัญของความมั่นคงทางอาหารและสิ่งแวดล้อม ภายในค่ายเยาวชนได้ร่วมเรียนรู้กับปราชญ์ชุมชนผ่านฐานกิจกรรมหลากหลาย อาทิ “ลูกประคบสมุนไพร ภูมิปัญญาเพื่อสุขภาพ” การทำบุษบาห่มผ้า และการประดิษฐ์พวงกุญแจสมุนไพรหอม พร้อมเรียนรู้ภูมิปัญญาท้องถิ่นด้านสมุนไพรและพืชพื้นบ้าน กิจกรรมได้รับความสนใจและความร่วมมืออย่างคึกคัก สร้างแรงบันดาลใจให้เยาวชนสามารถนำความรู้ไปต่อยอดในการอนุรักษ์ทรัพยากรในพื้นที่ของตนอย่างยั่งยืน
วันที่ 21 พฤศจิกายน 2568 พิพิธภัณฑ์การเกษตรฯ จ.ปทุมธานี ต้อนรับคณะนักเรียน จากโรงเรียนพระหฤทัยนนทบุรี จ.นนทบุรี โรงเรียนสารสาสน์วิเทศราชพฤกษ์ จ.นนทบุรี โรงเรียนบดินทรเดชา(สิงห์ สิงหเสนี) กทม. เข้าร่วมโครงการส่งเสริมการเรียนรู้เกษตรเศรษฐกิจพอเพียง โดยเริ่มต้นกิจกรรมด้วยการเรียนรู้พระอัจฉริยภาพของในหลวงรัชกาลที่ 9 ที่มุ่งเน้นการพัฒนาประเทศ และส่งเสริมให้ประชาชนสามารถพึ่งพาตนเองได้ รวมถึงเรียนรู้เรื่องราวหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง ในพิพิธภัณฑ์ในหลวงรักเรา ผ่านนิทรรศการหลักการทรงงาน นิทรรศการนวัตกรรมเกษตรเศรษฐกิจพอเพียง นิทรรศการวิถีเกษตรของพ่อ และนิทรรศการพิพิธภัณฑ์ป่าดงพงไพร จากนั้นสนุกกับการทำงานร่วมกันเป็นทีมในกิจกรรมสร้างสรรค์ความคิด ตามด้วยการเข้าชมภาพยนตร์การ์ตูนแอนิเมชัน 3 มิติ นอกจากนั้นทางคณะยังได้เข้าชมพิพิธภัณฑ์กลางแจ้ง สนุกไปกับการเดินชมการเรียนรู้ อาทิ ฐานการเรียนรู้บ้านนวัตกรรมพลังงาน ฐานการเรียนรู้บ้านดินบ้านฟาง ฐานการเรียนรู้เกษตรพอเพียงเมือง ฐานการเรียนรู้ 1 ไร่พอเพียง และได้ลงมือฝึกปฏิบัติขยายพันธุ์พันธุ์(ควบแน่น) การเพาะเห็ดฟางในตะกร้า ที่และการสร้างบ้านดิน สามารถนำไปปรับประยุกต์ใช้ได้จริง อีกทั้งยังเป็นการสร้างจิตสำนึกที่ดีในการทำเกษตรในกับผู้ที่เข้าร่วมกิจกรรมอีกด้วย หน่วยงานใดที่สนใจเข้าร่วมเรียนรู้ในรูปแบบหมู่คณะ สามารถดูหลักสูตรต่างๆได้ที่ https://www.wisdomking.or.th/views/course/ สอบถามรายละเอียด 094-649-2333 087-359-7171 02-529-2212 หรือ www.wisdomking.or.th facebook: wisdomkingmuseum และ Line ID: @wisdomkingmuseum
วันที่ 20 พฤศจิกายน 2568 โรงเรียนสยามสามไตร กทม. และองค์การบริหารส่วนตำบลบางพลีใหญ่ จ.สมุทรปราการ เข้าเยี่ยมชมภายในพิพิธภัณฑ์การเกษตรเฉลิมพระเกียรติฯ จ.ปทุมธานี ซึ่งน้อง ๆ มาศึกษา และเรียนรู้พระอัจฉริยภาพของในหลวงรัชกาลที่ 9 ที่มุ่งเน้นการพัฒนาประเทศ และส่งเสริมให้ประชาชนสามารถพึ่งพาตนเองได้ รวมถึงเรียนรู้เรื่องราวหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง ในพิพิธภัณฑ์ในหลวงรักเรา ผ่านนิทรรศการหลักการทรงงาน นิทรรศการตามรอยพ่อ นิทรรศการวิถีเกษตรของพ่อ และเข้าชมพิพิธภัณฑ์ป่าดงพงไพร ถ่ายทอดองค์ความรู้ด้านระบบนิเวศและทรัพยากรป่าไม้ผ่านนิทรรศการที่จัดแสดงอย่างเป็นระบบ ผู้เข้าชมสามารถเรียนรู้โครงสร้างของป่า ความสัมพันธ์ของสิ่งมีชีวิต และแนวคิดการอนุรักษ์ธรรมชาติได้อย่างลึกซึ้ง พร้อมสนุกกับการทำงานร่วมกันเป็นทีมในกิจกรรมสร้างสรรค์ความคิด ตามด้วยการเข้าชมภาพยนตร์การ์ตูนแอนิเมชัน 3 มิติ จากนั้นยังได้เข้าชม และเรียนรู้ไปในฐานเรียนรู้พิพิธภัณฑ์กลางแจ้งเส้นทางนวัตกรรมเกษตรเศรษฐกิจพอเพียง อาทิ ฐานเรียนรู้บ้านนวัตกรรมพลังงาน ฐานเรียนรู้เกษตรพอเพียงเมือง ฐานเรียนรู้วิถีเกษตรไทย 4 ภาค ปิดท้ายด้วยการลงมือฝึกปฏิบัติการทำนาดำ และนาโยนกล้า หน่วยงานใดที่สนใจเข้าร่วมเรียนรู้ในรูปแบบหมู่คณะ สามารถดูหลักสูตรต่างๆได้ที่ https://www.wisdomking.or.th/views/course/ สอบถามรายละเอียด 094-649-2333 087-359-7171 02-529-2212 หรือ www.wisdomking.or.th facebook: wisdomkingmuseum และ Line ID: @wisdomkingmuseum
ขยายเวลา...ตามคำเรียกร้อง !! ค้นหา 9 ผู้กล้า รุ่นที่ 16เปิดรับสมัครตั้งแต่วันนี้ ถึง 31 ตุลาคม 2568 คลิ๊กเลย https://forms.gle/CV4sAeeAfbAQyiNU8 พิพิธภัณฑ์การเกษตรฯ เปิดรับสมัครท่านที่สนใจเข้ามาเรียนรู้การทำเกษตรตามศาสตร์ของแผ่นดินแบบเข้มข้นระยะเวลา 4 เดือนเต็ม ในหลักสูตรเกษตรทฤษฎีใหม่ประยุกต์ 1 ไร่ มั่งคั่ง ยั่งยืน รุ่นที่ 16เรียนรู้อยู่แปลงแบบครบเครื่องเรื่องการเกษตรตั้งแต่ทฤษฎีสู่การลงมือปฏิบัติบนพื้นที่ในสถานการณ์จริง โดยผ่านกระบวนการสอนอย่างเข้มข้นจากวิทยากรต้นแบบผู้มากประสบการณ์ อาทิ อาจารย์เฉลิม พีรี อาจารย์ปรีชา บุญท้วม เป็นต้นเปิดรับสมัคร : วันนี้ - 31 ตุลาคม 2568สัมภาษณ์ : 8 พฤศจิกายน 2568**ประกาศผล : 9 พฤศจิกายน 2568**ระยะเวลาเรียนรู้ : 13 พฤศจิกายน 2568 - 12 มีนาคม 2569****(เวลาอาจมีการเปลี่ยนแปลงตามความเหมาะสม)
ขอเชิญทุกท่าน ร่วมเทิดพระเกียรติสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ในงานตลาดเศรษฐกิจพอเพียง “สานต่อ งานแม่” วันที่ 2 – 3 สิงหาคม 2568 ตั้งแต่เวลา 08.00 – 17.00 น. ณ พิพิธภัณฑ์การเกษตรเฉลิมพระเกียรติฯ จ.ปทุมธานี พบกับ นิทรรศการเทิดพระเกียรติรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณของพระบรมราชชนนีพันปีหลวง จัดแสดงผ้าไหม 21 ลายทรงเลือก อบรมวิชาของแผ่นดิน และ Workshop เกษตร 8 วิชา ฟรี! ชม ชิม ช๊อป สินค้าดีจากเกษตรกรเครือข่ายทั่วประเทศ
พิพิธภัณฑ์การเกษตรเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว จัดอบรมหลักสูตร “ปลูกผักครบวงจร” เพื่อถ่ายทอดองค์ความรู้ด้านการปลูกผักอย่างเป็นระบบให้แก่ประชาชนที่สนใจ โดยมีเป้าหมายในการสร้างทักษะที่สามารถนำไปใช้ได้จริง ทั้งในระดับครัวเรือนและต่อยอดเป็นอาชีพ ตลอดการอบรม ผู้เข้าร่วมอบรมได้รับความรู้ครบถ้วนตั้งแต่พื้นฐานของการปลูกผัก การเตรียมดิน การเลือกพันธุ์พืช การหยอดเมล็ด การดูแลรักษา และการเก็บเกี่ยวผลผลิต โดยวิทยากรจากทางพิพิธภัณฑ์การเกษตรฯ ถ่ายทอดความรู้ในรูปแบบที่เข้าใจง่าย พร้อมกิจกรรมภาคปฏิบัติที่ให้ผู้เข้าอบรมได้ลงมือทำจริงทุกขั้นตอน
พิพิธภัณฑ์การเกษตรเฉลิมพระเกียรติฯ จัดกิจกรรมค่ายครอบครัวเรียนรู้เกษตร Family Day Camp ครั้งที่ 2 ระหว่างวันที่ 26 – 27 กรกฎาคม 2568 โดยมีผู้เข้าร่วมจำนวน 5 ครอบครัว ร่วมเรียนรู้และใช้ชีวิตร่วมกันในบรรยากาศที่อบอุ่น สนุกสนาน และเปี่ยมด้วยสาระ ณ พิพิธภัณฑ์การเกษตรเฉลิมพระเกียรติฯ จังหวัดปทุมธานีกิจกรรมตลอด 2 วัน 1 คืน เริ่มต้นด้วยการต้อนรับอย่างอบอุ่นจากทีมวิทยากร ที่มาพร้อมกิจกรรมละลายพฤติกรรมและความสนุกสนาน ก่อนเข้าสู่กระบวนการเรียนรู้ผ่านกิจกรรมเชิงปฏิบัติในรูปแบบ Work shop การทำเกษตรครบวงจรในพื้นที่จริง โดยผู้เข้าร่วมได้ลงมือทำกิจกรรมหลากหลาย อาทิ การปลูกผัก การสาธิตการปรุงดิน การทำปุ๋ยหมัก ตลอดจนกิจกรรมแคมป์ปิ้งยามค่ำคืน ที่เปิดโอกาสให้ทุกคนได้สัมผัสความเพลิดเพลินท่ามกลางธรรมชาติอย่างใกล้ชิดในกิจกรรม "ลั่นป่า" ตามล่าหาพันธุ์ไม้ในป่า 16 ไร่ รวมถึงร่วมกันทำกิจกรรม DIY ประดิษฐ์ของที่ระลึกจากพืชพรรณธรรมชาติ พร้อมเข้าพิพิธภัณฑ์มหัศจรรย์พันธุกรรม และนิทรรศการขุมทรัพย์แห่งแผ่นดิน สนุกทะลุจอในโรงภาพยนตร์ 3 มิติ และโรงภาพยนตร์ 7 มิติ สร้างความตื่นตาตื่นใจให้กับเด็ก ๆ กิจกรรมจบลงด้วยบรรยากาศอบอุ่นในการสรุปปิดค่ายพร้อมภาพความประทับใจของแต่ละครอบครัว
สำนักงานพิพิธภัณฑ์เกษตรเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว (องค์การมหาชน) จัดประชุมคณะกรรมการตรวจสอบ ครั้งที่ 7/2568 โดยมี นางสาวเบญจพร ชาครานนท์ เป็นประธานการประชุมในวันพฤหัสบดีที่ 17 กรกฎาคม 2568 เวลา 13.30 น. ณ ห้องประชุมตามรอยพ่อ ชั้น 3 อาคารสำนักงานพิพิธภัณฑ์เกษตรเฉลิมพระเกียรติฯ อำเภอคลองหลวง จังหวัดปทุมธานี โดยมีรายละเอียดการประชุม ดังนี้ ระเบียบวาระที่ 1 เรื่องที่ประธานแจ้งให้ที่ประชุมทราบ 1.1 เรื่อง สรุปประเด็นการประชุมคณะกรรมการ พกฉ. ครั้งที่ 6/2568 ระเบียบวาระที่ 2 เรื่องการรับรองรายงานการประชุมคณะกรรมการตรวจสอบ ครั้งที่ 6/2568 ระเบียบวาระที่ 3 เรื่องสืบเนื่องที่เสนอให้ที่ประชุมทราบ 3.1 เรื่อง รายงานผลการปฏิบัติตามมติของคณะกรรมการตรวจสอบ 3.2 เรื่อง รายงานผลการปฏิบัติตามข้อเสนอแนะของกลุ่มตรวจสอบภายใน เรื่องสืบเนื่องที่เสนอให้ที่ประชุมพิจารณา 3.3 เรื่อง คู่มือการปฏิบัติงานตรวจสอบภายใน ระเบียบวาระที่ 4 เรื่องที่เสนอให้ที่ประชุมทราบ 4.1 เรื่อง รายงานผลการดำเนินงานด้านการเงินและภารกิจ ไตรมาส 3/2568 4.2 เรื่อง รายงานผลปฏิบัติตามแผนการตรวจสอบประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2568 ไตรมาส 3 4.3 เรื่อง รายงานผลการปฏิบัติตามแผนพัฒนาบุคลากรของกลุ่มตรวจสอบภายใน ไตรมาส 3/2568 ระเบียบวาระที่ 5 เรื่องที่เสนอให้ที่ประชุมพิจารณา 5.1 เรื่อง รายงานผลการดำเนินงานของคณะกรรมการตรวจสอบ ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2568 ไตรมาส 3 5.2 เรื่อง รายงานผลการตรวจสอบประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2568 - รายงานผลการตรวจสอบ เรื่อง กิจกรรมสนับสนุนด้านสารสนเทศ (IT Support) 5.3 เรื่อง กำหนดการประชุมคณะกรรมการตรวจสอบ ครั้งที่ 8/2568 ระเบียบวาระที่ 6 เรื่องอื่นๆ
พิพิธภัณฑ์การเกษตรเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว จ.ปทุมธานี ชวนเที่ยวงานตลาดเศรษฐกิจพอเพียง “รู้ก่อนทำเกษตร” เปิดประสบการณ์ใหม่ในการเรียนรู้ด้านการเกษตรแบบรอบด้านจากวิทยากรมากประสบการณ์ ภายในงานพบกับนิทรรศการ “9 รู้ 9 รอด” ถ่ายทอดองค์ความรู้และแนวคิดการดำเนินชีวิตตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง การอบรมวิชาของแผ่นดิน และกิจกรรม Workshop ถึง 8 วิชา โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย พร้อมเลือกชมและเลือกซื้อสินค้าเกษตรคุณภาพปลอดภัยจากเครือข่ายพิพิธภัณฑ์ฯ และเกษตรกรภาคีความร่วมมือจากทั่วประเทศกว่า 100 ร้านค้า จัดขึ้นระหว่างวันที่ 3 – 4 พฤษภาคม 2568 ตั้งแต่เวลา 08.00 – 17.00 น. ณ พิพิธภัณฑ์การเกษตรเฉลิมพระเกียรติฯ จ.ปทุมธานี พันจ่าเอก ประเสริฐ มาลัย ผู้อำนวยการสำนักงานพิพิธภัณฑ์เกษตรเฉลิมพระเกียรติฯ กล่าวว่า “พิพิธภัณฑ์การเกษตรฯ ดำเนินงานตามแนวทางศาสตร์พระราชา ที่ทรงให้ความสำคัญกับภาคการเกษตรมาโดยตลอด การจัดงานตลาดเศรษฐกิจพอเพียง “รู้ก่อนทำเกษตร” ไม่เพียงแต่เตรียมความพร้อมทางความรู้เท่านั้น แต่ยังเป็นการสร้างแรงบันดาลใจให้แก่ เกษตรกร และประชาชนที่กำลังมองหาหนทางในการเริ่มต้นชีวิตใหม่ ผ่านการทำเกษตรอย่างเข้าใจและยั่งยืน ภายในงานผู้เข้าร่วมจะได้พบกับการแลกเปลี่ยนพูดคุยและการถ่ายทอดความรู้จากเกษตรกรเครือข่ายพิพิธภัณฑ์เกษตรฯ ผู้มีประสบการณ์จริง โดยเน้นการเรียนรู้เรื่องการวางแผนก่อนลงมือทำเกษตร การเลือกพันธุ์พืช การจัดการดิน น้ำ และแหล่งทรัพยากร ซึ่งจะจุดประกายแรงบันดาลใจให้แก่เกษตรกรรุ่นใหม่ ผู้สนใจการทำเกษตร รวมถึงผู้แสวงหาทางเลือกใหม่ในชีวิต ด้วยองค์ความรู้ที่ผ่านการพิสูจน์จากผู้ลงมือปฏิบัติจริง สู่การพัฒนาเกษตรไทยอย่างมั่นคงและยั่งยืน” ภายในงานนำเสนอองค์ความรู้จากนิทรรศการ “9 รู้ 9 รอด” โดยอาจารย์เฉลิม พีรี ปราชญ์เกษตรของแผ่นดิน เครือข่ายพิพิธภัณฑ์เกษตรฯ จ.กำแพงเพชร ที่มาถ่ายทอด 9 องค์ความรู้ที่เกษตรกรมือใหม่ไม่ควรพลาด พร้อมเปิดคลินิกให้คำปรึกษาปัญหาเกษตรภายในงาน พลาดไม่ได้กับการอบรมวิชาของแผ่นดินและอบรมเชิงปฏิบัติการกว่า 8 วิชา เรียนรู้ได้ทั้ง Onsite และ Online ฟรี อาทิ หลักสูตร “ผักพื้นบ้าน” อาหารต้านโรค อาจารย์ธาตุดิน หอมจันทร์ จ.ลพบุรี หลักสูตร “เกษตรเปลี่ยนชีวิต”อาจารย์ประทีป มายิ้ม “สวนพออยู่พอกิน บ้านมายิ้ม” จ.ชลบุรี รู้ก่อนทำเกษตร อาจารย์วีรยุทธ ศรีเลอจันทร์ (อ.ทอง ธรรมดา) “ศูนย์เรียนรู้สวนเพชรพิมาย” จ.นครราชสีมา และหลักสูตร “เกษตรอินทรีย์ ฟื้นดิน สร้างชีวิต” อาจารย์อำนาจ เรียนสร้อย “แทนคุณ ออร์แกนิคฟาร์ม” จ.นครปฐม เป็นต้น ชม ชิม ช็อปสินค้าเกษตรปลอดภัย ผลไม้ตามฤดูกาล สด ใหม่จากทั้ง 4 ภาค จุใจไปกับทั้งของกิน ของใช้ ผลิตภัณฑ์แปรรูป ต้นไม้พันธุ์ไม้ โดยเกษตรกรเครือข่ายพิพิธภัณฑ์เกษตรฯ และร้านค้าภาคีความร่วมมือกว่า 100 ร้านค้า ในราคามิตรภาพ สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม โทรศัพท์ 02-529-2212-13, 087-359-7171 คลิกดูรายละเอียดได้ที่ www.wisdomking.or.th หรือ Facebook / Line ID : @wisdomkingmuseum
วันที่ 23 เมษายน 2568 สำนักงานพิพิธภัณฑ์เกษตรเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว (องค์การมหาชน) หรือ พกฉ. จัดประชุมเชิงปฏิบัติการเพื่อทบทวนประเด็นยุทธศาสตร์ กลยุทธ์ กิจกรรม และตัวชี้วัด ของ พกฉ. และแผนปฏิบัติการดิจิทัล ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2569 โดยได้รับเกียรติจาก พันจ่าเอก ประเสริฐ มาลัย ผู้อำนวยการสำนักงานพิพิธภัณฑ์เกษตรฯ เป็นประธานเปิดการประชุม โดยมี ดร.วัชรวิชญ กีรติดุสิตโรจน์ พร้อมทีมงานจาก ฮาร์วาดเอเซียอคาเดมี่ เป็นวิทยากรถ่ายทอดองค์ความรู้ โดยนำนวัตกรรมปัญญาประดิษฐ์และยุทธศาสตร์การพัฒนา ผสานปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงและเกษตรทฤษฎีใหม่ เพื่อยกระดับและเพิ่มประสิทธิภาพการดำเนินงานให้กับ พกฉ. จัดขึ้นระหว่างวันที่ 21 – 23 เมษายน 2568 ณ ห้องประชุมศาสตร์พระราชา ชั้น 2 อาคารสำนักงานพิพิธภัณฑ์เกษตรเฉลิมพระเกียรติฯ อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี
วันที่ 15 มีนาคม 2568 รายการตามก้องไปเจอนี่ ออกอากาศทางช่อง 3 HD โดย พี่ก้อง ปิยะ เศวตพิกุล พาไปเรียนรู้พระเกียรติคุณ และพระอัจฉริยภาพกษัตริย์เกษตร กันที่ฐานเรียนรู้ภายในพิพิธภัณฑ์ในหลวงรักเรา และเส้นทางสืบสาน รักษา ต่อยอด ไปชิมอาหารกันที่ร้านอาหารกิน อยู่ ดี ต้อนรับโดย พันจ่าเอก ประเสริฐ มาลัย ผู้อำนวยการสำนักงานพิพิธภัณฑ์เกษตรเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รับชมได้ทาง
วันศุกร์ที่ 14 มีนาคม 2568 พิพิธภัณฑ์การเกษตรเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวจ.ปทุมธานี เปิดงาน “กิน เที่ยว เดิน เพลินพิพิธภัณฑ์ Night at the Museum 2025” ซึ่งจัดขึ้นระหว่างวันที่ 14 - 16 มีนาคม 2568 ตั้งแต่เวลา 16.00 - 22.00 น. ทางด้านพันจ่าเอก ประเสริฐ มาลัย ผู้อำนวยการสำนักงานพิพิธภัณฑ์เกษตรเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เปิดเผยว่า “กิจกรรม กิน เที่ยว เดิน เพลินพิพิธภัณฑ์ Night at the Museum 2025 เป็นอีกหนึ่งกิจกรรมที่ช่วยส่งเสริมการเรียนรู้ และเผยแพร่พระอัจฉริยภาพและพระเกียรติคุณของพระมหากษัตริย์และพระบรมวงศานุวงศ์ ด้านการเกษตร รวมทั้งส่งเสริมและกระตุ้นการท่องเที่ยวพิพิธภัณฑ์ สำหรับกลุ่มเป้าหมายนอกเวลาทำการปกติ โดยมุ่งหวังในการสร้างกระแสวัฒนธรรมการเรียนรู้และท่องเที่ยวผ่านพิพิธภัณฑ์และแหล่งเรียนรู้เชิงเกษตร เกิดกิจกรรมในการกระตุ้นเศรษฐกิจชุมชน การบูรณาการความร่วมมือจากทุกภาคส่วนในการสนับสนุนให้พิพิธภัณฑ์เป็นจุดหมายปลายทางของการเรียนรู้และการท่องเที่ยวของประเทศอย่างยั่งยืน เปิดโอกาสให้ประชาชน นักท่องเที่ยว ได้สัมผัสกับเสน่ห์ของพิพิธภัณฑ์ยามค่ำ ผ่านสีสัน กิจกรรมร่วมสนุก ของกินของอร่อย พร้อมทั้งเปิดตัวนิทรรศการพิพิธภัณฑ์กษัตริย์เกษตรรูปแบบใหม่ ที่นำเทคโนโลยี Projection Mapping มารังสรรค์ผลงาน ผสานความงดงามด้านการเกษตร ถ่ายทอดสู่นิทรรศการ Immersive of Mado pavilion พร้อมนิทรรศการ “กิน อยู่ ดี” จากปลูกสู่ปาก โปรตีนจากพระราชา สู่การกินดี อยู่ดี เพื่อสุขภาพที่ยั่งยืน พบองค์ความรู้ดีๆ จากวิทยากรมาร่วม Workshop แบบไม่มีค่าใช้จ่าย ดื่มด่ำบรรยากาศสไตล์ย้อนยุคแบบงานวัด และกิจกรรมสนุกสนาน ลุ้นโชคกับเกมตกปลาหรรษา ชิงช้าสวรรค์ บิงโกเกษตร ตักปลา เพลิดเพลินกับคาราวานสินค้าของดี ของเด่นปทุมธานี กว่า 100 ร้านค้า และที่พลาดไม่ได้เมนูพิเศษ จากร้านกิน อยู่ ดี กับบุฟเฟ่ต์ขนมจีนเส้นสด อิ่มไม่อั้นสุดคุ้มในราคา 69 บาท เลือกอร่อยตามชอบกับน้ำยาป่า น้ำยากะทิ น้ำยาน้ำพริก รับประทานคู่กับเครื่องเคียงอย่างไข่ต้มและผักอินทรีย์สดใหม่ เติมความสดชื่นจากน้ำสมุนไพรไทย และกิจกรรมอื่นๆ อีกมากมายภายในงาน ณ Mado Pavilion ริมถนนพหลโยธิน พิพิธภัณฑ์การเกษตรเฉลิมพระเกียรติฯ ปทุมธานี ตั้งแต่เวลา 16.00 – 22.00 น.” สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม ได้ที่โทรศัพท์ 02-529-2212-13, 087-359-7171 คลิกดูรายละเอียดได้ทาง www.wisdomking.or.th หรือ facebook /Line ID : @wisdomkingmuseum
วันที่ 14-16 มีนาคมนี้ พบกับงานกิน เที่ยว เดิน เพลิน พิพิธภัณฑ์ Night at the Museum 2025 เปิดตัวนิทรรศการใหม่ Coming soon!!! Immersive of Mado Pavilion ดื่มด่ำไปกับสีสัน ในพิพิธภัณฑ์กษัตริย์ เกษตร ประสบการณ์การเรียนรู้ รูปแบบใหม่ Projection mapping ที่จะพาทำความรู้จักและทำความเข้าใจ ความเป็นมาของพิพิธภัณฑ์การเกษตร ตั้งแต่จุดเริ่มต้นไปจนถึงอนาคตพิพิธภัณฑ์ และนิทรรศการ“กินดีเพื่อสุขภาพ อยู่ดีเพื่อความสุขที่มั่นคง” จากทฤษฎีต้นน้ำ สู่ปลายน้ำของ พกฉ. ผลของการทำเกษตรตามแนวพระราชดำริที่สามารถทำได้จริงและเกิดผลสำเร็จแท้จริงอย่างยั่งยืน ปักหมุดที่ยว งานกิน เที่ยว เดิน เพลิน พิพิธภัณฑ์ Night at the Museum 2025 ณ Mado Pavilion ริมถนนพหลโยธิน พิพิธภัณฑ์การเกษตรเฉลิมพระเกียรติฯ ปทุมธานี ตั้งแต่เวลา 16.00 – 22.00 น.
22 – 23 กุมภาพันธ์นี้ เตรียมแพ็คกระเป๋า มาพิพิธภัณฑ์การเกษตรฯ ชวนเล่น สุข สนุก เรียนรู้อย่างสร้างสรรค์ 2 วัน 1 คืน กับค่ายครอบครัว จัดเต็มทุกกิจกรรม สนใจสมัครกิจกรรมคลิก https://shorturl.asia/A7enC รับสมัครชาวแก๊ง ตั้งแต่ 3 ขวบขึ้นไป ปักหมุด วันเสาร์ที่ 22 ถึง วันอาทิตย์ที่ 23 กุมภาพันธ์ 2568 ค่าใช้จ่ายครอบครัว 3 คน เพียง 2,500 บาท รับจำนวนจำกัดเพียง 10 ครอบครัว เท่านั้น สอบถามรายละเอียดได้ที่ 0-2529-2212-13 หรือ 087-359-7171 , 094-649-2333 คลิก www.wisdomking.or.th หรือทาง InstagramID: wisdomkingmuseum
ต้อนรับเทศกาลแห่งความรัก ไปกับงานตลาดเศรษฐกิจพอเพียง หวานใจ สายเกษตร ระหว่างวันที่ 1 – 2 กุมภาพันธ์ 2568 เวลา 08.00 – 17.00 น. ณ พิพิธภัณฑ์การเกษตรเฉลิมพระเกียรติฯ ปทุมธานี - เติมเต็มความหวานในเดือนแห่งความรัก ด้วยขบวนของหวานแสนอร่อย- นิทรรศการ องค์ความรู้จากดอกไม้กินได้ และความมหัศจรรย์สีสันจากธรรมชาติ- ช้อป สินค้า คาว-หวาน ผลผลิตปลอดภัย กว่า 100 ร้านค้า- อบรมฟรี วิชาของแผ่นดิน และWorkshop 8 วิชา
วันที่ 28 พฤศจิกายน 2568 น้อง ๆ และเจ้าหน้าที่ จากโรงเรียนสาธิตแห่งมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ศูนย์วิจัยและพัฒนาการศึกษา กทม. โรงเรียนนครรังสิต สิริเวชชะพันธ์ จ.ปทุมธานี และกรมปศุสัตว์ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กทม. เข้าร่วมโครงการส่งเสริมการเรียนรู้เกษตรเศรษฐกิจพอเพียง โดยเริ่มต้นกิจกรรมด้วยการเรียนรู้พระอัจฉริยภาพของในหลวงรัชกาลที่ 9 ที่มุ่งเน้นการพัฒนาประเทศ และส่งเสริมให้ประชาชนสามารถพึ่งพาตนเองได้ รวมถึงเรียนรู้เรื่องราวหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง ในพิพิธภัณฑ์ในหลวงรักเรา ผ่านนิทรรศการตามรอยพ่อ นิทรรศการนวัตกรรมเกษตรเศรษฐกิจพอเพียง นิทรรศการตามรอยพ่อ นิทรรศการวิถีเกษตรลุ่มน้ำ นิทรรศการน้ำคือชีวิต นิทรรศการตลาดเก่าชาวเกษตร และนิทรรศการพิพิธภัณฑ์ป่าดงพงไพร ต่อด้วยเข้าชมภาพยนตร์แอนิเมชัน 3 มิติ และ 7 มิติ นอกจากนั้นทางคณะยังได้เข้าชมพิพิธภัณฑ์กลางแจ้ง สนุกไปกับการเดินชมการเรียนรู้ผักคุณภาพในโรงเรือน การขยายพันธุ์พื้น เกษตรพอเพียงเมือง และ 1 ไร่ พอเพียง ที่ พร้อมลงมือฝึกปฏิบัติการขยายพันธุ์พืชแบบควบแน่น และการเพาะเห็ดฟางในตะกร้า เป็นต้น หน่วยงานใดที่สนใจเข้าร่วมเรียนรู้ในรูปแบบหมู่คณะ สามารถดูหลักสูตรต่างๆได้ที่ https://www.wisdomking.or.th/views/course/ สอบถามรายละเอียด 094-649-2333 087-359-7171 02-529-2212 หรือ www.wisdomking.or.th facebook: wisdomkingmuseum และ Line ID: @wisdomkingmuseum
วันที่ 21 พฤศจิกายน 2568 พิพิธภัณฑ์การเกษตรฯ จ.ปทุมธานี ต้อนรับคณะนักเรียน จากโรงเรียนพระหฤทัยนนทบุรี จ.นนทบุรี โรงเรียนสารสาสน์วิเทศราชพฤกษ์ จ.นนทบุรี โรงเรียนบดินทรเดชา(สิงห์ สิงหเสนี) กทม. เข้าร่วมโครงการส่งเสริมการเรียนรู้เกษตรเศรษฐกิจพอเพียง โดยเริ่มต้นกิจกรรมด้วยการเรียนรู้พระอัจฉริยภาพของในหลวงรัชกาลที่ 9 ที่มุ่งเน้นการพัฒนาประเทศ และส่งเสริมให้ประชาชนสามารถพึ่งพาตนเองได้ รวมถึงเรียนรู้เรื่องราวหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง ในพิพิธภัณฑ์ในหลวงรักเรา ผ่านนิทรรศการหลักการทรงงาน นิทรรศการนวัตกรรมเกษตรเศรษฐกิจพอเพียง นิทรรศการวิถีเกษตรของพ่อ และนิทรรศการพิพิธภัณฑ์ป่าดงพงไพร จากนั้นสนุกกับการทำงานร่วมกันเป็นทีมในกิจกรรมสร้างสรรค์ความคิด ตามด้วยการเข้าชมภาพยนตร์การ์ตูนแอนิเมชัน 3 มิติ นอกจากนั้นทางคณะยังได้เข้าชมพิพิธภัณฑ์กลางแจ้ง สนุกไปกับการเดินชมการเรียนรู้ อาทิ ฐานการเรียนรู้บ้านนวัตกรรมพลังงาน ฐานการเรียนรู้บ้านดินบ้านฟาง ฐานการเรียนรู้เกษตรพอเพียงเมือง ฐานการเรียนรู้ 1 ไร่พอเพียง และได้ลงมือฝึกปฏิบัติขยายพันธุ์พันธุ์(ควบแน่น) การเพาะเห็ดฟางในตะกร้า ที่และการสร้างบ้านดิน สามารถนำไปปรับประยุกต์ใช้ได้จริง อีกทั้งยังเป็นการสร้างจิตสำนึกที่ดีในการทำเกษตรในกับผู้ที่เข้าร่วมกิจกรรมอีกด้วย หน่วยงานใดที่สนใจเข้าร่วมเรียนรู้ในรูปแบบหมู่คณะ สามารถดูหลักสูตรต่างๆได้ที่ https://www.wisdomking.or.th/views/course/ สอบถามรายละเอียด 094-649-2333 087-359-7171 02-529-2212 หรือ www.wisdomking.or.th facebook: wisdomkingmuseum และ Line ID: @wisdomkingmuseum
วันที่ 20 พฤศจิกายน 2568 โรงเรียนสยามสามไตร กทม. และองค์การบริหารส่วนตำบลบางพลีใหญ่ จ.สมุทรปราการ เข้าเยี่ยมชมภายในพิพิธภัณฑ์การเกษตรเฉลิมพระเกียรติฯ จ.ปทุมธานี ซึ่งน้อง ๆ มาศึกษา และเรียนรู้พระอัจฉริยภาพของในหลวงรัชกาลที่ 9 ที่มุ่งเน้นการพัฒนาประเทศ และส่งเสริมให้ประชาชนสามารถพึ่งพาตนเองได้ รวมถึงเรียนรู้เรื่องราวหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง ในพิพิธภัณฑ์ในหลวงรักเรา ผ่านนิทรรศการหลักการทรงงาน นิทรรศการตามรอยพ่อ นิทรรศการวิถีเกษตรของพ่อ และเข้าชมพิพิธภัณฑ์ป่าดงพงไพร ถ่ายทอดองค์ความรู้ด้านระบบนิเวศและทรัพยากรป่าไม้ผ่านนิทรรศการที่จัดแสดงอย่างเป็นระบบ ผู้เข้าชมสามารถเรียนรู้โครงสร้างของป่า ความสัมพันธ์ของสิ่งมีชีวิต และแนวคิดการอนุรักษ์ธรรมชาติได้อย่างลึกซึ้ง พร้อมสนุกกับการทำงานร่วมกันเป็นทีมในกิจกรรมสร้างสรรค์ความคิด ตามด้วยการเข้าชมภาพยนตร์การ์ตูนแอนิเมชัน 3 มิติ จากนั้นยังได้เข้าชม และเรียนรู้ไปในฐานเรียนรู้พิพิธภัณฑ์กลางแจ้งเส้นทางนวัตกรรมเกษตรเศรษฐกิจพอเพียง อาทิ ฐานเรียนรู้บ้านนวัตกรรมพลังงาน ฐานเรียนรู้เกษตรพอเพียงเมือง ฐานเรียนรู้วิถีเกษตรไทย 4 ภาค ปิดท้ายด้วยการลงมือฝึกปฏิบัติการทำนาดำ และนาโยนกล้า หน่วยงานใดที่สนใจเข้าร่วมเรียนรู้ในรูปแบบหมู่คณะ สามารถดูหลักสูตรต่างๆได้ที่ https://www.wisdomking.or.th/views/course/ สอบถามรายละเอียด 094-649-2333 087-359-7171 02-529-2212 หรือ www.wisdomking.or.th facebook: wisdomkingmuseum และ Line ID: @wisdomkingmuseum
วันที่ 19 พฤศจิกายน 2568 พิพิธภัณฑ์การเกษตรเฉลิมพระเกียรติฯ จังหวัดปทุมธานี เต็มไปด้วยรอยยิ้ม และเสียงหัวเราะของน้อง ๆ จากโรงเรียนพระหฤทัยนนทบุรี จ.นนทบุรี เข้าร่วมโครงการส่งเสริมการเรียนรู้เกษตรเศรษฐกิจพอเพียง หลักสูตร “นวัตกรรมของพ่อ” ตลอดทั้งวัน น้อง ๆ ได้ทำกิจกรรมหลากหลาย ทั้งเรียนรู้การสร้างรากฐานให้กับตนเองด้วยปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงจากกิจกรรมสร้างสรรค์ความคิด "รากฐานแห่งความมั่นคง" ต่อด้วยการเข้าชม พิพิธภัณฑ์ป่าดงพงไพร การดูแลรักษาทรัพยากรธรรมชาติ ส่องสิ่งมีชีวิตในป่ากลางวันและป่ากลางคืน นอกจากนี้ น้อง ๆ ยังได้รับชมภาพยนตร์แอนิเมชัน 3 มิติ “เรื่องของพ่อในบ้านของเรา” และปิดท้ายด้วยการลงมือฝึกปฏิบัติ การทำนาโยนกล้า เป็นต้น กิจกรรมในครั้งนี้ไม่เพียงสร้างความสนุก และความสุข แต่ยังช่วยให้น้อง ๆ ได้ซึมซับแนวคิดเรื่องความพอเพียงและคุณค่าของการเกษตรอย่างรอบด้าน หน่วยงานใดที่สนใจเข้าร่วมเรียนรู้ในรูปแบบหมู่คณะ สามารถดูหลักสูตรต่างๆได้ที่ https://www.wisdomking.or.th/views/course/ สอบถามรายละเอียด 094-649-2333 087-359-7171 02-529-2212 หรือ www.wisdomking.or.th facebook: wisdomkingmuseum และ Line ID: @wisdomkingmuseum
วันอังคาร ที่ 18 พฤศจิกายน 2568พิพิธภัณฑ์การเกษตรฯ จ.ปทุมธานี ต้อนรับคณะจากโรงเรียนพระหฤทัยนนทบุรี จ.นนทบุรี โรงเรียนทรงวิทยาเทพารักษ์ จ.สมุทรปราการ โรงเรียนสาธิตจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย(ฝ่านมัธยม) กทม. เทศบาลนาแพง จ.ขอนแก่น และสถานบันวิจัยและพัฒนาพื้นที่สูง(องค์การมหาชน) จ.เชียงใหม่ เข้าร่วมโครงการส่งเสริมการเรียนรู้เศรษฐกิจพอเพียง ในรูปแบบหลักสูตร “นวัตกรรมของพ่อ” หลักสูตร “ตามรอยพ่อ” และหลักสูตร “เกษตรสร้างสรรค์” เริ่มต้นกิจกรรมด้วยการเรียนรู้พระอัจฉริยภาพของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 9 ที่มุ่งเน้นการพัฒนาประเทศ และส่งเสริมให้ประชาชนสามารถพึ่งพาตนเองได้ รวมถึงเรียนรู้เรื่องราวหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง ในพิพิธภัณฑ์ในหลวงรักเรา ผ่านนิทรรศการหลักการทรงงาน นิทรรศการตามรอยพ่อ นิทรรศการภูมิพลังแผ่นดิน นิทรรศการวิถีเกษตรของพ่อ และนิทรรศการตลาดเก่าชาวเกษตร ตามด้วยเข้าชมพิพิธภัณฑ์มหัศจรรย์พันธุกรรม ซึ่งรวบรวมความหลากหลายของพันธุกรรมพืชท้องถิ่นของไทย การปลูก การดูแล รวมถึงการอนุรักษ์พันธุกรรม พร้อมสนุกสนานกับกิจกรรมสร้างสรรค์ความคิดที่ช่วยฝึกฝนการบริหารจัดการทรัพยากร การทำงานเป็นทีม ต่อด้วยการเข้าชมภาพยนตร์การ์ตูนแอนิเมชัน 3 มิติ นอกจากนี้ยังได้เข้าชมพิพิธภัณฑ์กลางแจ้ง ตะลุยชมฐานการเรียนรู้เกษตรพอเพียงเมือง พื้นที่ต้นแบบการทำเกษตรที่มีทรัพยกรจำกัด รวมถึงการลงมือปฏิบัติการปลูปผักบนพื้นปูน และนาโยนกล้า หน่วยงานใดที่สนใจเข้าร่วมเรียนรู้ในรูปแบบหมู่คณะ สามารถดูหลักสูตรต่างๆได้ที่ https://www.wisdomking.or.th/views/course/ สอบถามรายละเอียด 094-649-2333 087-359-7171 02-529-2212 หรือ www.wisdomking.or.th facebook: wisdomkingmuseum และ Line ID: @wisdomkingmuseum
วันที่ 15 - 16 พฤศจิกายน 2568 บรรยากาศความสุข สดใส และเต็มไปด้วยพลังการเรียนรู้ของน้อง ๆ โรงเรียนสา จ.น่าน ได้สร้างสีสันให้ค่ายการเรียนรู้ “วิถีพอเพียง” ตลอดระยะเวลา 2 วัน 1 คืน ที่พิพิธภัณฑ์การเกษตรฯ ซึ่งน้อง ๆ ได้ออกผจญภัยในเส้นทางแห่งการเรียนรู้ทั้งภายในอาคาร และกลางแจ้ง เริ่มจากการเข้าชมพิพิธภัณฑ์ในหลวงรักเรา ผ่านนิทรรศการนวัตกรรมของพ่อ นิทรรศการวิถีเกษตรลุ่มน้ำ ที่เรียนรู้พระอัจฉริยภาพของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 9 ที่มุ่งเน้นการพัฒนาประเทศ และส่งเสริมให้ประชาชนสามารถพึ่งพาตนเองได้ รวมถึงเรียนรู้เรื่องราวหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง และเข้าชมพิพิธภัณฑ์มหัศจรรย์พันธุกรรม พร้อมชมภาพยนตร์ 3 มิติ แบบตื่นตาตื่นใจ จากนั้นไปสนุกสนานกับกิจกรรมสร้างสรรค์ความคิด ที่ช่วยฝึกทักษะ การทำงานเป็นทีม และข้อคิดดีๆ ก่อนออกเดินสำรวจ ฐานเรียนรู้พิพิธภัณฑ์กลางแจ้ง ไม่ว่าจะเป็นฐานการเรียนรู้บ้านนวัตกรรมพลังงาน ฐานการเรียนรู้เกษตรพอเพียงเมือง ฐานการเรียนรู้ 1 ไร่ พอพียง และลงมือฝึกปฏิบัติการสร้างบ้านดิน การทำไมโครกรีน การขยายพันธุ์พืชแบบควบแน่น ที่สามารถนำไปปรับประยุกต์ใช้ได้จริง อีกทั้งยังเป็นการสร้างจิตสำนึกที่ดีในการทำเกษตรในกับผู้ที่เข้าร่วมกิจกรรมอีกด้วย หน่วยงานใดที่สนใจเข้าร่วมเรียนรู้ในรูปแบบหมู่คณะ สามารถดูหลักสูตรต่างๆได้ที่ https://www.wisdomking.or.th/views/course/ สอบถามรายละเอียด 094-649-2333 087-359-7171 02-529-2212 หรือ www.wisdomking.or.th facebook: wisdomkingmuseum และ Line ID: @wisdomkingmuseum
วันศุกร์ ที่ 14 พฤศจิกายน 2568 ขอขอบคุณ น้อง ๆ จากโรงเรียนทานตะวันไตรภาษา จ.สมุทรสาคร โรงเรียนสารสาสน์วิเทศราชพฤกษ์ จ.นนทบุรี โรงเรียนนานาชาติรัชต์ภาคย์ กทม. โรงเรียนทางพระ จ.อ่างทอง และวิทยาลัยนวัตกรรมสังคม มหาวิทยาลัยรังสิต จ.ปทุมธานี พิพิธภัณฑ์การเกษตรฯ จ.ปทุมธานี ต้อนรับ น้อง ๆ จากโรงเรียนสารวิทยา กทม. เข้าร่วมโครงการส่งเสริมการเรียนรู้เกษตรเศรษฐกิจพอเพียง ในรูปบบหลักสูตร “ตามรอยพ่อ” หลักสูตร “ลดเวลาเรียน เพิ่มเวลารู้” และหลักสูตร “พอดี พอเพียง” เริ่มต้นกิจกรรมด้วยการเรียนรู้พระอัจฉริยภาพของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 9 ที่มุ่งเน้นการพัฒนาประเทศ และส่งเสริมให้ประชาชนสามารถพึ่งพาตนเองได้ รวมถึงเรียนรู้เรื่องราวหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง ในพิพิธภัณฑ์ในหลวงรักเรา ผ่านนิทรรศการหลักการทรงงาน นิทรรศการวิถีเกษตรของพ่อ ต่อด้วยเข้าชมพิพิธภัณฑ์มหัศจรรย์พันธุกรรม พิพิธภัณฑ์ป่าดงพงไพร และพิพิธภัณฑ์ดินดล พร้อมสนุกสนานกับการทำงานร่วมกันเป็นทีมในกิจกรรมสร้างสรรค์ความคิด ต่อด้วยการรับชมภาพยนตร์การ์ตูนแอนิเมชัน 3 มิติ และ 7 มิติ อีกด้วย นอกจากนั้นน้อง ๆ ยังได้เดินชมฐานการเรียนรู้เส้นทางพิพิธภัณฑ์กลางแจ้งนวัตกรรมเกษตรเศรษฐกิจพอเพียง อาทิ ฐานการเรียนรู้ผักคุณภาพในโรงเรือน ฐานการเรียนรู้ระเบียนสวน ฐานการเรียนรู้บ้านดินบ้านฟาง ฐานการเรียนรู้เกษตรพอเพียงเมือง และฐานการเรียนรู้ 1 ไร่ พอเพียง พร้อมลงมือฝึกปฏิบัติการสร้างบ้านดิน การทำปุ๋ยหมักชีวภาพ การทำนาดำ และนาโยนกล้าที่สามารถนำไปประยุกต์ให้สอดคล้องกับตนเอง หน่วยงานใดที่สนใจเข้าร่วมเรียนรู้ในรูปแบบหมู่คณะ สามารถดูหลักสูตรต่างๆได้ที่ https://www.wisdomking.or.th/views/course/ สอบถามรายละเอียด 094-649-2333 087-359-7171 02-529-2212 หรือ www.wisdomking.or.th facebook: wisdomkingmuseum และ Line ID: @wisdomkingmuseum
วันที่ 13 พฤศจิกายน 2568 พิพิธภัณฑ์การเกษตรเฉลิมพระเกียรติฯ จ.ปทุมธานี ต้อนรับน้อง ๆ โรงเรียนเซนต์โยเซฟเมืองเอก จ.ปทุมธานี เข้าร่วมโครงการส่งเสริมการเรียนรู้เศรษฐกิจพอเพียง ในรูปแบบหลักสูตร “นวัตกรรมของพ่อ” บรรยากาศน้อง ๆ ได้เรียนรู้กระบวนการฝึกทักษะการคิดแก้ปัญหาการทำงานร่วมกัน ผ่านกิจกรรมสร้างสรรค์ความคิด “รากฐานแห่งความมั่นคง” พร้อมเข้าชมภาพยนตร์แอนิเมชัน 3 มิติ นอกจากนั้นเดินชมฐานการเรียนรู้เส้นทางพิพิธภัณฑ์กลางแจ้งนวัตกรรมเกษตรเศรษฐกิจพอเพียง จัดแสดงการทำเกษตรในรูปแบบหลากหลายรวมถึงการจัดการพื้นที่ขนาดเล็กที่สามารถสร้างคลังอาหารให้กับตนเอง อาทิ ฐานการเรียนรู้บ้านดินบ้านฟาง ฐานการเรียนรู้เกษตรพอเพียงเมือง และฐานการเรียนรู้วิถีเกษตรไทย 4 ภาค ทั้งยังสุนกไปกับการลงมือฝึกปฏิบัติการทำไมโครกรีน ที่สามารถนำไปประยุกต์ให้สอดคล้องกับตนเองได้ด้วย กิจกรรมในครั้งนี้ถือเป็นอีกหนึ่งประสบการณ์แห่งความประทับใจ ที่พิพิธภัณฑ์การเกษตรฯ ได้ร่วมส่งเสริมการเรียนรู้อย่างมีความสุขให้กับเยาวชนรุ่นใหม่ สืบสานแนวพระราชดำริของในหลวงรัชกาลที่ 9 ให้คงอยู่ต่อไปอย่างยั่งยืน หน่วยงานใดที่สนใจเข้าร่วมเรียนรู้ในรูปแบบหมู่คณะ สามารถดูหลักสูตรต่างๆได้ที่ https://www.wisdomking.or.th/views/course/ สอบถามรายละเอียด 094-649-2333 087-359-7171 02-529-2212 หรือ www.wisdomking.or.th facebook: wisdomkingmuseum และ Line ID: @wisdomkingmuseum
วันพุธที่ 12 พฤศจิกายน 2568 สำนักงานพิพิธภัณฑ์เกษตรเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว (องค์การมหาชน) จัดโครงการ “ตามรอยพ่อ สานต่อวิถีพอเพียง” ร่วมกับภาคีเครือข่ายผู้สูงวัยคลองสาม (สูงวัยหัวใจเกษตร) การจัดกิจกรรมในครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อเผยแพร่พระเกียรติคุณและพระอัจฉริยภาพของพระมหากษัตริย์ไทยและพระบรมวงศานุวงศ์ด้านการเกษตร รวมถึงการส่งเสริมการขับเคลื่อนหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงสู่ชุมชน ผ่านการเรียนรู้พิพิธภัณฑ์ในหลวงรักเรา จัดแสดงพระเกียรติคุณและพระอัจฉริยภาพของพระมหากษัตริย์ไทยด้านการเกษตร เพลิดเพลินกับบรรยากาศตลาดเก่าชาวเกษตร จัดแสดงภูมิปัญญาภาคการเกษตรตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน พร้อมชมภาพยนตร์ 3 มิติ นอกจากนี้เข้าชมพิพิธภัณฑ์กลางแจ้ง ในฐานการเรียนรู้เกษตรพอเพียง การทำเกษตรในพื้นที่จำกัดสู่การประยุกต์ใช้จริง และเรียนรู้การดูแลสุขภาพจากสมุนไพรไทย โครงการ “ตามรอยพ่อ สานต่อวิถีพอเพียง” นับเป็นอีกหนึ่งกิจกรรมที่พิพิธภัณฑ์การเกษตรฯ ให้ความสำคัญในการส่งเสริมให้กลุ่มผู้สูงวัยได้เรียนรู้และเป็นต้นแบบในการน้อมนำหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงไปปรับใช้ในชีวิตประจำวัน และขยายผลสู่ครอบครัว ชุมชน และสังคมไทยอย่างยั่งยืน ☎️สอบถามรายละเอียด 094-649-2333 087-359-7171 02-529-2212 หรือ www.wisdomking.or.th facebook: wisdomkingmuseum และ Line ID: @wisdomkingmuseum
วันพุธ ที่ 12 พฤศจิกายน 2568 น้อง ๆ โรงเรียนเซนต์โยเซฟเมืองเอก จ.ปทุมธานี เดินทางมาศึกษาเรียนรู้ ณ พิพิธภัณฑ์การเกษตรเฉลิมพระเกียรติฯ จ.ปทุมธานี เข้าร่วมโครงการส่งเสริมการเรียนรู้เศรษฐกิจพอเพียง ในรูปแบบหลักสูตร “นวัตกรรมของพ่อ” ที่ทั้งสนุก ได้ความรู้ และเติมแรงบันดาลใจเต็มเปี่ยม เริ่มต้นด้วยการเรียนรู้ไปในฐานเรียนรู้พิพิธภัณฑ์กลางแจ้งเส้นทางนวัตกรรมเกษตรเศรษฐกิจพอเพียง อาทิ ฐานการเรียนรู้บ้านนวัตกรรมพลังงาน บ้านตัวอย่างในการใช้พลังงานไฟฟ้าที่ผลิตได้จากพลังงานความร้อนของดวงอาทิตย์ที่ถูกเปลี่ยนให้เป็นพลังงานไฟฟ้า ฐานการเรียนรู้วิถีเกษตรไทย 4 ภาค จัดแสดงวัฒนธรรมประเพณี ภูมิปัญญาภาคการเกษตรในสมัยก่อน และฐานการเรียนรู้ 1 ไร่ พอเพียง นำเสนอการทำเกษตรพอเพียงตามทฤษฎีใหม่ ต่อด้วยการลงมือฝึกการขยายพันธุ์พืช(ควบแน่น) ที่สามารถนำไปปรับประยุกต์ใช้ได้จริง อีกทั้งยังเป็นการสร้างจิตสำนึกที่ดีในการทำเกษตรในกับผู้ที่เข้าร่วมกิจกรรมอีกด้วย ก่อนจะปิดท้ายด้วยการรับชมภาพยนตร์แอนิเมชัน 3 มิติ เรื่อง "เมล็ดสุดท้าย" และได้เรียนรู้การสร้างรากฐานให้กับตนเองด้วยปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงจากกิจกรรมสร้างสรรค์ความคิด "รากฐานแห่งความมั่นคง" เป็นต้น หน่วยงานใดที่สนใจเข้าร่วมเรียนรู้ในรูปแบบหมู่คณะ สามารถดูหลักสูตรต่างๆได้ที่ https://www.wisdomking.or.th/views/course/ สอบถามรายละเอียด 094-649-2333 087-359-7171 02-529-2212 หรือ www.wisdomking.or.th facebook: wisdomkingmuseum และ Line ID: @wisdomkingmuseum
วันอังคารที่ 11 พฤศจิกายน 2568 พิพิธภัณฑ์การเกษตรเฉลิมพระเกียรติฯ จ.ปทุมธานี ต้อนรับน้อง ๆ จากโรงเรียนชลประทานอนุเคราะห์ จ.พระนครศรีอยุธยา โรงเรียนเฟื่องฟ้าวิทยา จ.ปทุมธานี และคณะครุศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย กทม. เข้าร่วมโครงการส่งเสริมการเรียนรู้เศรษฐกิจพอเพียง ในรูปแบบหลักสูตร “นวัตกรรมของพ่อ” และหลักสูตร “ตามรอยพ่อ กษัตริย์เกษตรฯ” โดยการเรียนรู้ไปกับฐานการเรียนรู้พิพิธภัณฑ์กลางแจ้งเส้นทางนวัตกรรมเกษตรเศรษฐกิจพอเพียง อาทิ ฐานการเรียนรู้บ้านนวัตกรรมพลังงาน ฐานการเรียนรู้เกษตรพอเพียงเมือง ฐานการเรียนรู้ 1 ไร่ พอเพียง ฐานการเรียนรู้วิถีเกษตรไทย 4 ภาค และยังได้ลงปฏิบัติการปลูกผักคอนโด และการลงมือปฏิบัติการทำนาดำ และนาโยนกล้า ที่สามารถนำไปปรับประยุกต์ใช้ได้จริง อีกทั้งยังเป็นการสร้างจิตสำนึกที่ดีในการทำเกษตรในกับผู้ที่เข้าร่วม นอกจากนี้ยังได้เรียนรู้พระอัจฉริยภาพของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 9 ที่มุ่งเน้นการพัฒนาประเทศ และส่งเสริมให้ประชาชนสามารถพึ่งพาตนเองได้ รวมถึงเรียนรู้เรื่องราวหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง ในพิพิธภัณฑ์ในหลวงรักเรา ผ่าน นิทรรศการวิถีเกษตรของพ่อ นิทรรศการนวัตกรรมของพ่อ นิทรรศการตลาดเก่าชาวเกษตร ต่อด้วยเข้าชมพิพิธภัณฑ์มหัศจรรย์พันธุกรรม ตามรอยเจ้าฟ้านักอนุรักษ์ สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้ากรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯสยามบรมราชกุมารี เรียนรู้ความสำคัญของพันธุกรรมพืชของไทย รวมถึงการดูแลอนุรักษ์พันธุกรรมและส่งต่อให้กับคนรุ่นต่อไป ต่อด้วยเข้าชมภาพยนตร์แอนิเมชัน 3 มิติ ปิดท้ายด้วยความสนุกกับการทำงานร่วมกันเป็นทีมในกิจกรรมสร้างสรรค์ความคิด ก่อนที่จะเดินทางกลับ หน่วยงานใดที่สนใจเข้าร่วมเรียนรู้ในรูปแบบหมู่คณะ สามารถดูหลักสูตรต่างๆได้ที่ https://www.wisdomking.or.th/views/course/ สอบถามรายละเอียด 094-649-2333 087-359-7171 02-529-2212 หรือ www.wisdomking.or.th facebook: wisdomkingmuseum และ Line ID: @wisdomkingmuseum
วันศุกร์ที่ 7 พฤศจิกายน 2568 โรงเรียนมาแตร์เดอีวิทยาลัย กทม. โรงเรียนสารสาสน์วิเทศราชฤกษ์ จ.นนทบุรี เข้าเยี่ยมชมพิพิธภัณฑ์การเกษตรฯ จ.ปทุมธานี ผ่านโครงการส่งเสริมการเรียนรู้เศรษฐกิจพอเพียง ในรูปแบบหลักสูตร “นวัตกรรมของพ่อ” และหลักสูตร “ลดเวลาเรียน เพิ่มเวลารู้” เริ่มต้นกิจกรรมด้วยการเรียนรู้พระอัจฉริยภาพของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 9 ที่มุ่งเน้นการพัฒนาประเทศ และส่งเสริมให้ประชาชนสามารถพึ่งพาตนเองได้ รวมถึงเรียนรู้เรื่องราวหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง ในพิพิธภัณฑ์ในหลวงรักเรา ผ่านนิทรรศการหลักการทรงงาน นิทรรศการวิถีเกษตรของพ่อ ต่อด้วยพิพิธภัณฑ์ป่าดงพงไพร จากนั้นเรียนรู้กระบวนการฝึกทักษะการคิดแก้ปัญหาการทำงานร่วมกัน ผ่านกิจกรรมสร้างสรรค์ความคิด “รากฐานแห่งความมั่นคง” พร้อมชมภาพยนตร์แอนิเมชัน 3 มิติ นอกจากนั้นทางคณะยังได้เข้าชมพิพิธภัณฑ์กลางแจ้ง สนุกไปกับการเดินชมฐานการเรียนรู้บ้านนวัตกรรมพลังงาน ฐานการเรียนรู้บ้านดินบ้านฟาง ฐานการเรียนรู้เกษตรพอเพียงเมือง และฐานการเรียนรู้วิถีเกษตรไทย 4 ภาค รวมถึงการลงมือฝึกปฏิบัติการสร้างบ้านดิน และการทำนาโยนกล้า ที่สามารถนำไปปรับประยุกต์ใช้ได้จริง อีกทั้งยังเป็นการสร้างจิตสำนึกที่ดีในการทำเกษตรในกับผู้ที่เข้าร่วมกิจกรรม หน่วยงานใดที่สนใจเข้าร่วมเรียนรู้ในรูปแบบหมู่คณะ สามารถดูหลักสูตรต่างๆได้ที่ https://www.wisdomking.or.th/views/course/ สอบถามรายละเอียด 094-649-2333 087-359-7171 02-529-2212 หรือ www.wisdomking.or.th facebook: wisdomkingmuseum และ Line ID: @wisdomkingmuseum
วันที่ 12 ตุลาคม 2568 พันจ่าเอก ประเสริฐ มาลัย ผู้อำนวยการสำนักงานพิพิธภัณฑ์เกษตรเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ให้การต้อนรับ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา (นายอรรถกร ศิริลัทธยากร) พร้อมแสดงความยินดีเนื่องในโอกาสเข้ารับตำแหน่งใหม่ และอำนวยความสะดวกคณะสื่อมวลชน นำโดยพิธีกร ว่าน ธนฤกต พานิชวิทย์ เข้าบันทึกเทปถ่ายทำรายการ ประชาชื่น ออกอากาศทางช่อง Youtube Soloist Channel ณ พื้นที่ wisdomking Farm พร้อมเชิญชวนผู้ติดตามรายการมาเที่ยวพิพิธภัณฑ์การเกษตรเฉลิมพระเกียรติฯ ปทุมธานี
วันพฤหัสบดีที่ 9 ตุลาคม 2568 พันจ่าเอก ประเสริฐ มาลัย ผู้อำนวยการ พกฉ. ให้เกียรติสัมภาษณ์สดประเด็นการจัดงานมหกรรม "ในความทรงจำ" งานใหญ่ที่จะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 11 - 13 ตุลาคม 2568 ผ่านรายการ Better Future ช่อง NBT2HD ณ สถานีโทรทัศน์แห่งประเทศไทย NBT
วันที่ 6 พฤษภาคม 2568 พันจ่าเอก ประเสริฐ มาลัย ผู้อำนวยการสำนักงานพิพิธภัณฑ์เกษตรเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ให้เกียรติสัมภาษณ์สด ในประเด็นวันพืชมงคล กับพระมหากรุณาธิคุณของสถาบันพระมหากษัตริย์ ผ่านทางรายการ Better future สถานนีโทรทัศน์ Nbt
วันที่ 22 เมษายน 2568 พันจ่าเอก ประเสริฐ มาลัย ผู้อำนวยการ พกฉ. ให้เกียรติต้อนรับ ทีมงานจาก รายการ NBT มีคำตอบ เทปนี้พาไปรู้จักกับพื้นที่เรียนรู้ 374 ไร่ ภายในพิพิธภัณฑ์การเกษตรเฉลิมพระเกียรติฯ จ.ปทุมธานี ทั้งในส่วนของ พิพิธภัณฑ์ภายในอาคาร และพิพิธภัณฑ์กลางแจ้ง รับชมได้ในวันศุกร์ที่ 2 พฤษภาคม 2568 และวันศุกร์ที่ 9 พฤษภาคม 2568 ทางช่อง NBT2HD
วันที่ 26 กุมภาพันธ์ 2568 สำนักงานพิพิธภัณฑ์เกษตรเฉลิมพระเกียรติฯ ต้อนรับคณะจาก พี่ก้องปิยะ เศวตพิกุล กับรายการ ตามก้องไปเจอนี่ ที่จะพาไปเปิดโลกเกษตรยุคใหม่ที่ พิพิธภัณฑ์การเกษตรเฉลิมพระเกียรติฯ ปทุมธานี โดยได้รับเกียรติจาก พันจ่าเอก ประเสริฐ มาลัย ผู้อำนวยการสำนักงานพิพิธภัณฑ์เกษตรฯ ที่จะพาไปรู้จักกับพิพิธภัณฑ์การเกษตรฯ ให้มากยิ่งขึ้น โดยออกอากาศในวันเสาร์ที่ 15 มีนาคม 2568 ทางสถานีโทรทัศน์ช่อง 3HD
ในวันที่ 4 พฤษภาคม 2567 รายการ เรื่องเด็ดเอ็ดตะโร ออกอากาศทางช่อง Thai PBS เข้าถ่ายทำในพื้นที่ตลาดเศรษฐกิจพอเพียง โดยออกอากาศในวันที่ 1 กรกฎาคม 2567 ที่ผ่านมา รับชมเพิ่มเติม คลิก
วันที่ 24 พฤษภาคม 2567 รายการสภาชาวบ้าน เข้าถ่ายทำในพื้นที่ฐานเรียนรู้ 1 ไร่พอเพียง ณ พิพิธภัณฑ์การเกษตรฯ โดยได้รับเกียรติจาก นายอร่าม แก้วนิล ผู้อำนวยการสำนักนวัตกรรมเกษตรเศรษฐกิจพอเพียง เป็นผู้ให้สัมภาษณ์ โดยนำไปออกอากาศ ทางช่อง MVTV ในวันที่ 29 มิถุนายน 2567 รับชมคลิก
วันพฤหัสบดีที่ 9 พฤษภาคม 2567 สำนักงานพิพิธภัณฑ์เกษตรเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว (องค์การมหาชน) โดยพลอากาศเอก เสนาะ พรรณพิกุล ผู้อำนวยการสำนักงานพิพิธภัณฑ์เกษตรเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว มอบหมายฝ่ายประชาสัมพันธ์ สำนักสารสนเทศและการสื่อสาร เป็นผู้แทนเข้าร่วมแสดงความยินดีเนื่องในโอกาสครบรอบไทยนิวส์ก้าวสู่ปีที่ 4 โดยมี คุณปิยวิทย์ ดำรงสัตย์ กรรมการผู้จัดการ ไทยนิวส์ ให้การต้อนรับ ณ อาคาร อินเตอร์ลิงค์ทาวเวอร์ ชั้น 1 บางนา กรุงเทพฯ
วันที่ 3 มกราคม 2567 นางสาวจุฑามาศ ทองชมพูนุช ผู้อำนวยการสำนักสารสนเทศและการสื่อสาร เป็นผู้แทนสำนักงานพิพิธภัณฑ์เกษตรเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เดินทางเข้าพบหน่วยงานภาคีความร่วมมือ และสื่อมวลชน มอบกระเช้าผลิตภัณฑ์เครือข่ายพิพิธภัณฑ์เกษตรฯ และของที่ระลึก เพื่อแสดงความขอบคุณที่ให้ความร่วมมือในการสนับสนุนการ เผยแพร่ประชาสัมพันธ์กิจกรรม กิจการของพิพิธภัณฑ์การเกษตรฯ รวมถึงงานมหกรรม นิทรรศการหมุนเวียน ตลาดเศรษฐกิจพอเพียง ที่จัดต่อเนื่องเป็นประจำทุกเดือนโดยมี พล.ต.ต.พงษ์สวัสดิ์ หาญสวัสดิ์ นายกเทศมนตรีเมืองปทุมธานี ร้อยตำรวจเอก ดร.ตรีลุพธ์ รูปกระจ่าง นายกเทศมนตรีนครรังสิต รศ.(พิเศษ) ดร.วิระศักดิ์ ฮาดดา นายกองค์การบริหารส่วนตำบลคลองสาม นางประเทือง วงษ์แจ้ง นายกองค์การบริหารส่วนตำบลคลองสี่ นายสมชาย อยู่ยืน รองนายกองค์การบริหารส่วนตำบลคลองห้า ผู้แทนจากเทศบาลเมืองท่าโขลง และคุณเสาวรีย์ อัมภสุวรรณ์ ประชาสัมพันธ์จังหวัดปทุมธานี นายนพรัตน์ คุ้มศรี ผู้แทนจากสมาคมนักข่าวปทุมธานี เป็นผู้รับมอบ
พลอากาศเอก เสนาะ พรรณพิกุล ผู้อำนวยการสำนักงานพิพิธภัณฑ์เกษตรเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เปิดเผยว่า “กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ได้จัดโครงการส่งสุขปีใหม่ มอบให้เกษตรกร กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ในช่วงเทศกาลปีใหม่ โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อเป็นการส่งมอบความสุขและผลิตภัณฑ์การเกษตรคุณภาพ ส่งตรงจากเกษตรกร ถึงมือเกษตรกรและประชาชน รวมไปถึงการเปิดสถานที่ท่องเที่ยวและแหล่งเรียนรู้ด้านการเกษตร ให้ประชาชนได้เข้าเยี่ยมชม พร้อมได้รับความรู้ทางการเกษตร ซึ่งเป็นอีกหนึ่งเครื่องมือที่จะช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจภายในประเทศ สร้างให้เกิดการใช้จ่าย รวมไปถึงการสร้างรายได้ในครัวเรือนให้กับเกษตรกร โดยในปี 2567 เตรียมจัด 3 กิจกรรมหลัก ได้แก่ กิจกรรมมอบของขวัญเกษตรกรไทย มีกิน มีใช้ มีรายได้พอเพียง กิจกรรมเพิ่มสุขปีใหม่ เที่ยวทั่วไทย สุขใจ ไปกับกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และกิจกรรมเสริมพลังปีใหม่ จำหน่ายสินค้าราคาพิเศษ สินค้าเกษตรคุณภาพ ระหว่างเดือนธันวาคม 2566 - มกราคม 2567 พิพิธภัณฑ์การเกษตรเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ได้เตรียมจัดโครงการส่งความสุขปีใหม่ มอบให้เกษตรกรและประชาชน ในช่วงเทศกาลปีใหม่ 2567 ที่กำลังจะมาถึงนี้มี 3 กิจกรรมที่ให้เกษตรกรและประชาชนได้เข้าร่วมกิจกรรมในช่วงปีใหม่นี้ เริ่มต้นด้วยกิจกรรม“เกษตรปันสุข” ส่งมอบองค์ความรู้การทำเกษตรเพื่อการพึ่งพาตนเอง ผ่านการอบรม Workshop การทำเกษตรเศรษฐกิจพอเพียง พร้อมเปิดพื้นที่จำหน่ายสินค้า และผลผลิตเกษตรปลอดภัยมีคุณภาพจากเกษตรกรเครือข่ายพิพิธภัณฑ์เกษตรฯ ระหว่างวันที่ 15 ธันวาคม 2566 ถึง วันที่ 15 มกราคม 2567 ตามด้วยกิจกรรมที่ 2 “ท่องเที่ยวสุขใจ...ตามรอยพ่อ” เปิดเข้าชมพิพิธภัณฑ์ในหลวงรักเรา โดยไม่มีค่าใช้จ่าย ระหว่างวันที่ 2 – 7 มกราคม 2567 เรียนรู้พระเกียรติคุณและพระอัจฉริยภาพของพระมหากษัตริย์ไทยด้านการเกษตร เพลิดเพลินกับการชมภาพยนตร์ 3 มิติ ถ่ายภาพ เช็คอิน รับของขวัญปีใหม่ และส่งต่อความสุขใจเสริมแรงบันดาลใจในการทำการเกษตร และเช็คอินที่แหล่งท่องเที่ยวเชิงเกษตร Wisdom king farm ร่วมสัมผัสกลิ่นอายแห่งท้องทุ่ง ชิมกาแฟอินทรีย์ ถ่ายภาพกับสะพานไม้ไผ่ท่ามกลางกังหันลมหลากสี และกิจกรรมสุดท้าย“มอบความสุขด้วยสินค้าและผลผลิตเกษตรคุณภาพปลอดภัย” คัดสรรสินค้าคุณภาพ ผลผลิตปลอดภัยจากเครือข่ายพิพิธภัณฑ์เกษตรฯ นำมาจัดจำหน่ายในราคาพิเศษ เป็นของฝากส่งต่อความห่วงใยในช่วงเทศกาลปีใหม่ ผ่านชุดกระเช้าของขวัญสินค้าเกษตรคุณภาพจากพี่น้องเครือข่ายพิพิธภัณฑ์ เกษตรฯ สามารถซื้อได้ที่ร้านกิน อยู่ ดี หรือสั่งออนไลน์ได้ทาง facebook ร้านกินอยู่ดี พิพิธภัณฑ์การเกษตรฯ โทร 02-529-2212-13 หรือ 081-567-2806 เปิดบริการทุกวัน ยกเว้นวันจันทร์และวันหยุดนักขัตฤกษ์ ตั้งแต่เวลา 09.00 - 16.00 น. ตั้งแต่วันที่ 15 ธันวาคม 2566 ถึง วันที่ 15 มกราคม 2567” สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ โทรศัพท์ 02-529-2212-13, 087-359-7171 คลิกดูรายละเอียดได้ที่ www.wisdomking.or.th หรือ facebook / Instagram /Line ID : @wisdomkingmuseum
พลอากาศเอก เสนาะ พรรณพิกุล ผู้อำนวยการสำนักงานพิพิธภัณฑ์เกษตรเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เปิดเผยว่า “กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ได้จัดโครงการส่งสุขปีใหม่ มอบให้เกษตรกร กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ในช่วงเทศกาลปีใหม่ โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อเป็นการส่งมอบความสุขและผลิตภัณฑ์การเกษตรคุณภาพ ส่งตรงจากเกษตรกร ถึงมือเกษตรกรและประชาชน รวมไปถึงการเปิดสถานที่ท่องเที่ยวและแหล่งเรียนรู้ด้านการเกษตร ให้ประชาชนได้เข้าเยี่ยมชม พร้อมได้รับความรู้ทางการเกษตร ซึ่งเป็นอีกหนึ่งเครื่องมือที่จะช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจภายในประเทศ สร้างให้เกิดการใช้จ่าย รวมไปถึงการสร้างรายได้ในครัวเรือนให้กับเกษตรกร โดยในปี 2567 เตรียมจัด 3 กิจกรรมหลัก ได้แก่ กิจกรรมมอบของขวัญเกษตรกรไทย มีกิน มีใช้ มีรายได้พอเพียง กิจกรรมเพิ่มสุขปีใหม่ เที่ยวทั่วไทย สุขใจ ไปกับกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และกิจกรรมเสริมพลังปีใหม่ จำหน่ายสินค้าราคาพิเศษ สินค้าเกษตรคุณภาพ ระหว่างเดือนธันวาคม 2566 - มกราคม 2567 พิพิธภัณฑ์การเกษตรเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ได้เตรียมจัดโครงการส่งความสุขปีใหม่ มอบให้เกษตรกรและประชาชน ในช่วงเทศกาลปีใหม่ 2567 ที่กำลังจะมาถึงนี้มี 3 กิจกรรมที่ให้เกษตรกรและประชาชนได้เข้าร่วมกิจกรรมในช่วงปีใหม่นี้ เริ่มต้นด้วยกิจกรรม“เกษตรปันสุข” ส่งมอบองค์ความรู้การทำเกษตรเพื่อการพึ่งพาตนเอง ผ่านการอบรม Workshop การทำเกษตรเศรษฐกิจพอเพียง พร้อมเปิดพื้นที่จำหน่ายสินค้า และผลผลิตเกษตรปลอดภัยมีคุณภาพจากเกษตรกรเครือข่ายพิพิธภัณฑ์เกษตรฯ ระหว่างวันที่ 15 ธันวาคม 2566 ถึง วันที่ 15 มกราคม 2567 ตามด้วยกิจกรรมที่ 2 “ท่องเที่ยวสุขใจ...ตามรอยพ่อ” เปิดเข้าชมพิพิธภัณฑ์ในหลวงรักเรา โดยไม่มีค่าใช้จ่าย ระหว่างวันที่ 2 – 7 มกราคม 2567 เรียนรู้พระเกียรติคุณและพระอัจฉริยภาพของพระมหากษัตริย์ไทยด้านการเกษตร เพลิดเพลินกับการชมภาพยนตร์ 3 มิติ ถ่ายภาพ เช็คอิน รับของขวัญปีใหม่ และส่งต่อความสุขใจเสริมแรงบันดาลใจในการทำการเกษตร และเช็คอินที่แหล่งท่องเที่ยวเชิงเกษตร Wisdom king farm ร่วมสัมผัสกลิ่นอายแห่งท้องทุ่ง ชิมกาแฟอินทรีย์ ถ่ายภาพกับสะพานไม้ไผ่ท่ามกลางกังหันลมหลากสี และกิจกรรมสุดท้าย“มอบความสุขด้วยสินค้าและผลผลิตเกษตรคุณภาพปลอดภัย” คัดสรรสินค้าคุณภาพ ผลผลิตปลอดภัยจากเครือข่ายพิพิธภัณฑ์เกษตรฯ นำมาจัดจำหน่ายในราคาพิเศษ เป็นของฝากส่งต่อความห่วงใยในช่วงเทศกาลปีใหม่ ผ่านชุดกระเช้าของขวัญสินค้าเกษตรคุณภาพจากพี่น้องเครือข่ายพิพิธภัณฑ์ เกษตรฯ สามารถซื้อได้ที่ร้านกิน อยู่ ดี หรือสั่งออนไลน์ได้ทาง facebook ร้านกินอยู่ดี พิพิธภัณฑ์การเกษตรฯ โทร 02-529-2212-13 หรือ 081-567-2806 เปิดบริการทุกวัน ยกเว้นวันจันทร์และวันหยุดนักขัตฤกษ์ ตั้งแต่เวลา 09.00 - 16.00 น. ตั้งแต่วันที่ 15 ธันวาคม 2566 ถึง วันที่ 15 มกราคม 2567” สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ โทรศัพท์ 02-529-2212-13, 087-359-7171 คลิกดูรายละเอียดได้ที่ www.wisdomking.or.th หรือ facebook / Instagram /Line ID : @wisdomkingmuseum
วันที่ 2 ธันวาคม 2566 สำนักงานพิพิธภัณฑ์เกษตรเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว (องค์การมหาชน) จ.ปทุมธานี เปิดงานใหญ่ประจำปีมหกรรม“ภูมิพลังแผ่นดิน” ระหว่างวันที่ 2 – 5 ธันวาคม 2566 เพื่อน้อมรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณเชิดชูพระเกียรติคุณพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ด้านการจัดการดินและทรัพยากรเพื่อการเกษตร การถ่ายทอดองค์ความรู้นวัตกรรมเกษตรเศรษฐกิจพอเพียงแก่สาธารณชนผ่านนิทรรศการพิเศษเทิดพระเกียรติพระบาทสมเด็จ พระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร นิทรรศการจากเครือข่ายพิพิธภัณฑ์เกษตรฯ อบรมวิชาของแผ่นดินและอบรมเชิงปฏิบัติการ ชม ช้อปสินค้า ผลผลิตปลอดภัยจากเครือข่ายพิพิธภัณฑ์เกษตรฯ พร้อมกิจกรรมพิเศษ ณ พิพิธภัณฑ์การเกษตรเฉลิมพระเกียรติฯ จ.ปทุมธานี และรับชมทาง Online Facebook พิพิธภัณฑ์การเกษตรเฉลิมพระเกียรติฯ นายวีระชัย นาควิบูลย์วงศ์ ประธานกรรมการสำนักงานพิพิธภัณฑ์เกษตรเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ประธานในพิธี เปิดเผยในงานว่า “การจัดงานมหกรรม “ภูมิพลังแผ่นดิน” ที่จัดขึ้นเป็นประจำทุกปี เพื่อให้คนไทยได้ร่วมน้อมรำลึกและเทิดพระเกียรติในพระมหากรุณาธิคุณพระบาทสมเด็จ พระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ด้านการจัดการดินและทรัพยากรน้ำ เพื่อการเกษตร โดยได้บูรณาการการทำงานระหว่างหน่วยงานต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องประกอบด้วย เครือข่ายพิพิธภัณฑ์เกษตรฯ จากทุกภูมิภาค หน่วยงานภายในกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ หน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน สถาบันการศึกษา โรงเรียน และสื่อมวลชน ร่วมกันขับเคลื่อนและมีส่วนร่วมในการพัฒนาดินของประเทศ เพื่อให้ มีการใช้ดินทางการเกษตรที่มีประสิทธิภาพและขณะเดียวกันร่วมกันทำนุบำรุงดินมิให้เสื่อมโทรม มิให้เกิดการ ชะล้างพังทลาย และสามารถใช้ประโยชน์ ได้อย่างต่อเนื่องยาวนาน และไม่ส่งผลกระทบต่อทรัพยากร และสภาพแวดล้อม” ด้านพลอากาศเอก เสนาะ พรรณพิกุล ผู้อำนวยการสำนักงานพิพิธภัณฑ์เกษตรเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว กล่าวเพิ่มเติมถึงกิจกรรมในงานว่า “ภายในงานจัดนิทรรศการเทิดพระเกียรติ ดินดี น้ำอุดม ป่าสมบูรณ์ เกื้อกูลชีวิต จัดแสดงพระเกียรติคุณและพระอัจฉริยภาพด้านการจัดการดินและน้ำ เพื่อการเกษตร และนิทรรศการดิน น้ำ พลังงาน สร้างคลังอาหารชีวิต จากเครือข่ายพิพิธภัณฑ์เกษตรฯ คนรุ่นใหม่ และผู้น้อมนำคำพ่อสอน สู่การทำเกษตรกรรมอย่างยั่งยืนที่มาร่วมจัดนิทรรศการทั้งหมด 16 ฐาน และกิจกรรมการเรียนรู้ผ่านการอบรมวิชาของแผ่นดินกว่า 16 หลักสูตร จากวิทยากรผู้ผ่านการปฏิบัติจริงที่มีองค์ความรู้เชิงประจักษ์ทั้งในรูปแบบ Onsite และ Online ทาง youtube พิพิธภัณฑ์การเกษตรเฉลิมพระเกียรติฯ ชม ช้อป สินค้าเกษตรปลอดภัยกว่า 200 ร้านค้า กิจกรรมพิเศษในวันที่ 5 ธันวาคม 2566 วันพ่อแห่งชาติ จัดให้มีกิจกรรมเทิดพระเกียรติพระบาทสมเด็จ พระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ในช่วงเช้าทำบุญตักบาตรข้าวสารอาหารแห้งพระภิกษุสงฆ์ จำนวน 59 รูป เพื่อน้อมถวายเป็นพระราชกุศลเนื่องในวันคล้ายวันพระราชสมภพพระบาทสมเด็จ พระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร และช่วงค่ำ มีพิธีจุดเทียนมหามงคลสดุดี เฉลิมพระเกียรติ น้อมรำลึกพระมหากรุณาธิคุณอันหาที่สุดมิได้ ร่วมรับชมการแสดงพร้อมรับฟังบทเพลงเพื่อพ่อ โดยคุณขวัญข้าว ธิดารินทร์ และรับฟังเสียงขลุ่ยบรรเลงบทเพลงพระราชนิพนธ์โดย อาจารย์ธนิสร์ ศรีกลิ่นดี ศิลปินแห่งชาติ” นอกจากนี้ยังมีกิจกรรมการเรียนรู้ให้ร่วมสนุกมากมาย ภายในงานเปิดเข้าชมพิพิธภัณฑ์ในหลวงรักเรา พร้อมรับชมภาพยนตร์แอนิเมชัน 3 มิติ พิพิธภัณฑ์ป่าดงพงไพร พิพิธภัณฑ์ดินดล ช่วงเวลา 17.00 – 20.00 น. เพลิดเพลินกับสินค้าคุณภาพตลาดยามเย็น กว่า 50 ร้าน สำหรับงานมหกรรม ภูมิพลังแผ่นดิน จัดขึ้นระหว่างวันที่ 2 - 5 ธันวาคม 2566 ตั้งแต่เวลา 08.00 – 17.00 น. ณ พิพิธภัณฑ์การเกษตรฯ จ.ปทุมธานี สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ โทรศัพท์ 02-529-2212-13, 087-359-7171 คลิกดูรายละเอียดได้ที่ www.wisdomking.or.th หรือ facebook / Instagram /Line ID :@wisdomkingmuseum และYoutubeพิพิธภัณฑ์การเกษตรเฉลิมพระเกียรติฯ
วันอาทิตย์ที่ 7 ธันวาคม 2568 พันจ่าเอก ประเสริฐ มาลัย ผู้อำนวยการ พกฉ. ร่วมเป็นเกียรติในพิธีเปิดงาน สืบสานพระราชปณิธาน งานศิลปาชีพบางไทร ครบรอบ 41 ปี จัดขึ้นเพื่อน้อมรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณของ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ในฐานะผู้ทรงก่อตั้งงานศิลปาชีพ และเป็นเสาหลักในการจัดหาอาชีพแก่ราษฎร และน้อมรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณของ พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร ผู้ทรงเป็นคู่บุญบารมีและแรงบันดาลใจสำคัญในการแก้ไขปัญหาความยากจนของราษฎรควบคู่กับงานศิลปาชีพ โดยมี นายวิณะโรจน์ ทรัพย์ส่งสุข ปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เป็นประธาน พร้อมด้วย นายเศรษฐเกียรติ กระจ่างวงษ์ เลขาธิการสำนักงานการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม กล่าวรายงาน และผู้บริหารในสังกัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องเข้าร่วม ณ ศูนย์ส่งเสริมและพัฒนาอาชีพเสริมนอกภาคการเกษตร อ.บางไทร จ.พระนครศรีอยุธยา พร้อมทั้งร่วมกิจกรรม ปลูกต้นไม้ตามปณิธานของแม่ และเยี่ยมชมนิทรรศการและกิจกรรมภายในงาน 4 กิจกรรม ดังนี้ 1. นิทรรศการน้อมรําลึกในพระมหากรุณาธิคุณของ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง โดยแสดงพระราชประวัติ พระราชกรณียกิจในการก่อตั้งมูลนิธิและศูนย์ศิลปาชีพ บางไทรฯ และการส่งมอบภารกิจให้ ส.ป.ก. 2. นิทรรศการเทิดพระเกียรติเนื่องในโอกาสวันคล้ายวันประสูติของ สมเด็จพระเจ้าลูกเธอเจ้าฟ้าพัชรกิติยาภา นเรนทิราเทพยวดีกรมหลวงราชสาริณีสิริพัชร มหาวัชรราชธิดา โดยจัดทํานิทรรศการแสดงพระราชกรณียกิจของพระองค์ที่เกี่ยวข้องกับงานศิลปาชีพ หรือการพัฒนาคุณภาพชีวิตประชาชน 3. กิจกรรมเชิงปฏิบัติการด้านงานหัตถกรรม (Workshop) ให้ประชาชนได้เข้าร่วมเรียนรู้แบบไม่เสียค่าใช้จ่ายจํานวน 2 แผนกวิชา พร้อมทั้งเปิดอาคารฝึกอบรมให้ประชาชนเข้าเยี่ยมชมกระบวนการผลิต และผลงานหัตถกรรมของช่างฝีมือระดับครู 4. การจําหน่ายผลิตภัณฑ์ศิลปหัตถกรรมคุณภาพสูงจากศิษย์เก่าของ ศพส. และร้านค้าภายในชุมชนรอบพื้นที่
สำนักงานพิพิธภัณฑ์เกษตรเฉลิมพระเกียรติฯ จัดโครงการเผยแพร่และถ่ายทอดองค์ความรู้พระอัจฉริยภาพกษัตริย์เกษตร แก่เยาวชนและประชาชน ณ ศูนย์เรียนรู้เครือข่ายพิพิธภัณฑ์เกษตรฯ จังหวัดนครสวรรค์ วันเสาร์ที่ 6 ธันวาคม 2568 สำนักงานพิพิธภัณฑ์เกษตรเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว (องค์การมหาชน) จัดโครงการเผยแพร่และถ่ายทอดองค์ความรู้พระอัจฉริยภาพกษัตริย์เกษตร ให้แก่เยาวชนและประชาชนในพื้นที่ศูนย์เรียนรู้เครือข่ายพิพิธภัณฑ์เกษตรฯ “สุพจน์ โคมณี” จังหวัดนครสวรรค์ โดยได้รับเกียรติจาก พันจ่าเอก ประเสริฐ มาลัย ผู้อำนวยการสำนักงานพิพิธภัณฑ์เกษตรเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว พร้อมด้วยนางสาวจุฑามาศ ทองชมพูนุช ผู้อำนวยการสำนักเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร ให้การต้อนรับผู้เข้าร่วมกิจกรรม พร้อมแลกเปลี่ยนมุมมองและสร้างแรงบันดาลใจในการน้อมนำศาสตร์พระราชาไปประยุกต์ใช้ในชีวิตและการประกอบอาชีพ โครงการดังกล่าวจัดขึ้นเพื่อเปิดโอกาสให้เยาวชนและประชาชนได้เรียนรู้พระเกียรติคุณและพระอัจฉริยภาพด้านการเกษตร ผ่านกิจกรรมการเรียนรู้ที่หลากหลาย ทั้งการเยี่ยมชมฐานการเรียนรู้ภายในพิพิธภัณฑ์ในอาคารและพิพิธภัณฑ์กลางแจ้ง การฝึกปฏิบัติ “การขยายพันธุ์พืชแบบควบแน่น” รวมถึงการศึกษาหลักการบริหารจัดการทรัพยากรดินและน้ำตามแนวพระราชดำริของ พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร นอกจากนี้ ผู้เข้าร่วมยังได้เยี่ยมชมนิทรรศการจากเครือข่ายพิพิธภัณฑ์เกษตรฯ และหน่วยงานในสังกัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ที่มาร่วมถ่ายทอดองค์ความรู้ภายในงานมหกรรม “ภูมิพลังแผ่นดิน” ซึ่งจัดขึ้นระหว่างวันที่ 4–7 ธันวาคม 2568 ณ พิพิธภัณฑ์การเกษตรฯ จังหวัดปทุมธานี โดยมุ่งหวังให้ประชาชนเห็นคุณค่าทรัพยากรธรรมชาติ สืบสานภูมิปัญญาการเกษตรไทย และนำความรู้ที่ได้รับไปประยุกต์ใช้เพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืน
พกฉ. ร่วมกับ สวก. คัดเลือกผลงานนวัตกรรมและเทคโนโลยีภาคการเกษตร อุตสาหกรรมเกษตร หรืออุตสาหกรรมที่เกี่ยวข้องกับภาคการเกษตร Young Agri Future 2025 จากผลงานนักเรียน นักศึกษา คนรุ่นใหม่ ทั่วประเทศ เพื่อช่วยยกระดับคุณภาพชีวิตของเกษตรกร และการพัฒนาด้านการเกษตรสู่การผลิตและสร้างความเข้มแข็งของภาคการเกษตร เชื่อมโยงภารกิจตลอดจนการขับเคลื่อนตามหลักปรัชญของเศรษฐกิจพอเพียง ด้านการเกษตร เพื่อเป็นแนวทางในการน้อมนำสู่การปฏิบัติ และปรับประยุกต์ใช้ให้เกิดประโยชน์ สู่แนวคิดอนาคตเกษตรไทยยั่งยืน เมื่อวันที่ 3-4 ธันวาคม 2568 สำนักงานพิพิธภัณฑ์เกษตรเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว (องค์การมหาชน) หรือ พกฉ. ร่วมกับ สำนักงานพัฒนาการวิจัยการเกษตร (องค์การมหาชน) หรือ สวก. และกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ จัดกิจกรรมนำเสนอผลงานรอบชิงชนะเลิศ และพิธีมอบรางวัลผู้ชนะการประกวด ในโครงการประกวดนวัตกรรมและเทคโนโลยีภาคการเกษตร อุตสาหกรรมเกษตร หรืออุตสาหกรรมที่เกี่ยวข้องกับภาคการเกษตร Young Agri Future 2025 ระดับพื้นฐาน (มัธยมศึกษา-ปวช.) และระดับอุดมศึกษา (ปวส.-อนุปริญญา-ปริญญาตรี) รวม 20 รางวัล มูลค่ารวม 530,000 บาท โดยโครงการดังกล่าว ได้เปิดโอกาสให้นักเรียน นักศึกษา และคนรุ่นใหม่ จากทั่วประเทศนำความรู้ และความคิดสร้างสรรค์ มาสร้างนวัตกรรมและเทคโนโลยีทางการเกษตร สุดยอดนักคิดรุ่นใหม่ ถ่ายทอดความยิ่งใหญ่แห่งศาสตร์พระราชา ในการช่วยยกระดับคุณภาพชีวิตของเกษตรกร และช่วยในการพัฒนาด้านการเกษตรสู่การผลิตและสร้างความเข้มแข็งของภาคการเกษตร ภายใต้หัวข้อ “นวัตกรรมเกษตร : เพิ่มประสิทธิภาพและมูลค่าการผลิตเกษตรไทยยั่งยืน” รวมถึงการพัฒนาต่อยอดผลงานนวัตกรรมที่พร้อมจะพัฒนาและประยุกต์ใช้เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในกระบวนการด้านการเกษตร สู่โอกาสในการพัฒนา ขยายผลและการต่อยอดทางธุรกิจภาคการเกษตรสู่แนวทางในการขับเคลื่อนยุทธศาสตร์การพัฒนาประเทศ และที่สำคัญคือ ผลงานที่ได้รับการคัดเลือก มีโอกาสในการได้รับทุนวิจัยเพื่อพัฒนาต้นแบบ หรือการต่อยอดในเชิงพาณิชย์ สำหรับผลงานที่ผ่านเกณฑ์การพิจารณาให้ทุนวิจัย ของ สวก. ในวงเงินมูลค่ารวม 20,000,000 บาท (ยี่สิบล้านบาท) อีกทั้งยังได้รับเกียรติจากคณะกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ และผู้สนับสนุนทั้งภาครัฐและภาคเอกชน กว่า 12 หน่วยงาน ที่ร่วมสนับสนุนกิจกรรม จนทำให้เกิดผลงานนวัตกรรมและเทคโนโลยีภาคการเกษตรฯ ใหม่ๆ จากมุมมองของกลุ่มคนรุ่นใหม่ที่เข้าร่วมโครงการ กว่า 100 ผลงานจากทั่วประเทศ และคัดเลือกผลงานจนเหลือผู้ผ่านเข้ารอบตัดสินเพียง 59 ผลงานที่ได้เข้าร่วมกิจกรรม Work shop Young Agri Future 2025 และนำเสนอผลงานต่อคณะกรรมการตัดสินในรอบ Final จนได้ผู้ชนะเลิศและรองชนะเลิศของแต่ละระดับ โดยมีผลงาน ที่ผ่านเข้ารอบชิงชนะเลิศ อาทิ เทคโนโลยีสมาร์ทฟาร์มสำหรับตรวจสอบและควบคุมการเจริญเติบโตของสาหร่ายผักกาดทะเล , เครื่องเพาะปลูกพืชเศรษฐกิจแบบลงหัวด้วยระบบหมอกไฮบริดควบคุม สภาพแวดล้อมผ่านระบบอัจฉริยะเพื่อรับมือกับความไม่แน่นอนของสภาพ อากาศ , นวัตกรรมลดความชื้นวัตถุดิบทางการเกษตรต้นทุนต่ำเพื่อสร้างและเพิ่มรายได้อย่างยั่งยืนตามหลักเศรษฐกิจพอเพียง ผู้อำนวยการสำนักงานพิพิธภัณฑ์เกษตรเฉลิมพระเกียรติพระบาทสวมเด็จพระเจ้าอยู่หัว กล่าวเพิ่มเติมว่า พกฉ. ให้ความสำคัญกับการสร้างเครือข่ายด้านการส่งเสริมการเรียนรู้ รวมทั้งการขยายผลต่อยอดตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง โดยเฉพาะการพัฒนาและยกระดับคุณภาพของเกษตรกรผ่านโครงการและกิจกรรมต่างๆ ร่วมกับทุกหน่วยงาน เพื่อให้เกิดเป็นเครือข่าย กิจกรรม และโครงการที่เข้มแข็งต่อไปในอนาคตและให้ โครงการ Young Agri Future เป็นกลไกในการส่งเสริมให้คนรุ่นใหม่ นักเรียน นักศึกษา รวมทั้ง กลุ่ม Young Famer หรือเกษตรกรผู้สนใจในการขับเคลื่อนการส่งเสริมการใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีและนวัตกรรมภาคการเกษตรฯ เพื่อยกระดับความสามารถในการแข่งขัน พร้อมต่อยอดผลงานนวัตกรรมจากการวิจัยสู่การผลิตเชิงพาณิชย์ต่อไปอย่างยั่งยืน ต่อไป สำหรับผลการตัดสิน และรับรางวัลโครงการประกวดผลงานนวัตกรรมและเทคโนโลยีภาคการเกษตร และอุตสาหกรรมเกษตรหรืออุตสาหกรรมที่เกี่ยวข้องกับภาคการเกษตร มีทีมที่ได้รับรางวัล ดังนี้ ระดับอุดมศึกษา (ปวส. - อนุปริญญา - ปริญญาตรี) 1. รางวัลชนะเลิศ รับถ้วยรางวัล พร้อมเงินรางวัล 100,000 บาท ได้แก่ทีม Agro -Tech LRU จากมหาวิทยาลัยราชภัฎเลย ผลงานนวัตกรรมการปอกเปลือกเขียวและกะเทาะกะลามะคาเดเมีย 2 ฟังค์ชัน 2. รางวัลรองชนะเลิศอันดับ 1 รับโล่รางวัล พร้อมเงินรางวัล 50,000 บาท ได้แก่ทีม CACOWs สำนักวิชาทรัพยากรการเกษตร จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ผลงาน โครงการนวัตกรรมการจัดการห่วงโซ่คุณค่าโกโก้ บนฐานโมเดลเศรษฐกิจ BCG 3. รางวัลรองชนะเลิศอันดับ 2 รับโล่รางวัล พร้อมเงินรางวัล 30,000 บาท ได้แก่ทีม Ecosphere จากมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี ผลงาน พลาสคูร่า 4. รางวัลนวัตกรรมเกษตรขวัญใจมหาชน (Popular Vote) รับโล่รางวัล พร้อมเงินรางวัล 20,000 บาท ได้แก่ทีม BOUNTYHUNTER จากมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลธัญญบุรี ผลงาน นวัตกรรมลดความชื้นวัตถุดิบทางการเกษตรต้นทุนต่ำเพื่อสร้างและเพิ่มรายได้อย่างยั่งยืนตามหลักเศรษฐกิจพอเพียง 5. รางวัลชมเชย 6 รางวัล รับเกียรติบัตร พร้อมเงินรางวัล 20,000 บาท ได้แก่ - ทีม First Farm Harvester มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ผลงาน : นวัตกรรมเครื่องเก็บข้าวโพดพร้อมอัดก้อนในตัวลดการเผาอย่างยั่งยืน - ทีม AMEC_1 มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลตะวันออก ผลงาน : เครื่องให้ปุ๋ยคอกน้ำใต้ดิน - ทีม DekAgino สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง ผลงาน : เครื่องพ่นสารอัติโนมัติสำหรับวัชพืชโดยควบคุมผ่านการเรียนรู้เชิงลึก - ทีม KWTK Team วิทยาลัยเทคนิคเขาวง ผลงาน : เครื่องคัดแยกขนาดพุทรานมบ้านโพนสู่การพัฒนาคุณภาพชีวิตที่ยั่งยืน - ทีม BOUNTYHUNTER มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลธัญบุรี ผลงาน : นวัตกรรมลดความชื้นวัตถุดิบทางการเกษตรต้นทุนต่ำเพื่อสร้างและเพิ่มรายได้อย่างยั่งยืนตามหลักเศรษฐกิจพอเพียง - ทีม ไข่ทองคำนวัตกรรมยั่งยืน วิทยาลัยเกษตรและเทคโนโลยีอุบลราชธานี ผลงาน : ไส้กรอกไข่ทรงเครื่องกึ่งสำเร็จรูป ระดับพื้นฐาน (มัธยมศึกษา - ปวช.) 1. รางวัลชนะเลิศ รับถ้วยรางวัล พร้อมเงินรางวัล 80,000 บาท ได้แก่ ทีม OsSe จากโรงเรียนเฉลิมพระเกียรติ 60 พรรษา ผลงาน : การพัฒนาเครื่องมือตรวจจับละอองสารเคมีด้วยโทรศัพท์มือถือ 2. รองชนะเลิศอันดับ 1 รับโล่รางวัล พร้อมเงินรางวัล 40,000 บาท ได้แก่ ทีม Angel Film จากโรงเรียนเตรียมอุดมศึกษาภาคใต้ ผลงาน : โครงงานการพัฒนาแผ่นฟิล์มคลุมดินชีวภาพจากกาบกล้วยเปลือกส้มโอ และไบโอชาร์จากเปลือกมังคุดในการรักษาความชื้นหน้าดิน 3. รองชนะเลิศอันดับ 2 รับโล่รางวัล พร้อมเงินรางวัล 20,000 บาท ได้แก่ ทีม ทีม Aerosol จากโรงเรียนชลประทานวิทยา ผลงาน : เครื่องเพาะปลูกพืชเศรษฐกิจแบบลงหัวด้วยระบบหมอกไฮบริดควบคุมสภาพแวดล้อมผ่านระบบอัจฉริยะเพื่อรับมือกับความไม่แน่นอนของสภาพ อากาศ 4. รางวัลนวัตกรรมเกษตรขวัญใจมหาชน (POPULAR VOTE) รับโล่รางวัลพร้อมเงินรางวัล 10,000 บาท ได้แก่ ทีม จิ้งจกผงกหัว โรงเรียนกาฬสินธุ์พิทยาสรรพ์ ผลงาน : เครื่องเพิ่มประสิทธิภาพในการฟักของตั๊กแตนเพื่อแก้ไขปัญหาการฟักไข่ของตั๊กแตนที่ไม่สม่ำเสมอ 5. รางวัลชมเชย 6 รางวัล รับเกียรติบัตร พร้อมเงินรางวัล 10,000 บาท ได้แก่ - ทีม AI BODIN 4 จากโรงเรียนบดินทรเดชา (สิงห์ สิงหเสนี) 4 ผลงาน : โรงเลี้ยงมวนตัวห้ำอัตโนมัติ - ทีม LUSH จากโรงเรียนเบญจมเทพอุทิศจังหวัดเพชรบุรี ผลงาน : เทคโนโลยีสมาร์ทฟาร์มสำหรับตรวจสอบและควบคุมการเจริญเติบโตของสาหร่ายผักกาดทะเล - ทีม TAD จากโรงเรียนธาธิตมหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ ฝ่ายมัธยม ผลงาน : นวัตกรรมระบบการเลี้ยงหนอนแมลงวัน BSF กึ่งอัตโนมัติเพื่อย่อยสลายอาหารชีวภาพลดการเกิดก๊าซเรือนกระจก - ทีม ซุปเปอร์ขาไก่ จากโรงเรียนมหิดลวิทยานุสรณ์ ผลงาน : การพัฒนาไฮโดรเจลผสมเจลาตินที่ก่อตัวเฉพาะที่สำหรับการปลดปล่อยเคอร์คูมิน - ทีม ปกรณ์พันธ์ไม้อยากพัฒนา นวัตกรรมเกษตร จากโรงเรียนปากเกร็ด ผลงาน : การสังเคราะห์และศึกษาคุณลักษณะของคาร์บอนควอนตัมดอทจากชีวมวลทางการเกษตรเพื่อกระตุ้นการงอกของเมล็ดและการเกิดรากของกิ่งปักชำตอบสนองแนวพระราชดำริเกษตรทฤษฎีใหม่ - ทีม VANTIX จากโรงเรียนปรินส์รอยแยลส์วิทยาลัย ผลงาน : การใช้สารอินทรีย์ระเหยง่ายเป็นชีวสัญญาณในการพัฒนาระบบเฝ้าระวังความผิดปกติของข้าวโพดเลี้ยวสัตว์ที่ถูกหนอนกระทู้ข้าวโพดลายจุดทำลายโดยการใช้เซ็นเซอร์อิเล็กทรอนิส์และปัญญาประดิษฐ์
สำนักงานพิพิธภัณฑ์เกษตรเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว (องค์การมหาชน) หรือ พกฉ. จัดประชุมคณะทำงานกลั่นกรองระเบียบ ข้อบังคับ พกฉ. ครั้งที่ 10/2568 โดยมีนายปฏิญญา เหลืองทองคำ เป็นประธานการประชุม ในวันที่ 4 ธันวาคม พ.ศ. 2568 เวลา 13.30 น. ณ ห้องประชุมตานรอยพ่อ ขั้น 3 อาคารสำนักงานพิพิธภัณฑ์เกษตรเฉลิมพระเกียรติฯ อำเภอคลองหลวง จังหวัดปทุมธานี โดยมีรายละเอียดการประชุม ดังนี้ ระเบียบวาระที่ 1 เรื่องที่ประธานแจ้งให้ที่ประชุมทราบ ระเบียบวาระที่ 2 เรื่องรับรองรายงานการประชุมคณะทำงานกลั่นกรองระเบียบ ข้อบังคับ พกฉ. ครั้งที่ 10/2568 เมื่อวันที่ 22 ตุลาคม 2568 ระเบียบวาระที่ 3 เรื่องที่เสนอให้ที่ประชุมทราบ 3.1 เรื่อง รายงานผลการประชุมคณะกรรมการสำนักงานพิพิธภัณฑ์เกษตรเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ครั้งที่ 11/2568 เมื่อวันที่ 20 พฤศจิกายน 2568 เกี่ยวกับกรณีดังนี้ - ร่างข้อบังคับคณะกรรมการสำนักงานพิพิธภัณฑ์เกษตรเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ว่าด้วยการบริหารงานบุคคล (ฉบับที่ 4) - ร่างระเบียบคณะกรรมการสำนักงานพิพิธภัณฑ์เกษตรเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ว่าด้วยหลักเกณฑ์และวิธีการเกี่ยวกับการสั่งพักงาน และการจ่ายเงินเดือนของผู้ถูกสั่งพักงาน - ร่างระเบียบคณะกรรมการสำนักงานพิพิธภัณฑ์เกษตรเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ว่าด้วยการอุทธรณ์และร้องทุกข์ และการพิจารณาวินิจฉัยอุทธรณ์และร้องทุกข์ระเบียบวาระที่ 4 เรื่องที่เสนอให้ที่ประชุมพิจารณา 4.1 เรื่อง ร่างบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ (MOU) เรื่อง การเป็นพันธมิตรด้านองค์ความรู้และเนื้อหาทางวิชาการในโครงการ "King's Wisdom Inspiration Youth Galaxy" ระหว่างสำนักงานพิพิธภัณฑ์เกษตรเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว (องค์การมหาชน) กับ บริษัท มลชญา จำกัด 4.2 เรื่อง ร่างข้อบังคับคณะกรรมการสำนักงานพิพิธภัณฑ์เกษตรเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ว่าด้วยการบริหารงานบุคคล (ฉบับที่ 5) 4.3 เรื่อง ร่างข้อบังคับคณะกรรมการสำนักงานพิพิธภัณฑ์เกษตรเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ว่าด้วยสวัสดิการและสิทธิประโยชน์อื่นของเจ้าที่ (ฉบับที่ 2) ระเบียบวาระที่ 5 เรื่องอื่น ๆ
วันที่ 4 ธันวาคม 2568 ณ สำนักงานพิพิธภัณฑ์เกษตรเฉลิมพระเกียรติฯ จังหวัดปทุมธานี เปิดงานมหกรรมใหญ่ “ภูมิพลังแผ่นดิน” ประจำปี 2568 อย่างเป็นทางการ โดยได้รับเกียรติจาก นายนเรศ ธำรงค์ทิพยคุณ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เป็นประธานในพิธี งานนี้จัดขึ้นเพื่อสืบสานพระราชปณิธานพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศรมหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถพิตร ด้านการพัฒนาการเกษตรและความเป็นอยู่ของประชาชน โดยเฉพาะพระอัจฉริยภาพด้านการจัดการดิน สะท้อนศาสตร์พระราชาที่จับต้องได้ และนำไปปฏิบัติได้จริง ผ่านนิทรรศการเทิดพระเกียรติ นิทรรศการเครือข่ายพิพิธภัณฑ์เกษตรฯ ผู้มากประสบการณ์ การอบรมวิชาของแผ่นดิน และ Workshop กว่า 16 หลักสูตร พร้อมชิม ช็อป สินค้าเกษตรในตลาดเศรษฐกิจพอเพียงกว่า 200 ร้าน และนอกจากนี้ยังมีการนำผลงานในโครงการประกวดนวัตกรรมและเทคโนโลยีภาคการเกษตร อุตสาหกรรมเกษตร หรืออุตสาหกรรมที่เกี่ยวข้องกับภาคการเกษตร Young Agri Future 2025 ภายใต้หัวข้อ “นวัตกรรมเกษตร : เพิ่มประสิทธิภาพและมูลค่าการผลิตเกษตรไทยยั่งยืน” ของน้อง ๆ นักเรียน และนักศึกษาที่ผ่านการเข้ารอบทั้ง 59 ทีมมาร่วมจัดแสดง พันจ่าเอก ประเสริฐ มาลัย ผู้อำนวยการสำนักงานพิพิธภัณฑ์เกษตรฯ กล่าวว่า “ในหลวงรัชกาลที่ 9 ทรงสอนให้พวกเรารู้จักดูแลผืนดิน แผ่นน้ำ และทรัพยากรธรรมชาติ งานมหกรรม “ภูมิพลังแผ่นดิน” ครั้งนี้ จัดขึ้นระหว่างวันที่ 4 – 7 ธันวาคม 2568 เพื่อเทิดพระเกียรติและน้อมรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณของในหลวงรัชกาลที่ 9 ผู้ทรงเป็น “พลังของแผ่นดิน” ที่มุ่งพัฒนาเกษตรกรไทยให้มีความมั่นคงทั้งด้านทรัพยากร ดิน น้ำ ป่า และคุณภาพชีวิต ผ่านหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงและหลักการทรงงาน ซึ่งจัดขึ้นภายใต้แนวคิด “ดินที่สมบูรณ์ สู่เมืองที่สมดุล เกื้อกูลชีวิต” ถ่ายทอดแนวพระราชดำริด้านการจัดการดินอย่างยั่งยืน ผ่านนิทรรศการเทิดพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร พร้อมเปิดพื้นที่เรียนรู้องค์ความรู้ด้านการเกษตร นวัตกรรม เทคโนโลยี ดิน น้ำ ป่า และการจัดการทรัพยากร รวมถึงองค์ความรู้จากเครือข่ายพิพิธภัณฑ์เกษตรฯ ที่นำเสนอประสบการณ์จริงจากการน้อมนำคำพ่อสอนไปใช้ในชุมชน ในนิทรรศการ “ดินอุดม น้ำสมบูรณ์ เกื้อกูลชีวิตที่สมดุล” เช่น การฟื้นฟูดิน การบริหารจัดการน้ำ การสร้างอาชีพ การแปรรูปเพิ่มมูลค่า และการสร้างคนรุ่นใหม่ในวิถีเกษตร” กิจกรรมพิเศษ เนื่องในวันพ่อแห่งชาติ วันดินโลก 5 ธันวาคม 2568 เวลา 08.30 น. ร่วมทำบุญตักบาตรข้าวสารอาหารแห้ง พระสงฆ์ จำนวน 69 รูป เพื่อถวายเป็นพระราชกุศลแด่พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร และสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง และช่วงเวลา 17.00 น. เป็นต้นไป ขอเชิญร่วมกิจกรรมและรับชมการแสดงโขนเทิดพระเกียรติ ชุด “คารวาลัยพระมิ่งมาตาคู่บุญญาบารมีบรมจักรีองค์ภูมิพล” พร้อมรับฟังบทเพลงพระราชนิพนธ์จากเสียงขลุ่ยของอาจารย์ธนิสร์ ศรีกลิ่นดี และคุณขวัญข้าว ธิดารินทร์ และร่วมจุดเทียนน้อมรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณ โดยตลอดทั้งงานเปิดเข้าชมฟรี พิพิธภัณฑ์ในหลวงรักเรา พิพิธภัณฑ์มหัศจรรย์พันธุกรรม พิพิธภัณฑ์ป่าดงพงไพร พิพิธภัณฑ์ดินดล และพิพิธภัณฑ์สนองพระราชปณิธาน นิทรรศการขุมทรัพย์แห่งแผ่นดิน พร้อมกิจกรรมเรียนรู้อบรมวิชาของแผ่นดินกว่า 16 วิชา โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย และชม ช็อป ผลผลิตเกษตรปลอดภัยในตลาดเศรษฐกิจพอเพียงที่รวบรวมสินค้าคุณภาพจากเครือข่ายเกษตรกรทั่วประเทศกว่า 200 ร้านค้า Pavilion พร้อมกิจกรรมมีส่วนร่วมมากมายในงาน อาทิ ทำภาพพิมพ์ wood cut กิจกรรม Eco Bag สีสันจากธรรมชาติ หล่อเหรียญและลงสพระบรมรูปปั้น DIY เพาะแจกแลกเปลี่ยนต้นไม้ เป็นต้น ท้ายนี้ ผอ.สำนักงานพิพิธภัณฑ์ฯ กล่าวเชิญชวนประชาชนทุกคนมาเรียนรู้ศาสตร์พระราชาจากประสบการณ์จริงของบุคคลต้นแบบทั่วประเทศ ในงานมหกรรม “ภูมิพลังแผ่นดิน” 4 – 7 ธันวาคม 2568 เพื่อนำไปปรับใช้ในชีวิตประจำวัน ไม่ว่าจะเป็นการทำเกษตรแบบพึ่งตนเอง การจัดการทรัพยากรในครัวเรือน หรือการสร้างอาชีพจากภูมิปัญญาไทย พร้อมจุดประกายแรงบันดาลใจให้ทุกคนได้ร่วมกันสานต่อพระราชปณิธานเพื่อสร้างพลังแห่งแผ่นดินที่มั่นคงต่อไป” สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม โทร.02-529-2212, 087-359-7171, 094-649-2333 หรือทาง Facebook พิพิธภัณฑ์การเกษตรฯ Website www.wisdomking.or.th
สำนักงานพิพิธภัณฑ์เกษตรเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว (องค์การมหาชน) จัดงานใหญ่ส่งท้ายปี งานมหกรรม “ภูมิพลังแผ่นดิน” จัดขึ้นในวันที่ 4 – 7 ธันวาคม 2568 เพื่อเทิดพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ด้านการจัดการดินเพื่อการเกษตร เนื่องในวันคล้ายวันพระบรมราชสมภพ 5 ธันวาคม วันพ่อแห่งชาติ และวันดินโลก พระมหากษัตริย์นักพัฒนา พระผู้ทรงมีพระอัจฉริยภาพ พระมหากรุณาธิคุณด้านการจัดการดินที่ยั่งยืน และทรงวางรากฐานความอุดมสมบูรณ์ให้แก่ผืนแผ่นดินไทย โดยจัดงานภายใต้แนวคิด “ดินที่สมบูรณ์ สู่เมืองที่สมดุล เกื้อกูลชีวิต” ถ่ายทอดศาสตร์พระราชาผ่านนิทรรศการ พร้อมเสริมทัพองค์ความรู้ผลงาน เทคโนโลยี และนวัตกรรมเกษตร จากหน่วยงานในสังกัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ หน่วยงานภาคีเครือข่าย เครือข่ายพิพิธภัณฑ์เกษตรฯ 4 ภูมิภาค และจากเยาวชนคนเก่งที่นำผลงานนวัตกรรมในโครงการประกวดนวัตกรรมและเทคโนโลยีภาคการเกษตร อุตสาหกรรมเกษตร หรืออุตสาหกรรม หรืออุตสาหกรรมที่เกี่ยวข้องกับภาคการเกษตร ชม ช้อป เพลิดเพลินกับตลาดเศรษฐกิจพอเพียง และกิจกรรมเรียนรู้มากมายตลอด 4 วัน ตั้งแต่เวลา 08.00 – 17.00 น. ณ พิพิธภัณฑ์การเกษตรเฉลิมพระเกียรติฯ จังหวัดปทุมธานี พันจ่าเอก ประเสริฐ มาลัย ผู้อำนวยการสำนักงานพิพิธภัณฑ์เกษตรเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว กล่าวว่า “พิพิธภัณฑ์การเกษตรฯ ทำหน้าที่สำคัญในการเผยแพร่พระเกียรติคุณและพระอัจฉริยภาพของสถาบันพระมหากษัตริย์ไทย 5 ธันวาคม วันคล้ายวันพระบรมราชสมภพพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร วันพ่อแห่งชาติ วันชาติ และวันดินโลก เพื่อน้อมรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณและพระอัจฉริยภาพด้านการจัดการดินที่ทรงวางรากฐานความอุดมสมบูรณ์ของผืนดินไทย เพื่อประโยชน์สุขของมหาชนชาวไทย การจัดงานมหกรรมในหลวงรักเรา ครั้งนี้จัดขึ้นภายใต้แนวคิด “ดินที่สมบูรณ์ สู่เมืองที่สมดุล เกื้อกูลชีวิต” ถ่ายทอดแนวพระราชดำริด้านการจัดการดินอย่างยั่งยืน ผ่านนิทรรศการเทิดพระเกียรติ นิทรรศการเครือข่ายพิพิธภัณฑ์เกษตรฯ ภาคีความร่วมมือ และงานนี้ถือเป็นครั้งสำคัญที่ผนึกกำลังร่วมจากทุกหน่วยงานในสังกัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ การน้อมนำศาสตร์พระราชาของในหลวงรัชกาลที่ 9ในโซนมหกรรม“เกษตรไทยก้าวสู่อนาคต ด้วยศาสตร์พระราชา” ที่ถ่ายทอดความยิ่งใหญ่แห่งศาสตร์พระราชา และจัดแสดงผลงานนวัตกรรมและเทคโนโลยีเพื่อการเกษตร และนิทรรศการไฮไลท์ที่มีชีวิตจากเครือข่ายพิพิธภัณฑ์ฯ ผู้น้อมนำคำพ่อสอนที่นำเอาองค์ความรู้และภูมิปัญญาท้องถิ่นและวิถีชีวิตที่สอดคล้องกับธรรมชาติ จากภูเขาสู่ท้องทะเล การจัดการดินและน้ำของทั้ง 4 ภูมิภาค การทำเกษตรในพื้นที่สูง การปลูกพืชอนุรักษ์ดิน หญ้าแฝก การจัดการดินหัวไร่ปลายนา การทำป่าร่วมยาง และป่าวนเกษตร ที่สะท้อนเอกลักษณ์ความเป็นไทยในทุกมิติ” นายอร่าม แก้วนิล ผู้เชี่ยวชาญพิเศษ ให้รายละเอียดเพิ่มเติมว่า “ภายในงานครั้งนี้ ผู้เข้าร่วมงานจะได้เรียนรู้จากพี่น้องเครือข่ายพิพิธภัณฑ์ฯ บุคคลต้นแบบที่น้อมนำแนวพระราชดำริไปประยุกต์ใช้ในพื้นที่ของตนเอง และประสบความสำเร็จ ในนิทรรศการ “ดินอุดม น้ำสมบูรณ์ เกื้อกูลชีวิตที่สมดุล” โดยงานนี้นำเสนอองค์ความรู้และภูมิปัญญาท้องถิ่นที่สอดคล้องกับธรรมชาติและวิถีชีวิตที่สร้างความอุดมสมบูรณ์ และเกิดสมดุลอย่างยั่งยืน มาจัดแสดง แลกเปลี่ยน และถ่ายทอดประสบการณ์ ในโซนฐานนิทรรศการย่อยต่างๆ ทั้งการจัดการดินและน้ำ จาก 4 ภูมิภาค การทำเกษตรในพื้นที่สูง การปลูกพืชอนุรักษ์ดิน ระบบป่าต้นน้ำ เช่น หญ้าแฝก ระบบเหมืองฝาย ต้นไม้ท้องถิ่น ฝายชะลอน้ำ การจัดการดินหัวไร่ปลายนา การทำป่าร่วมยาง และป่าวนเกษตร ทั้งวิถีวัฒนธรรม ความเชื่อ ที่อยู่คู่กับเกษตรกร องค์ความรู้ พืชน้ำ พันธุกรรมสัตว์ประจำถิ่น วิถีชาวนา วิถีประมงชายฝั่ง และความหลากหลายทางชีวภาพ และที่สำคัญภายในงานยังมีการถ่ายทอดองค์ความรู้ผ่านการอบรมวิชาของแผ่นดินและ Workshop กว่า 16 วิชา โดยไม่มีค่าใช้จ่าย อาทิ หลักสูตร“จากพืชเชิงเดี่ยว สู่เกษตรพอเพียง” โดย รศ.ดร.สุภีร์ สมอนา จาก “สวนเกษตรคนอินทรีย์” จ.นครราชสีมา หลักสูตร“ปรุงดินด้วยปุ๋ยหมัก 5 พลัง” โดย อาจารย์เพชรรุ่ง พุกกะเวส เครือข่ายพิพิธภัณฑ์เกษตรฯ จ.จันทบุรี หลักสูตร“สะเดานอกฤดู สร้างรายได้” โดย อาจารย์วีรยุทธ ศรีเลอจันทร์ (อ.ทอง ธรรมดา) เครือข่ายพิพิธภัณฑ์เกษตรฯ จ.นครราชสีมา หลักสูตร“พลิกดิน สู่ชีวิตอินทรีย์” โดย อาจารย์สุธรรม จันทร์อ่อน “ปราชญ์เกษตรของแผ่นดิน” จ.นครปฐม หลักสูตร“ระบบซิงค์ผลิตไฟฟ้า ลดการพึ่งพา” โดย อาจารย์ธีระยุทธ ทองเต่าอินทร์ หลักสูตร“ปั้นแบรนด์ธุรกิจ ด้วยเทคนิคการเล่าเรื่อง” โดย ดร.สุชีรา มาตยภูธร ภาควิชาส่งเสริมและนิเทศศาสตร์เกษตร คณะเกษตร กำแพงแสน จ.นครปฐม หลักสูตร“เบญจคุณ บำรุงดิน” โดย อาจารย์เฉลิม พีรี “สวนเกษตรสมคิด” เครือข่ายพิพิธภัณฑ์เกษตรฯ จ.กำแพงเพชร นายสมเกียรติ ไพฑูรย์ เครือข่ายพิพิธภัณฑ์เกษตรฯ จังหวัดปราจีนบุรี กล่าวเพิ่มเติมส่วนของกิจกรรมเครือข่ายพิพิธภัณฑ์เกษตรฯ ว่า “นิทรรศการ “ดินอุดม น้ำสมบูรณ์ เกื้อกูลชีวิตที่สมดุล”เกิดจากความร่วมมือของเหล่าเครือข่ายพิพิธภัณฑ์เกษตรฯ ได้มารวมตัวและร่วมจัดแสดงนิทรรศการ ถ่ายทอดความรู้ ประสบการณ์ที่ได้ประยุกต์ใช้ในภูมิสังคม ของแต่ละคน ผ่านความสำเร็จ ความล้มเหลวมาบอกเล่า และสร้างแรงบันดาลใจในงานครั้งนี้ โดยเฉพาะด้านการจัดการดิน ซึ่งถือเป็นหัวใจสำคัญของการเกษตร แต่ละพื้นที่มีลักษณะดิน ภูมินิเวศน์ และปัญหาที่แตกต่างกัน ดังนั้นจะได้เห็นตัวอย่างการปรับใช้แนวพระราชดำริให้เหมาะสมกับสภาพแวดล้อมท้องถิ่น เช่น การทำแนวกันดินและระบบน้ำสำหรับพื้นที่สูงและลาดชัน การบำรุงดินทรายหรือดินเปรี้ยวด้วยปุ๋ยหมักและวัสดุอินทรีย์ การปลูกพืชคลุมดินเพื่อป้องกันการชะล้างดินในพื้นที่ลุ่ม การจัดการหัวไร่ปลายนาอย่างเป็นระบบ การสร้างป่าร่วมยางหรือป่าวนเกษตรเพื่อฟื้นฟูความอุดมสมบูรณ์ของดินและระบบนิเวศน์ และการปลูกหญ้าแฝกเพื่อรักษาหน้าดิน ทุกเทคนิคและวิธีการเหล่านี้สะท้อนการน้อมนำแนวพระราชดำริให้เข้ากับบริบทของดินในแต่ละภูมิภาคอย่างเหมาะสม พร้อมทั้งสอดแทรกองค์ความรู้เรื่องการจัดการน้ำและการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติอย่างสมดุล เพื่อให้ผู้เข้าร่วมงานไม่เพียงแค่ชมผลงาน แต่สามารถเรียนรู้แนวทางและนำไปปรับใช้ได้จริงตามสภาพพื้นที่ของตนเอง เป็นการส่งต่อภูมิปัญญาและแนวคิดที่ยั่งยืนของในหลวงรัชกาลที่ 9 สู่การปฏิบัติในชีวิตจริง” พันจ่าเอก ประเสริฐ มาลัย ผู้อำนวยการสำนักงานพิพิธภัณฑ์เกษตรเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว กล่าวเชิญชวนเนื่องในวันพ่อแห่งชาติ ในช่วงเช้าเวลา 08.30 น. ขอเชิญร่วมทำบุญใส่บาตรข้าวสารอาหารแห้ง พระสงฆ์ จำนวน 69 รูป เพื่อถวายเป็นพระราชกุศลแด่พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร และสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง และช่วงเวลา 17.00 น. เป็นต้นไป ขอเชิญร่วมกิจกรรมและรับชมการแสดงโขนเทิดพระเกียรติ ชุด “คารวาลัยพระมิ่งมาตาคู่บุญญาบารมีบรมจักรีองค์ภูมิพล” พร้อมรับฟังบทเพลงพระราชนิพนธ์จากเสียงขลุ่ยของอาจารย์ธนิสร์ ศรีกลิ่นดี และคุณขวัญข้าว ธิดารินทร์ และร่วมจุดเทียนน้อมรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณ และขอย้ำว่าตลอดทั้ง 4 วัน ชม ช้อป ผลผลิต สินค้าแปรรูปจากเกษตรกรเครือข่ายฯ กว่า 200 ร้าน เปิดให้เข้าชม 6 พิพิธภัณฑ์ ไม่มีค่าใช้จ่าย ได้แก่ พิพิธภัณฑ์ในหลวงรักเรา พิพิธภัณฑ์มหัศจรรย์พันธุกรรม พิพิธภัณฑ์ป่าดงไพร พิพิธภัณฑ์ดินดล พิพิธภัณฑ์สนองพระราชปณิธาน นิทรรศการขุมทรัพย์แห่งแผ่นดิน และพิพิธภัณฑ์กษัตริย์เกษตร นิทรรศการ Immersive of Mado Pavilion พร้อมกิจกรรมหลากหลายภายในงาน อาทิ ทำภาพพิมพ์ wood cut กิจกรรม Eco Bag สีสันจากธรรมชาติ เพาะแจกแลกเปลี่ยน เป็นนต้น มาทุกวันได้เรียนรู้สิ่งใหม่ๆทุกวัน สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมโทร.02-529-2212, 087-359-7171, 094-649-2333 หรือทาง Facebook พิพิธภัณฑ์การเกษตรฯ Website www.wisdomking.or.th
สำนักงานพิพิธภัณฑ์เกษตรเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว (องค์การมหาชน) หรือ พกฉ. จัดประชุมคณะกรรมการสำนักงานพิพิธภัณฑ์เกษตรเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ครั้งที่ 11/2568 ผ่านโปรแกรม Zoom Meeting Application โดยมีนายสำราญ สาราบรรณ์ ประธานกรรมการ พกฉ. เป็นประธานการประชุม ในวันพฤหัสบดีที่ 20 พฤศจิกายน พ.ศ. 2568 เวลา 09.30 น. ณ ห้องประชุมตามรอยพ่อ ขั้น 3 อาคารสำนักงานพิพิธภัณฑ์เกษตรเฉลิมพระเกียรติฯ อำเภอคลองหลวง จังหวัดปทุมธานี โดยมีรายละเอียดการประชุม ดังนี้ ระเบียบวาระที่ 1 เรื่องที่ประธานแจ้งให้ที่ประชุมทราบ 1.1 เรื่อง สรุปผลการปฏิบัติกิจกรรมสำคัญของสำนักงาน ระเบียบวาระที่ 2 เรื่องการรับรองรายงานการประชุมคณะกรรมการ พกฉ. ครั้งที่ 10/2568 เมื่อวันที่ 15 ตุลาคม 2568 ระเบียบวาระที่ 3 เรื่องที่เสนอให้ที่ประชุมพิจารณา 3.1 เรื่อง ร่างข้อบังคับคณะกรรมการสำนักงานพิพิธภัณฑ์เกษตรเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ว่าด้วยการบริหารงานบุคคล (ฉบับที่ 4) 3.2 เรื่อง ร่างระเบียบคณะกรรมการสำนักงานพิพิธภัณฑ์เกษตรเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ว่าด้วยหลักเกณฑ์และวิธีการเกี่ยวกับการสั่งพักงาน และการจ่ายเงินเดือนของผู้ถูกสั่งพักงาน 3.3 เรื่อง ร่างระเบียบคณะกรรมการสำนักงานพิพิธภัณฑ์เกษตรเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ว่าด้วยการอุทธรณ์และร้องทุกข์ และการพิจารณา วินิจฉัยอุทธรณ์และร้องทุกข์ 3.4 เรื่อง ขออนุมัติจ่ายเงินรางวัลสำหรับทีมที่ผ่านเข้ารอบประกวด แต่ไม่ได้รับรางวัลอื่นใด และเงินค่าสนับสนุนการเดินทางร่วมกิจกรรม Workshop Young Agri Future 2025 จากเงินนอกงบประมาณ ในโครงการประกวดนวัตกรรมและเทคโนโลยีภาคการเกษตรอุตสาหกรรมเกษตร หรืออุตสาหกรรมที่เกี่ยวข้องกับภาคการเกษตร Young Agri Future 2025ระเบียบวาระที่ 4 เรื่องที่เสนอให้ที่ประชุมทราบ 4.1 เรื่อง รายงานผลการดำเนินงานและผลการใช้จ่ายเงินตามแผนปฏิบัติการประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2569 ของสำนักงานพิพิธภัณฑ์เกษตรเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว (องค์การมหาชน) ณ วันที่ 31 ตุลาคม 2568 4.2 เรื่อง รายงานการประเมินผลการดำเนินงานของกลุ่มตรวจสอบภายใน ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2568 4.3 เรื่อง สรุปผลการประชุมของคณะกรรมการตรวจสอบ และคณะอนุกรรมการต่าง ๆ 4.4 เรื่อง กำหนดการประชุมคณะกรรมการสำนักงานพิพิธภัณฑ์เกษตรเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ครั้งที่ 12/2568 ระเบียบวาระที่ 5 เรื่องอื่น ๆ
สำนักงานพิพิธภัณฑ์เกษตรเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว (องค์การมหาชน) หรือ พกฉ.จัดประชุมคณะอนุกรรมการบริหารงานบุคคล ครั้งที่ 8/2568 ผ่านระบบประชุมทางไกล Zoom meeting Application โดยมี นายสำราญ สาราบรรณ์ เป็นประธานการประชุม ในวันพุธที่ 19 พฤศจิกายน 2568 เวลา 09.00 น. ณ ห้องประชุมตามรอยพ่อ ชั้น 3 อาคารสำนักงานพิพิธภัณฑ์เกษตรเฉลิมพระเกียรติฯ อำเภอคลองหลวง จังหวัดปทุมธานี โดยมีรายละเอียดการประชุม ดังนี้ ระเบียบวาระที่ 1 เรื่องประธานแจ้งให้ที่ประชุมทราบระเบียบวาระที่ 2 เรื่องรับรองรายงานการประชุมคณะอนุกรรมการบริหารงานบุคคล ครั้งที่ 7/2568 ระเบียบวาระที่ 3 เรื่องสืบเนื่อง เรื่อง การดำเนินงานตามมติ/ข้อเสนอแนะของที่ประชุมคณะอนุกรรมการบริหารงานบุคคลระเบียบวาระที่ 4 เรื่องที่เสนอที่ประชุมทราบ 4.1 เรื่อง การสรรหาและแต่งตั้งผู้อำนวยการสำนักอำนวยการ 4.2 เรื่อง การปรับปรุง แก้ไข ข้อบังคับ ที่เกี่ยวกับการบริหารงานบุคคล ระเบียบวาระที่ 5 เรื่องอื่นๆ
สำนักงานพิพิธภัณฑ์เกษตรเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว (องค์การมหาชน) หรือ พกฉ.จัดประชุมคณะอนุกรรมการพัฒนากิจการและรายได้ของสำนักงานพิพิธภัณฑ์เกษตรเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว (องค์การมหาชน) ครั้งที่ 9/2568 โดยมี ดร. วีระชัย นาควิบูลย์วงศ์ เป็นประธานการประชุม ในวันพุธที่ 19 พฤศจิกายน 2568 เวลา 10.00 น. ณ ห้องประชุมตามรอยพ่อ ชั้น 3 อาคารสำนักงานพิพิธภัณฑ์เกษตรเฉลิมพระเกียรติฯ อำเภอคลองหลวง จังหวัดปทุมธานี โดยมีรายละเอียดการประชุม ดังนี้ ระเบียบวาระที่ 1 เรื่องประธานแจ้งให้ที่ประชุมทราบ 1.1 เรื่อง สรุปผลการประชุมคณะกรรมการ พกฉ. ครั้งที่ 10/2568 เมื่อวันพุธที่ 15 ตุลาคม 2568 1.2 เรื่อง รายงานผลการดำเนินงานและผลการจัดหารายได้ พกฉ. ณ วันที่ 31 ตุลาคม 2568 ระเบียบวาระที่ 2 เรื่องรับรองรายงานการประชุมคณะอนุกรรมการพัฒนากิจการและรายได้ของสำนักงานพิพิธภัณฑ์เกษตรเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว(องค์การมหาชน) ครั้งที่ 8/2568 เมื่อวันศุกร์ ที่ 17 ตุลาคม 2568 ระเบียบวาระที่ 3 เรื่องสืบเนื่องเพื่อทราบ 3.1 เรื่อง สรุปต้นทุนบริการด้านการจัดหารายได้ เบื้องต้น (ประจำปี 2568) สำนักพัฒนากิจการ 3.2 เรื่อง ความก้าวหน้าโครงการประกวดผลงานนวัตกรรม และเทคโนโลยีภาคการเกษตร,ฯระเบียบวาระที่ 4 เรื่องเสนอที่ประชุมพิจารณา 4.1 เรื่อง ขออนุมัติจ่ายเงินรางวัลสำหรับทีมที่ผ่านเข้ารอบประกวด แต่ไม่ได้รับรางวัลอื่นใด และเงินค่าสนับสนุนการเดินทางร่วมกิจกรรม Workshop Young Agri Future 2025 จากเงินนอกงบประมาณ ในโครงการประกวดนวัตกรรมและ เทคโนโลยีภาคการเกษตรอุตสาหกรรมเกษตร หรืออุตสาหกรรมที่เกี่ยวข้องกับภาคการเกษตร Young Agri Future 2025 4.2 เรื่อง หลักการและงบประมาณ กิจกรรมการตัดสินและมอบรางวัลโครงการประกวดนวัตกรรมและเทคโนโลยีภาคการเกษตรฯ 3-4 ธ.ค. 2568
วันจันทร์ที่ 17 พฤศจิกายน 2568 สำนักงานพิพิธภัณฑ์การเกษตรเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว (องค์การมหาชน) นำโดยพันจ่าเอก ประเสริฐ มาลัย ผู้อำนวยการ พกฉ. พร้อมคณะทำงานลงพื้นที่ สวนธรรมชาติมีดี ตำบลบ้านครัว อำเภอบ้านหมอ จังหวัดสระบุรี เพื่อเปิดกิจกรรม Kick Off โครงการสังเคราะห์องค์ความรู้เกษตรทฤษฎีใหม่ตามหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงตามภูมิสังคม การลงพื้นที่ครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษา บริบทการดำเนินกิจกรรมการเกษตร ที่ประยุกต์ใช้เกษตรทฤษฎีใหม่ตามแนวทางปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง พร้อมทั้งดำเนินการ วิเคราะห์และสังเคราะห์องค์ความรู้ เพื่อนำไปจัดทำองค์ความรู้สำหรับใช้ในการพัฒนานิทรรศการและต่อยอดสู่งานภารกิจต่าง ๆ ของ พกฉ. ทั้งนี้ สำนักงานพิพิธภัณฑ์การเกษตรเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว (องค์การมหาชน) ยังคงมุ่งมั่นขับเคลื่อนองค์ความรู้เกษตรเศรษฐกิจพอเพียงให้เป็นรูปธรรม สู่การพัฒนาแหล่งเรียนรู้เพื่อประชาชน อย่างอย่างต่อเนื่อง
วันที่ 14 พฤศจิกายน 2568 พันจ่าเอก ประเสริฐ มาลัย ผู้อำนวยการสำนักงานพิพิธภัณฑ์เกษตรเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว มอบหมายให้ นางสาวสมพิศ วงศ์ปัญญา รองผู้อำนวยการสำนักงานพิพิธภัณฑ์เกษตรเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว พร้อมด้วย นางสาวสุภารัตน์ ปานผดุง ผู้อำนวยการสำนักอำนวยการ เจ้าหน้าที่ พกฉ. เข้าร่วมพิธีวางพานพุ่มดอกไม้สดเนื่องใน “วันพระบิดาแห่งฝนหลวง” ประจำปี 2568 ภายใต้แนวคิด “70 ปี ฝนหลวง สืบสาน พระราชปณิธาน พระบิดาแห่งฝนหลวง เพื่อพสกนิกรของพระราชา” โดยได้รับเกียรติจากนายนเรศ ธำรงค์ทิพยคุณ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เป็นประธานพิธี จัดขึ้นเพื่อเป็นการแสดงความจงรักภักดีและน้อมรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณของพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร “พระบิดาแห่งฝนหลวง” ณ Jewel Hall ชั้น 5 สยามพารากอน เขตปทุมวัน กรุงเทพฯ
วันที่ 13 พฤศจิกายน 2568 พันจ่าเอก ประเสริฐ มาลัย ผู้อำนวยการสำนักงานพิพิธภัณฑ์การเกษตรเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว (พกฉ.) ให้เกียรติเป็นประธานในพิธีปัจฉิมนิเทศนักเรียน “1 ไร่ มั่งคั่ง ยั่งยืน” รุ่นที่ 15 และปฐมนิเทศนักเรียนรุ่นที่ 16 โดยมีนางสาวสมพิศ วงศ์ปัญญา รองผู้อำนวยการ พกฉ. นางสาวสำเภาว์ งามเชย รองผู้อำนวยการ พกฉ. ผู้บริหารและเจ้าหน้าที่ พร้อมด้วยวิทยากรประจำหลักสูตร อาทิ อาจารย์เฉลิม พีรี อาจารย์สุพจน์ ศรีไสยเพชร อาจารย์ขวัญชัย รักษาพันธ์ อาจารย์ขวัญใจ เนตรหาร และอาจารย์มงคล เพชรเนียม เข้าร่วมพิธี ณ ห้องประชุมศาลาเพียงดิน พิพิธภัณฑ์การเกษตรฯ จังหวัดปทุมธานี ภายในพิธีจัดให้มีการมอบประกาศนียบัตรแก่นักเรียนโครงการ “1 ไร่ มั่งคั่ง ยั่งยืน” รุ่นที่ 15 เพื่อเป็นเกียรติและเป็นขวัญกำลังใจแก่ผู้สำเร็จการศึกษา พร้อมส่งเสริมให้กลับไปประยุกต์ใช้ความรู้ในพื้นที่ของตนเอง และขยายผลองค์ความรู้ด้านเกษตรทฤษฎีใหม่สู่สังคม โดยโครงการดังกล่าวเป็นหลักสูตรเรียนรู้เชิงปฏิบัติการด้านการเกษตร ที่ต่อยอดจากพระราชดำริด้านเศรษฐกิจพอเพียง พร้อมทั้งได้จัดพิธีปฐมนิเทศต้อนรับนักเรียนรุ่นที่ 16 จำนวน 5 คน เข้าสู่การเรียนรู้ในหลักสูตร “เกษตรทฤษฎีใหม่ประยุกต์ 1 ไร่ มั่งคั่ง ยั่งยืน” ซึ่งมุ่งเน้นการเรียนรู้จากทฤษฎีสู่การปฏิบัติจริง ตลอดระยะเวลา 4 เดือน ภายใต้การดูแลและถ่ายทอดความรู้จากเกษตรกรต้นแบบ เพื่อให้นักเรียนสามารถนำไปปรับใช้ให้เหมาะสมกับสภาพพื้นที่ของตนเอง และเกิดประโยชน์สูงสุดในการดำเนินชีวิตตามแนวทางเศรษฐกิจพอเพียง สำหรับโครงการเกษตรทฤษฎีใหม่ประยุกต์ “1 ไร่ มั่งคั่ง ยั่งยืน” ถือเป็นอีกหนึ่งภารกิจสำคัญของพิพิธภัณฑ์การเกษตรฯ ที่มุ่งสร้างต้นแบบเกษตรกรรุ่นใหม่ให้มีความรู้ ความเข้าใจ และทักษะในการทำเกษตรอย่างยั่งยืน เพื่อเป็นกำลังสำคัญในการสืบสาน รักษา และต่อยอดพระราชปณิธานของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวด้านการเกษตรต่อไป
วันที่ 5 ธันวาคมของทุกปี เป็นวันที่คนไทยทั้งแผ่นดินน้อมสำนึกพระมหากรุณาธิ ที่สุดมิได้ ของพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร พระมหากษัตริย์ผู้ทรงทำงานหนักท่ามกลางพระราชกรณียกิจนับพันโครงการ โดยเฉพาะพระอัจฉริยภาพด้านการจัดการดินที่โดดเด่นและเป็นที่ประจักษ์ระดับโลก ดินที่เป็นรากฐานของอาหาร ความมั่นคง และการดำรงชีวิต จนได้รับการยกย่องในระดับโลกให้เป็น “นักวิทยาศาสตร์ดินเพื่อมนุษยธรรม” สำนักงานพิพิธภัณฑ์เกษตรเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว (องค์การมหาชน) จึงได้จัดงานและกิจกรรมในเดือนธันวาคม มหกรรม “ภูมิพลังแผ่นดิน” เพื่อน้อมสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ และเผยแพร่ศาสตร์พระราชาด้านการพัฒนาดินและการเกษตรให้ประชาชนทุกกลุ่มสามารถนำไปประยุกต์ใช้ได้จริงอย่างยั่งยืนพันจ่าเอก ประเสริฐ มาลัย ผู้อำนวยการสำนักงานพิพิธภัณฑ์เกษตรเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว กล่าวว่า “งานภูมิพลังแผ่นดินเป็นเวทีสำคัญที่พิพิธภัณฑ์การเกษตรฯ ใช้ในการเทิดพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศรมหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราชฯ ผู้ทรงเป็นกำลังของแผ่นดินและนักวิทยาศาสตร์ดินเพื่อมนุษยธรรมภายในงานมีนิทรรศการเทิดพระเกียรติ นิทรรศการเครือข่ายฯ และกิจกรรมถ่ายทอดองค์ความรู้เพื่อน้อมนำศาสตร์พระราชาให้ประชาชนสามารถประยุกต์ใช้ได้จริง” โดยในช่วงเช้าวันนี้ มีพิธีทำบุญตักบาตรข้าวสาร อาหารแห้ง พระสงฆ์ 69 รูป และพิธีไถ่ชีวิตโค โครงการธนาคารโค-กระบือเพื่อเกษตรกร ตามพระระราชดำริ เพื่อถวายเป็นพระราชกุศลแด่ พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง โดยกรมปศุสัตว์ และในช่วงเย็นมีพิธีจุดเทียนน้อมรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณ พร้อมการแสดงโขนเทิดพระเกียรติ ชุด “คารวาลัยพระมิ่งมาตาคู่บุญญา บารมีบรมจักรีองค์ภูมิพล” จากคณะศิลปกรรมศาสตร์มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลธัญบุรี และบทเพลงขลุ่ยเพื่อพ่อ โดย อ.ธนิสร์ ศรีกลิ่นดี ศิลปินแห่งชาติ และคุณขวัญข้าว ธิดารินทร์ ตลอดการจัดงานทั้ง 4 วัน ประชาชนสามารถร่วมกิจกรรมเรียนรู้และอบรมเชิงปฏิบัติการกว่า 16 หลักสูตรโดยไม่เสียค่าใช้จ่าย ทั้ง Onsite และ Online รวมถึงเข้าชมพิพิธภัณฑ์โดยไม่มีค่าใช้จ่าย ได้แก่ พิพิธภัณฑ์ในหลวงรักเรา พิพิธภัณฑ์มหัศจรรย์พันธุกรรม พิพิธภัณฑ์ป่าดงพงไพร พิพิธภัณฑ์ดินดล และพิพิธภัณฑ์สนองพระราชปณิธาน อีกทั้งชม ช้อป สินค้าเกษตรปลอดภัย ผลผลิตเกษตรอินทรีย์ อาหารพื้นบ้าน และต้นไม้นานาพันธุ์กว่า 200 ร้านค้า กิจกรรมพิเศษสำหรับทุกวัย เช่น ทำภาพพิมพ์ Wood Cut ถุงผ้า Eco Bag จากสีธรรมชาติ เพาะ แจก แลกเปลี่ยนต้นไม้ และกิจกรรมสร้างสรรค์อื่น ๆ เพื่อให้ผู้เข้าชมได้เรียนรู้สิ่งใหม่ในทุกวัน สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ โทร. 02-529-2212, 087-359-7171 ,094-649-2333 หรือทางFacebook พิพิธภัณฑ์การเกษตรฯ และเว็บไซต์ www.wisdomking.or.th
วันที่ 5 ธันวาคม 2568 เวลา 08.00 น. พันจ่าเอก ประเสริฐ มาลัย ผู้อำนวยการ พกฉ. นำคณะผู้บริหาร เจ้าหน้าที่ เครือข่ายพิพิธภัณฑ์เกษตรฯ พร้อมด้วยประชาชนร่วมทำบุญตักบาตรข้าวสารอาหารแห้ง แด่พระภิกษุสงฆ์ จำนวน 69 รูป ณ ลานหน้าพระบรมฉายาลักษณ์ฯ สำนักงานพิพิธภัณฑ์เกษตรเฉลิมพระเกียรติฯ ปทุมธานี เวลา 10.00 น. จัดให้มีพิธีถวายภัตตาหารเพลแด่พระสงฆ์ จำนวน 10 รูป จัดขึ้นเพื่อถวายเป็นพระราชกุศลแด่พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร และสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง จัดขึ้น ณ ลานภูมิปัญญา ภายในพื้นที่พิพิธภัณฑ์ในหลวงรักเรา สำนักงานพิพิธภัณฑ์เกษตรเฉลิมพระเกียรติฯ ปทุมธานี
สำนักงานพิพิธภัณฑ์เกษตรเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว (องค์การมหาชน) จัดโครงการส่งเสริมการเรียนรู้การอนุรักษ์ทรัพยากร “ค่ายเรียนรู้พันธุกรรมพืชท้องถิ่น จังหวัดอุตรดิตถ์” ระหว่างวันที่ 21–23 พฤศจิกายน 2568 ณ ศูนย์เรียนรู้เครือข่าย พกฉ. จังหวัดอุตรดิตถ์ “กลุ่มเกษตรธรรมเพื่อชีวิต” วัดดอยท่าเสา อำเภอเมือง จังหวัดอุตรดิตถ์ โดยมีเยาวชนในพื้นที่เข้าร่วมทำกิจกรรม โครงการดังกล่าวมีวัตถุประสงค์เพื่อเสริมสร้างความรู้และความเข้าใจด้านการอนุรักษ์พันธุกรรมพืชท้องถิ่น ตลอดจนปลูกฝังจิตสำนึกในการหวงแหนและรักษาทรัพยากรธรรมชาติในชุมชน กระตุ้นให้เยาวชนตระหนักถึงคุณค่าและประโยชน์ของทรัพยากรพืชพื้นบ้าน ซึ่งเป็นรากฐานสำคัญของความมั่นคงทางอาหารและสิ่งแวดล้อม ภายในค่ายเยาวชนได้ร่วมเรียนรู้กับปราชญ์ชุมชนผ่านฐานกิจกรรมหลากหลาย อาทิ “ลูกประคบสมุนไพร ภูมิปัญญาเพื่อสุขภาพ” การทำบุษบาห่มผ้า และการประดิษฐ์พวงกุญแจสมุนไพรหอม พร้อมเรียนรู้ภูมิปัญญาท้องถิ่นด้านสมุนไพรและพืชพื้นบ้าน กิจกรรมได้รับความสนใจและความร่วมมืออย่างคึกคัก สร้างแรงบันดาลใจให้เยาวชนสามารถนำความรู้ไปต่อยอดในการอนุรักษ์ทรัพยากรในพื้นที่ของตนอย่างยั่งยืน
วันที่ 16 พฤศจิกายน 2568 พันจ่าเอก ประเสริฐ มาลัย ผู้อำนวยการสำนักงานพิพิธภัณฑ์เกษตรเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว พร้อมด้วย นายชญณิพัฑฒ์ จักรดารานุวัฒน์ ผู้อำนวยการสำนักพัฒนากิจการ เปิดพื้นที่ 374 ไร่ ต้อนรับนักวิ่งในกิจกรรมการแข่งขันวิ่ง Fabrinet Mini Marathon 2025 จัดโดย บริษัท ฟาบริเนท จำกัด เพื่อส่งเสริมให้บุคลากรมีสุขภาพที่ดี ผ่านการออกกำลังกาย โดยการเดิน - วิ่ง และส่งเสริมการใช้เวลาว่างให้เป็นประโยชน์ สร้างความรักความสามัคคีต่อกัน โดยมีผู้เข้าร่วมกิจกรรมกว่า 600 คน จัดขึ้น ณ พิพิธภัณฑ์การเกษตรเฉลิมพระเกียรติฯ อำเภอคลองหลวง จังหวัดปทุมธานี
วันที่ 4 – 7 ธันวาคม 2568 พิพิธภัณฑ์การเกษตรเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว จังหวัดปทุมธานี จัดงานใหญ่ส่งท้ายปี เพื่อเทิดพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศรมหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ด้านการจัดการดินเพื่อการเกษตร เนื่องในวันคล้ายวันพระบรมราชสมภพ 5 ธันวาคม วันพ่อแห่งชาติ “วันดินโลก” พระมหากษัตริย์นักพัฒนา พระผู้ทรงมีพระอัจฉริยภาพ พระมหากรุณาธิคุณด้านการจัดการดินที่ยั่งยืน และทรงวางรากฐานความอุดมสมบูรณ์ให้แก่ผืนแผ่นดินไทย ภายในงานจัดแสดงนิทรรศการเทิดพระเกียรติฯ ชุด “ดินที่สมบูรณ์ สู่เมืองที่สมดุล เกื้อกูลชีวิต” พร้อมเสริมทัพองค์ความรู้ผลงานและนวัตกรรมที่มาช่วยส่งเสริมและสนับสนุนด้านการเกษตร จากหน่วยงานในสังกัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ หน่วยงานภาคีเครือข่าย และเครือข่ายพิพิธภัณฑ์เกษตรฯ อบรมวิชาของแผ่นดินและ Workshop กว่า 16 วิชา โดยไม่มีค่าใช้จ่าย ชม ช้อปผลิตภัณฑ์คุณภาพจากเครือข่ายเกษตรกร กว่า 200 ร้านค้า ตั้งแต่เวลา 08.00 – 17.00 น. ณ พิพิธภัณฑ์การเกษตรเฉลิมพระเกียรติฯ จังหวัดปทุมธานี พันจ่าเอก ประเสริฐ มาลัย ผู้อำนวยการสำนักงานพิพิธภัณฑ์เกษตรเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว กล่าวว่า “พิพิธภัณฑ์การเกษตรฯ ทำหน้าที่สำคัญในการเผยแพร่พระเกียรติคุณและพระอัจฉริยภาพของสถาบันพระมหากษัตริย์ไทย ซึ่งในเดือนธันวาคม ถือเป็นเดือนเทิดพระเกียรติคุณของพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ด้านการจัดการดิน วันที่ 5 ธันวาคมซึ่งเป็นวันคล้ายวันพระบรมราชสมภพของพระองค์ท่าน และวันดินโลก พระมหากษัตริย์ผู้ทรงวางรากฐานความอุดมสมบูรณ์ของผืนดินไทย เพื่อประโยชน์สุขของมหาชนชาวสยาม งานมหกรรมในหลวงรักเรา ครั้งนี้จัดขึ้นภายใต้แนวคิด “ดินที่สมบูรณ์ สู่เมืองที่สมดุล เกื้อกูลชีวิต” ถ่ายทอดแนวพระราชดำริด้านการจัดการดินอย่างยั่งยืน ผ่านนิทรรศการเทิดพระเกียรติ นิทรรศการเครือข่ายพิพิธภัณฑ์เกษตรฯ ภาคีความร่วมมือ งานนี้ถือเป็นครั้งสำคัญที่ผนึกกำลังร่วมทุกหน่วยงานในสังกัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ การน้อมนำศาสตร์พระราชาของในหลวงรัชกาลที่ 9 ในโซนมหกรรม “เกษตรไทยก้าวสู่อนาคต ตามรอยพ่อ ด้วยศาสตร์พระราชา” ที่ถ่ายทอดความยิ่งใหญ่แห่งศาสตร์พระราชา และจัดแสดงผลงานนวัตกรรมและเทคโนโลยีเพื่อการเกษตร และนิทรรศการไฮไลต์ ที่มีชีวิตจากผู้น้อมนำคำพ่อสอน เครือข่ายพิพิธภัณฑ์ฯ นำเอาองค์ความรู้และภูมิปัญญาท้องถิ่นและวิถีชีวิตที่สอดคล้องกับธรรมชาติ เช่น การจัดการดินและน้ำของทั้ง 4 ภูมิภาค การทำเกษตรในพื้นที่สูง การปลูกพืชอนุรักษ์ดิน หญ้าแฝก การจัดการดินหัวไร่ปลายนา การทำป่าร่วมยาง และป่าวนเกษตร ที่สะท้อนเอกลักษณ์ความเป็นไทยในทุกมิติ พร้อมถ่ายทอดองค์ความรู้ผ่านการอบรมวิชาของแผ่นดินและWorkshop กว่า 16 วิชา โดยไม่มีค่าใช้จ่าย ตลอดทั้ง 4 วัน” กิจกรรมพิเศษ วันที่ 5 ธันวาคม เนื่องในวันพ่อแห่งชาติ ในช่วงเช้าเวลา 08.30 น. ขอเชิญร่วมทำบุญตักบาตรข้าวสารอาหารแห้ง พระสงฆ์ จำนวน 69 รูป เพื่อถวายเป็นพระราชกุศลแด่พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร และช่วงเวลา 18.00 น. ร่วมจุดเทียนน้อมรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณ รับชมการแสดงโขนเทิดพระเกียรติ พร้อมรับฟังบทเพลงพระราชนิพนธ์จากเสียงขลุ่ยของอาจารย์ธนิสร์ ศรีกลิ่นดี และคุณขวัญข้าว ธิดารินทร์ นอกจากนี้ตลอดการจัดงานทั้ง 4 วัน ยังเปิดให้เข้าชมพิพิธภัณฑ์ในหลวงรักเรา พิพิธภัณฑ์มหัศจรรย์พันธุกรรม พิพิธภัณฑ์ป่าดงพงไพร และพิพิธภัณฑ์ดินดล โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย พร้อมกิจกรรมเรียนรู้ และชม ช้อป สินค้าคุณภาพจากเกษตรกรเครือข่ายทั่วประเทศกว่า 200 ร้านค้า ขอเชิญชวนประชาชนร่วมสัมผัสพลังของแผ่นดินและน้อมรำลึกพระมหากรุณาธิคุณของในหลวงรัชกาลที่ 9 ในงานมหกรรมในหลวงรักเรา“ภูมิพลังแผ่นดิน” งานที่มุ่งสร้างความตระหนักรู้พระเกียรติคุณและพระอัจฉริยภาพของสถาบันพระมหากษัตริย์ไทยด้านการเกษตร ผู้ทรงวางรากฐานความอุดมสมบูรณ์ของผืนแผ่นดินไทยให้มีความอุดมสมบูรณ์ พร้อมน้อมนำองค์ความรู้ตามแนวพระราชดำริและหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงสู่การประยุกต์ใช้ให้สอดคล้องกับภูมิสังคม ร่วมเรียนรู้และสัมผัสองค์ความรู้ตลอดงานระหว่างวันที่ 4 – 7 ธันวาคม 2568 ณ พิพิธภัณฑ์การเกษตรเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว จังหวัดปทุมธานี สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมโทร. 087-359-7171 094-649-2333 02-529-2212 หรือติดตาม Facebook พิพิธภัณฑ์การเกษตรฯ Website www.wisdomking.or.th
สำนักงานพิพิธภัณฑ์เกษตรเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว (องค์การมหาชน) จังหวัดปทุมธานี น้อมสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณหาที่สุดมิได้ ของสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ด้วยสำนึกในพระเมตตาธรรม พระราชกรณียกิจ และพระราชปณิธานอันแน่วแน่ ในการอนุรักษ์ ฟื้นฟู และสืบสานศิลปวัฒนธรรม ภูมิปัญญาไทย และงานพัฒนาคุณภาพชีวิตของราษฎรทั่วแผ่นดิน พิพิธภัณฑ์การเกษตรเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว สำนึกในพระมหากรุณาธิคุณอันหาที่สุดมิได้ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง พร้อมจัดกิจกรรมในงาน “ตลาดเศรษฐกิจพอเพียง : ข้าว ปลา หยูกยา ผ้าไทย” เพื่อสืบสานพระราชปณิธาน และเผยแพร่ปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง และร่วมสืบสานภูมิปัญญาท้องถิ่นไทยที่สะท้อนวิถีชีวิต อันสมดุลระหว่างคนกับธรรมชาติ ผ่านกิจกรรมการเรียนรู้ อาหาร สุขภาพ สมุนไพร และวัฒนธรรมไทยอย่างครบวงจร โดยภายในงานนำเสนอการแนวทางการพึ่งพาตนเองของชุมชนตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน นิทรรศการ “สำรับไทยสุขภาพกายใจและลายผ้า” และนิทรรศการ “วิถีสายน้ำ ภูมิปัญญาผ้าไทย” ถ่ายทอดคุณค่าของอาหาร สมุนไพร และผ้าไทยซึ่งเป็นมรดกภูมิปัญญาไทย พร้อมกิจกรรมสาธิต และตลาดสินค้าเกษตรจากเครือข่ายทั่วประเทศกว่า 120 ร้าน จัดขึ้นระหว่างวันที่ 1 – 2 พฤศจิกายน 2568 เวลา 08.00 – 17.00 น. ณ พิพิธภัณฑ์การเกษตรเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว อำเภอคลองหลวง จังหวัดปทุมธานี พันจ่าเอกประเสริฐ มาลัย ผู้อำนวยการสำนักงานพิพิธภัณฑ์เกษตรเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว กล่าวด้วยความอาลัยว่า “ในห้วงเวลาที่ปวงชนชาวไทยต่างโศกอาลัยต่อการเสด็จสวรรคตของสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง พิพิธภัณฑ์การเกษตรฯ โดยได้จัดทำนิทรรศการ “พระผู้เสด็จสู่สวรรคาลัย” เพื่อน้อมรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณเป็นล้นพ้นอันหาที่สุดมิได้ และร่วมสืบสานพระราชปณิธานด้วยการเผยแพร่ภูมิปัญญาและวิถีชีวิตแบบไทยที่ทรงส่งเสริมไว้ให้คงอยู่คู่แผ่นดิน” นิทรรศการ “สำรับไทยสุขภาพกายใจและลายผ้า” ซึ่งรวมองค์ความรู้เรื่องอาหารไทยที่เปี่ยมคุณค่าและสรรพคุณสมุนไพรพื้นบ้าน ถ่ายทอดภูมิปัญญาการปรุงสำรับอาหารที่ไม่เพียงอร่อย แต่ยังดีต่อสุขภาพทั้งเมนูอาหารไทยโบราณ อาหารพื้นถิ่น และเมนูสร้างสรรค์ที่ต่อยอดจากภูมิปัญญาเดิม พร้อมกิจกรรมสาธิต “ครัวไทยพอเพียง” ให้ผู้เข้าชมได้เรียนรู้การเลือกวัตถุดิบปลอดภัยจากเกษตรอินทรีย์ เพื่อสร้างสุขภาวะกายใจอย่างยั่งยืน และต่อด้วยนิทรรศการ “วิถีสายน้ำ ภูมิปัญญาผ้าไทย” ถ่ายทอดเรื่องราวของสายน้ำในฐานะแหล่งชีวิตและความมั่นคงของชุมชน ผ่านสององค์ความรู้สำคัญของภูมิปัญญาท้องถิ่นไทย ได้แก่ การแปรรูปปลา และศิลปะผ้าย้อมธรรมชาติ ซึ่งผู้มาเข้าชมงานจะได้เรียนรู้วิถีชีวิตของชุมชนที่พึ่งพิงทรัพยากรธรรมชาติ ทั้งการจับปลา การถนอมอาหาร การสร้างรายได้จากผลิตภัณฑ์ปลา ตลอดจนการย้อมสีผ้าด้วยวัสดุธรรมชาติจากพืชท้องถิ่น ซึ่งผ้าแต่ละผืนสะท้อนอัตลักษณ์ของชุมชนและความคิดสร้างสรรค์ที่ผสานกับธรรมชาติอย่างงดงาม ในด้าน “ภูมิปัญญาผ้าไทย” ถ่ายทอดเรื่องราวของผ้าไทยในฐานะมรดกภูมิปัญญาอันล้ำค่า ผ่านลวดลาย สีสัน และเทคนิคการทอที่แสดงถึงเอกลักษณ์ของแต่ละภูมิภาค พร้อมกิจกรรมสาธิตการย้อมผ้า การสกรีนลายลงผืนผ้า และการประยุกต์ผ้าไทยให้เข้ากับการใช้ชีวิตประจำวันอย่างสร้างสรรค์ นอกจากนี้ ภายในงานยังจัดกิจกรรมเสริมสร้างความรู้และแรงบันดาลใจผ่านการ อบรมวิชาของแผ่นดินและอบรมเชิงปฏิบัติการกว่า 8 หลักสูตร ทั้งในรูปแบบ Onsite และ Online โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย อาทิ หลักสูตร “หยูกยา ภูมิปัญญาแผ่นดิน” โดยอาจารย์วินัย สุวรรณไตร เครือข่ายพิพิธภัณฑ์เกษตรฯ จ.ฉะเชิงเทราหลักสูตร “ข้าวญี่ปุ่นบนถิ่นอีสาน” โดยอาจารย์เสกสรรค์ โพธิสาร จาก “พอดีฟาร์ม” จ.อุดรธานี หลักสูตร “เสน่ห์ดอกไม้กินได้” โดยอาจารย์กันตพัฒน์ โภคินวัฒนาทัศน์ จาก “Banhuailuknok Farm” จ.ราชบุรีและหลักสูตร “สี สร้าง สรรค์” โดยอาจารย์อดิศร จันทร์ใด เครือข่ายพิพิธภัณฑ์เกษตรฯ จ.สกลนคร เป็นต้น ภายในงานยังเปิดให้เข้าชม พิพิธภัณฑ์ในหลวงรักเรา พิพิธภัณฑ์มหัศจรรย์พันธุกรรม และพิพิธภัณฑ์ป่าดงพงไพร โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย ได้แก่ พร้อมชมภาพยนตร์แอนิเมชัน 3 มิติ กิจกรรมเพาะแจกแลกเปลี่ยน ส่งต่อพันธุ์ไม้เพื่อร่วมอนุรักษพันธุกรรมพืชและส่งต่อความอุดมสมบูรณ์ของทรัพยากรไทย และตลาดสินค้าจากเครือข่ายชุมชนกว่า 120 ร้านเพื่อส่งเสริมเศรษฐกิจฐานรากและสร้างรายได้ให้แก่เกษตรกรอย่างยั่งยืน ขอเชิญประชาชนทุกท่านร่วมเรียนรู้ สืบสานภูมิปัญญาไทยตามรอยพระราชดำริ และร่วมน้อมถวายความอาลัยแด่สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ผู้เป็นที่รักยิ่งของปวงชนชาวไทย และร่วมทำจิตอาสา การทำริบบิ้นไว้อาลัย เพื่อมอบให้กับประชาชน และร่วมไว้อาลัยด้วยการสวมเสื้อผ้าชุดสุภาพ และทำกิจกรรมน้อมรำลึก โดยการวางดอกไม้หรือพวงมาลัยสีขาว ที่บริเวณโถงอาคารเฉลิมพระเกียรติฯ 1 นิทรรศการ “พระผู้เสด็จสู่สวรรคาลัย” ได้ในงาน ตลาดเศรษฐกิจพอเพียง “ข้าวปลา หยูกยา ผ้าไทย” ระหว่างวันที่ 1 – 2 พฤศจิกายน 2568 ตั้งแต่เวลา 08.00 – 17.00 น. ณ พิพิธภัณฑ์การเกษตรเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว จังหวัดปทุมธานี สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ โทรศัพท์ 02-529-2212-13, 087-359-7171, 094-649-2333 คลิกดูรายละเอียดได้ที่ www.wisdomking.or.th หรือ Facebook / Instagram /Line ID : @wisdomkingmuseum และ Youtube : พิพิธภัณฑ์การเกษตรเฉลิมพระเกียรติฯ
ตามที่สำนักงานพิพิธภัณฑ์เกษตรเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว (องค์การมหาชน) ได้จัดโครงการประกวดผลงานนวัตกรรมและเทคโนโลยีภาคการเกษตร อุตสาหกรรมเกษตร หรืออุตสาหกรรมที่เกี่ยวข้องกับภาคการเกษตร โดยรับสมัครตั้งแต่วันที่ 25 สิงหาคม 2568 – 25 กันยายน 2568 บัดนี้ คณะกรรมการได้ดำเนินการพิจารณาคุณสมบัติตามหลักเกณฑ์การประกวดในรอบคัดเลือกเรียบร้อยแล้ว จึงขอประกาศรายชื่อผลงานที่ผ่านรอบคัดเลือกการประกวด ผลงานนวัตกรรมและเทคโนโลยีภาคการเกษตร อุตสาหกรรมเกษตร หรืออุตสาหกรรมที่เกี่ยวข้องกับภาคการเกษตร ระดับพื้นฐาน (มัธยมศึกษา-ปวช.) จำนวน 39 ทีม และระดับอุดมศึกษา (ปวส. - อนุปริญญา - ปริญญาตรี) จำนวน 20 ทีม รายละเอียดตามรายชื่อแนบนี้ สำหรับทุกทีมที่ผ่านเข้ารอบ ทางสำนักงานพิพิธภัณฑ์เกษตรเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว (องค์การมหาชน) จะประสาน ในการเข้าร่วมกิจกรรม work shop ต่อไป สอบถามรายละเอียดได้ที่ ฝ่ายจัดการประกวด สำนักพัฒนากิจการ 065-093-6979 หรือ 085-491-8861 ประกาศรายชื่อผู้ผ่านรอบคัดเลือกการประกวด ผลงานนวัตกรรมและเทคโนโลยีภาคการเกษตร อุตสาหกรรมเกษตร หรืออุตสาหกรรมที่เกี่ยวข้องกับภาคการเกษตร ดาวน์โหลด
พิพิธภัณฑ์การเกษตรเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว จ.ปทุมธานี ขอเชิญประชาชนทุกหมู่เหล่าเข้าร่วมงานมหกรรม “ในความทรงจำ” ระหว่างวันที่ 11–13 ตุลาคม 2568 เวลา 08.00–17.00 น. เพื่อน้อมรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณและพระราชจริยวัตรอันงดงามของพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ผู้ทรงเป็น “พ่อแห่งแผ่นดิน” ที่สถิตอยู่ในหัวใจคนไทยตราบนิรันดร์ พันจ่าเอก ประเสริฐ มาลัย ผู้อำนวยการสำนักงานพิพิธภัณฑ์เกษตรเฉลิมพระเกียรติฯ กล่าวว่า “ทุกปีที่เดือนตุลาคมเวียนมา เราคนไทยทุกคนต่างหวนคิดถึงพระมหากรุณาธิคุณอันหาที่สุดมิได้ของพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร งานมหกรรม ‘ในความทรงจำ’ ครั้งนี้ จัดขึ้นด้วยหัวใจที่เปี่ยมด้วยความรักและความภักดี เพื่อน้อมรำลึกถึงคุณงามความดีของพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ที่ทรงเสียสละพระวรกายประกอบพระราชกรณียกิจในถิ่นทุรกันดาร เพื่อหวังให้เกิดความผาสุกแก่ประชาชนที่อาศัยบนพื้นแผ่นดินไทย นอกจากนี้ยังเป็นเวทีในการถ่ายทอดองค์ความรู้ หลักคิด และภูมิปัญญาที่ทุกคนสามารถนำไปปรับใช้ได้จริงในชีวิตประจำวัน เราจึงอยากให้ทุกคนได้มาเรียนรู้ สัมผัส และแบ่งปันเรื่องราวดี ๆ เพื่อเป็นแรงบันดาลใจให้ก้าวเดินต่อไปตามคำสอนของพ่อ พร้อมกับร่วมสืบสานพระราชปณิธาน และขับเคลื่อนสังคมไทยไปสู่ความมั่นคงและยั่งยืนตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง” กิจกรรมสำคัญในงาน คือ กิจกรรมน้อมรำลึกในวันนวมินทรมหาราช วันที่ 13 ตุลาคม 2568 เวลา 08.30 น. ขอเชิญร่วมทำบุญตักบาตรข้าวสารอาหารแห้งแด่พระภิกษุสงฆ์ จำนวน 59 รูป เพื่อถวายเป็นพระราชกุศลพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร และตั้งแต่เวลา 15.30 น. เป็นต้นไป ร่วมใจน้อมรำลึกสงบนิ่งอย่างพร้อมเพรียง เพื่อน้อมสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณอันหาที่สุดมิได้ของพระมหากษัตริย์ผู้เป็นที่รักของประชาชน ในบรรยากาศที่อบอวนไปด้วยเสียงขลุ่ย “แห่งความทรงจำ” และ “บทเพลงแห่งคุณงามความดี” จากศิลปินแห่งชาติ สาขาศิลปะการแสดง (ดนตรีไทยสากล) อาจารย์ธนิสร์ ศรีกลิ่นดี และคุณขวัญข้าว ธิดารินทร์ นิทรรศการเทิดพระเกียรติ “รฦก ร.9 ในความทรงจำ” ที่จะพาผู้เข้าชมย้อนรำลึกผ่านภาพถ่ายและเรื่องราวพระราชกรณียกิจในพื้นที่ห่างไกลทุรกันดาร สะท้อนภาพพระวิริยะอุตสาหะและพระเมตตาของในหลวง รัชกาลที่ 9 ที่ทรงมุ่งหวังให้คนไทยมีชีวิตที่ดีขึ้น โดยพระองค์ทรงเน้นไปที่การพัฒนาทรัพยากรน้ำ ทรัพยากรดิน และทรัพยากรป่าไม้ ซึ่งถือเป็นรากฐานของการพัฒนาการเกษตรและคุณภาพชีวิตของประชาชน นอกจากนี้ยังมี นิทรรศการเครือข่ายพิพิธภัณฑ์เกษตรฯ “ผู้น้อมนำ คำพ่อสอน” ถ่ายทอดเรื่องราวของบุคคลและชุมชนที่น้อมนำหลักทรงงานและปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงไปปฏิบัติจริงจนเกิดผลสำเร็จที่เราสามารถจับต้องได้ สะท้อนและสร้างแรงบันดาลใจให้ประชาชนเห็นถึงพลังของการลงมือทำและการต่อยอดองค์ความรู้สู่การพัฒนาชีวิตอย่างยั่งยืนจาก 8 ฐานการเรียนรู้ อาทิ ฐานการเรียนรู้ “ปลูกป่าในใจคน สร้างคนปลูกป่า” ฐานการเรียนรู้ “ขาดทุนคือกำไร” ฐานการเรียนรู้ “น้ำคือชีวิต รู้คิด รู้ใช้” เป็นต้น และนิทรรศการพิเศษ “ในความทรงจำ” จากหน่วยงานในสังกัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์และหน่วยงานภาคีความร่วมมือ กว่า 12 หน่วยงาน ที่ผนึกกำลังมาร่วมกันถ่ายทอดองค์ความรู้ให้กับประชาชนที่มาร่วมงาน เรียนรู้หลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง ด้านการเกษตร กับวิทยากรมากประสบการณ์และเกษตรกรตัวจริงเสียงจริง ที่นำองค์ความรู้มาถ่ายทอดให้ผู้ที่เข้าร่วมวิชาของแผ่นดินและ Workshop ได้เรียนรู้เพื่อนำไปปรับใช้กับการดำเนินชีวิตกว่า 12 หลักสูตร โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย ซึ่งสามารถเรียนรู้ได้ทั้ง Onsite และ Online ทาง Youtube พิพิธภัณฑ์การเกษตรเฉลิมพระเกียรติฯ อาทิ หลักสูตร “เกษตรพอเพียง สไตล์ลุงแสบ” หลักสูตร “ปลูกผัก ปลูกสุข ปลูกความทรงจำ” หลักสูตร “มหัศจรรย์พืชพื้นถิ่น “มะปี๊ดเมืองจันท์” หลักสูตร “จากโกโก้สู่ช็อกโกแลต” หลักสูตร “น้ำหมักชีวภาพจากหญ้าเนเปียร์” หลักสูตร “สบู่ทำมือ จากธรรมชาติ” เป็นต้น และอีกหนึ่งสีสันของงานคือ ตลาดเศรษฐกิจพอเพียง ที่รวมสินค้าเกษตรจากเครือข่ายพิพิธภัณฑ์ฯ และเกษตรกรภาคีความร่วมมือทั่วประเทศกว่า 200 ร้านค้า ไม่ว่าจะเป็นผัก ผลไม้ปลอดภัย ผลิตภัณฑ์แปรรูปคุณภาพ พันธุ์ไม้ดอก ไม้ผล ไปจนถึงอาหารพื้นบ้านรสชาติอร่อย ให้ผู้เข้าร่วมงานได้ชม ช๊อป อย่างมีความสุขในราคาย่อมเยา และพิเศษกับกิจกรรม “ขาดทุน คือ กำไร” จำหน่ายสินค้าคุณภาพในราคาต่ำกว่าทุนเพื่อส่งต่อกำไรที่เรียกว่า “ความสุข” ให้กับสังคม เข้าชมฟรี พิพิธภัณฑ์ในหลวงรักเรา พิพิธภัณฑ์มหัศจรรย์พันธุกรรม พิพิธภัณฑ์ป่าดงพงไพร และพิพิธภัณฑ์ดินดล และพลาดไม่ได้กับกิจกรรมหล่อเหรียญที่ระลึกพระบรมรูป โดยกลุ่มศิลปิน “ให้เบ็ดดีกว่าให้ปลา” ตลอดทั้ง 3 วัน พันจ่าเอก ประเสริฐ มาลัย กล่าวเชิญชวนว่า “ขอเชิญทุกท่านมาร่วมน้อมรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณในหลวงรัชกาลที่ 9 ผ่านเรื่องราวและคำสอนที่สร้างแรงบันดาลใจให้คนไทยทุกคนได้นำไปปรับใช้ในชีวิต พร้อมสืบสานพระราชปณิธานและต่อยอดสู่การพัฒนาที่ยั่งยืนในงานมหกรรม “ในความทรงจำ” ระหว่างวันที่ 11–13 ตุลาคม 2568 เวลา 08.00–17.00 น. ณ พิพิธภัณฑ์การเกษตรเฉลิมพระเกียรติฯ จ.ปทุมธานี” สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม โทรศัพท์ 02-529-2212-13, 087-359-7171, 094-649-2333 คลิกดูรายละเอียดได้ที่หรือ facebook / Instagram /Line ID : @wisdomkingmuseum และ Youtube : พิพิธภัณฑ์การเกษตรเฉลิมพระเกียรติฯ
โอกาสทองของเกษตรกรมือใหม่ เปิดรับสมัครผู้ที่สนใจเข้าร่วมโครงการ เกษตรทฤษฎีใหม่ประยุกต์ 1 ไร่ มั่งคั่ง ยั่งยืน รุ่นที่ 16 ค้นหาเกษตรกรมือใหม่ เรียนรู้อยู่แปลง ตามรอยศาสตร์พระราชา ด้วยเกษตรทฤษฎีใหม่แบบเข้มข้นตลอดระยะเวลา 4 เดือน โดยไม่มีค่าใช้จ่าย ครบเครื่องเรื่องการเกษตร ตั้งแต่ทฤษฎีสู่การลงมือปฏิบัติบนพื้นที่จริง สถานการณ์จริง ผ่านกระบวนการสอนอย่างเข้มข้นจากวิทยากรต้นแบบผู้มากประสบการณ์ อาทิ อาจารย์เฉลิม พีรี อาจารย์สุพจน์ ศรีไสยเพชร เรียนรู้หลากหลายวิชา อาทิ การทำนา การผลิตอาหารสัตว์ต้นทุนต่ำ เรียนรู้จุลินทรีย์ทั้ง 4 ชนิด การเพาะพันธุ์เห็ดหลากหลายรูปแบบ การขยายพันธุ์พืช เรียนรู้เรื่องสมุนไพรและผักพื้นบ้าน สมาร์ทฟาร์มเมอร์และพลังงานทดแทน การแปรรูปและการตลาด และอีกหลายหลายวิชาครบเครื่องเรื่องการทำการเกษตรกว่า 19 วิชา ที่จะสามารถนำไปปรับใช้ในภูมิสังคมได้อย่างเหมาะสม เปิดรับสมัคร : วันนี้ - 30 กันยายน 2568 สัมภาษณ์ : ช่วงเดือนตุลาคม 2568** ประกาศผล : ช่วงเดือนตุลาคม 2568** ระยะเวลาเรียนรู้ : ตุลาคม 2568 - กุมภาพันธ์ 2569** **(เวลาอาจมีการเปลี่ยนแปลงตามความเหมาะสม) สมัครออนไลน์ได้ทาง https://forms.gle/aoUHMmbCcQATsTx19 หรือสมัครด้วยตนเอง ภายในงานตลาดเศรษฐกิจพอเพียง หรือในงานอบรมหลักสูตรต่างๆ ของ พกฉ. สอบถามเพิ่มเติม : 090-3139809 , 085-4918861
ประกาศ หลักเกณฑ์โครงการประกวดผลงานนวัตกรรมและเทคโนโลยีภาคการเกษตรอุตสาหกรรมเกษตร หรืออุตสาหกรรมที่เกี่ยวข้องกับภาคการเกษตรสำนักงานพิพิธภัณฑ์เกษตรเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว (องค์การมหาชน) ************************************************************************************ การพัฒนานวัตกรรมเกษตรและเทคโนโลยีภาคการเกษตร คือองค์ประกอบสำคัญในการพัฒนาอุตสาหกรรมการเกษตรและห่วงโซ่อุปทาน โดยการบูรณาการวิถีเกษตรเข้ากับความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีทำให้การเกษตรสามารถขยายตัวได้กว้างขึ้น ดังนั้นการพัฒนานวัตกรรมใหม่ๆ จะส่งผลกระทบไปยังเกษตรกรและประชากรทุกคน เพราะการใช้นวัตกรรมเกษตรเป็นปัจจัยในการเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน และส่งผลกระทบต่ออุตสาหกรรมการเกษตรอย่างมาก การพัฒนานวัตกรรมทางการเกษตรจึงเป็นหนึ่งในกลไกของการพัฒนาเศรษฐกิจ และเป็นเครื่องมือสำคัญที่จะช่วยยกระดับคุณภาพชีวิตของเกษตรกร ตามแนวพระราชดำริและศาสตร์พระราชา ที่จะส่งผลให้การทำเกษตรกรรมเกิดการเปลี่ยนแปลง และกลายเป็นอุตสาหกรรมที่ยั่งยืน ดังนั้นการพัฒนานวัตกรรมและเทคโนโลยีทางด้านการเกษตร มาประยุกต์ใช้เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ และสร้างมูลค่าในการผลิต สามารถตอบสนองยุทธศาสตร์ชาติในการพัฒนาเศรษฐกิจอย่างเข้มแข็ง ตลอดจนเสริมสร้างศักยภาพและโอกาสในการพัฒนา ขยายผล และสามารถต่อยอดในเชิงธุรกิจและการแข่งขันได้ในระดับสากล สำนักงานพิพิธภัณฑ์เกษตรเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว (องค์การมหาชน) ร่วมกับสำนักงานพัฒนาการวิจัยการเกษตร (องค์การมหาชน) กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ จึงได้กำหนดจัดทำโครงการประกวดผลงานนวัตกรรม และเทคโนโลยีภาคการเกษตร อุตสาหกรรมเกษตร หรืออุตสาหกรรมที่เกี่ยวข้องกับภาคการเกษตร เพื่อเป็นช่องทางในการคิดสร้างสรรค์นำเสนอนวัตกรรมทางภาคการเกษตรและที่เกี่ยวข้อง จากกลุ่มคนรุ่นใหม่ ทั้งในด้านการใช้ความรู้ ความคิด และความสามารถ ผสานภูมิปัญญาท้องถิ่น และหลักวิชาการในการคิดสร้างสรรค์ ซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นของการพัฒนาความสามารถของคนสู่การพัฒนาสังคมในด้านอื่นๆ สามารถสร้างสรรค์ผลงานนวัตกรรมทางการเกษตรที่ทันสมัย เพื่อพัฒนาการเกษตรให้มีประสิทธิภาพ เกิดประโยชน์ทางเศรษฐกิจ สังคม และประเทศชาติ อีกทั้งยังส่งเสริมและกระตุ้นความสนใจให้นักเรียน นิสิต นักศึกษา มีความสนใจในการคิด สร้างสรรค์ และพัฒนาผลงานนวัตกรรมทางการเกษตรซึ่งมีส่วนสำคัญในการจุดประกายและส่งเสริมให้เกิดการพัฒนาด้านการเกษตรของประเทศให้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น ก่อให้เกิดภาพลักษณ์ที่ดีแก่องค์กรต่อไป ในการนี้ สำนักงานพิพิธภัณฑ์เกษตรเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว (องค์การมหาชน) จึงประกาศหลักเกณฑ์โครงการประกวดผลงานนวัตกรรมและเทคโนโลยีภาคการเกษตรอุตสาหกรรมเกษตร หรืออุตสาหกรรมที่เกี่ยวข้องกับภาคการเกษตร ดังนี้ 1.คุณสมบัติ 1.1 ผู้เข้าร่วมการประกวดจะต้องเป็นนักเรียนมัธยม ปวช. ปวส. นิสิต นักศึกษา (มีสถานภาพกำลังศึกษาอยู่ในสถานศึกษา และสถาบันการศึกษาทั้งของภาครัฐและเอกชน) 1.2 ผู้เข้าร่วมการประกวดต้องส่งผลงานสมัครเข้าประกวดในลักษณะทีม ทีมละไม่น้อยกว่า 3 คน และไม่เกิน 5 คน พร้อมอาจารย์ที่ปรึกษาจำนวน 1 คน โดยผู้เข้าร่วมทีมแต่ละคนสามารถเข้าร่วมได้ 1 ทีมเท่านั้น 1.3 ผู้เข้าร่วมการประกวดสามารถส่งผลงานได้จำนวน 1 ผลงาน ต่อ 1 ทีม 2.หลักฐานการรับสมัคร 2.1 ใบสมัครที่กรอกข้อมูลครบถ้วน สามารถดาวน์โหลดได้ทาง www.wisdomking.or.th 2.2 หลักฐานแสดงการเป็นนักเรียนมัธยม ปวช. นิสิต นักศึกษา ผู้กำลังศึกษาอยู่ในสถาบันการคึกษาทั้งของรัฐและเอกชน ได้แก่ บัตรประจำตัวนักเรียน นิสิต นักศึกษา หรือหลักฐานอื่นที่แสดงสถานะ 2.3 สำเนาบัตรประชาชน 3.หลักเกณฑ์การประกวด 3.1 ผู้เข้าประกวดจัดส่งเอกสารแบบฟอร์มการสมัคร พร้อมแนวความคิด Concept และรายละเอียดข้อเสนอการจัดทำนวัตกรรม ภายใต้หัวข้อ “นวัตกรรมเกษตร: เพิ่มประสิทธิภาพและมูลค่าการผลิตเกษตรไทยยั่งยืน” ไฟล์เอกสารใบสมัคร/โครงการประกวด ตัวอักษร TH Sarabun Psk ขนาด 16 pt จำนวนรวม ไม่เกิน 2 หน้ากระดาษ A4 3.2 ต้องเป็นผลงานใหม่ และต้องไม่คัดลอกเลียนแบบที่ใดมาก่อน หรือหากเป็นโครงการเดิมที่นำมาต่อยอด พัฒนา จะต้องได้รับการยืนยันจากสถาบันหน่วยงานหรือผู้เกี่ยวข้องเป็นลายลักษณ์อักษรอย่างชัดเจนเพื่อยื่นเสนอแก่คณะกรรมการพิจารณา 3.3 คณะกรรมการพิจารณาคัดเลือกทีมผู้ที่ผ่านเข้ารอบจาก Concept และรายละเอียดข้อเสนอการจัดทำนวัตกรรม 3.4 ผลงานนวัตกรรมเกษตรที่ผ่านการคัดเลือกในรอบแรก ผู้ส่งผลงานจะต้องจัดส่งรายละเอียดตามแบบฟอร์ม คลิป หรือวิดีทัศน์การนำเสนอผลงาน และการสาธิตขั้นตอน วิธีการของนวัตกรรมดังกล่าวให้แก่คณะกรรมการหรือที่คณะกรรมการกำหนด ความยาวไม่เกิน 5 นาที เพื่อพิจารณาผลงานที่ได้รับรางวัล 3.5 คลิปนำเสนอผลงาน เครดิตท้ายผลงาน (End Credit) ต้องมีโลโก้หน่วยงานผู้สนับสนุนตามที่สำนักงานพิพิธภัณฑ์เกษตรเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว (องค์การมหาชน) หรือ พกฉ. กำหนด 3.6 ผลงานนวัตกรรมที่ส่งเข้าประกวด ผู้ส่งเข้าประกวดต้องเป็นผู้เตรียมอุปกรณ์ดำเนินการผลิต หรือประสานส่วนที่เกี่ยวข้องเองทั้งหมด 3.7 ผู้ส่งผลงานเข้าประกวดต้องเป็นผู้รับผิดชอบต่อลิขสิทธิ์ของข้อมูล ได้แก่ ข้อมูลเนื้อหา ภาพ เสียง คลิปวิดีโอ ซอฟต์แวร์ อุปกรณ์ที่เกี่ยวข้อง หรือข้อมูลอื่นใดที่ใช้ในการดำเนินการผลิตผลงาน โดยต้องไม่เป็นการละเมิดกฎหมายว่าด้วยลิขสิทธิ์และทรัพย์สินทางปัญญา และมีการอ้างอิงแหล่งที่มาอย่างชัดเจน รวมทั้งต้องไม่ขัดต่อพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ.2562 (Personal Data Protection Act: PDPA) หากภายหลังพบว่ามีการละเมิดเกี่ยวกับลิขสิทธิ์ และละเมิดข้อมูลส่วนบุคคล แอบอ้าง ผู้ส่งผลงานเข้าประกวด จะต้องเป็นผู้รับผิดชอบในความเสียหายที่เกิดขึ้น 3.8 หากพบว่ามีการร้องเรียน หรือพิสูจน์ได้ภายหลังว่าผลงานนวัตกรรมที่ส่งเข้าประกวดมิใช่ของผู้ส่งผลงาน หรือมีการละเมิดลิขสิทธิ์ ผู้จัดการประกวดมีสิทธิ์ในการเรียกคืนรางวัลหรือตัดสิทธิ์การรับรางวัล ทั้งนี้ ผู้จัดการประกวดจะไม่รับผิดชอบต่อความเสียหายที่เกิดขึ้นไม่ว่ากรณีใด ๆ ต่อการละเมิดลิขสิทธิ์นั้น 3.9 คลิปผลงานที่ผ่านการคัดเลือก จะเปิดให้ประชาชนทั่วไปร่วมโหวตรางวัลนวัตกรรมการเกษตรขวัญใจมหาชน (POPULAR VOTE) โดยนับคะแนนจากยอดผู้เข้าชมสูงสุด (VIEW) คะแนนโหวตจะไม่นำมารวมกับคะแนนในการตัดสินผลงาน ทั้ง 9 รางวัล 3.10 คณะกรรมการจะพิจารณาคัดเลือกผลงานนวัตกรรมจาก 2 ระดับการศึกษา ระดับละ 9 ผลงาน โดยผู้ส่งผลงานที่ได้รับการคัดเลือกตกลงให้สิทธิแก่สำนักงานพิพิธภัณฑ์เกษตรเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว (องค์การมหาชน) หรือ พกฉ. ในการนำผลงานดังกล่าวไปเผยแพร่ประชาสัมพันธ์ เพื่อประโยชน์ต่อสาธารณะ ตามที่ พกฉ. เห็นสมควร โดยไม่ต้องเสียค่าตอบแทน และไม่จำเป็นต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า 3.11 ข้อมูลส่วนบุคคลที่ผู้เข้าร่วมโครงการฯ ส่งมาเพื่อใช้ในการแข่งขันจะถือว่าผู้เข้าร่วมโครงการฯ ได้ยินยอมในการให้ใช้ข้อมูลได้โดยไม่ละเมิดพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ.2562 3.12 การตัดสินของคณะกรรมการถือว่าเป็นการสิ้นสุด 4.หลักเกณฑ์การพิจารณาผลงานที่ส่งเข้าประกวดในประเด็นต่อไปนี้ 4.1 พัฒนาการผลิตและประยุกต์ใช้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและสร้างมูลค่าในการผลิต 4.2 ตอบสนองยุทธศาสตร์ชาติในการพัฒนาเศรษฐกิจอย่างเข้มแข็ง 4.3 ตอบสนองยุทธศาสตร์ชาติในการพัฒนาอย่างยั่งยืนและรักษาสภาพแวดล้อม 4.4 ยกระดับคุณภาพชีวิตของเกษตรกร ตามแนวพระราชดำริและศาสตร์พระราชา 4.5 ต่อยอดพัฒนาด้วยการวิจัยและนวัตกรรม สามารถต่อยอดในเชิงธุรกิจและสามารถแข่งขันได้ในระดับสากล 5.รางวัลการประกวด แบ่งเป็น 2 ระดับ 5.1 ระดับพื้นฐาน (มัธยมศึกษา-ปวช.) • ชนะเลิศ ถ้วยรางวัล พร้อมเงินรางวัล 80,000 บาท • รองชนะเลิศอันดับ 1 โล่รางวัล พร้อมเงินรางวัล 40,000 บาท • รองชนะเลิศอันดับ 2 โล่รางวัล พร้อมเงินรางวัล 20,000 บาท • รางวัลชมเชย 6 รางวัล เกียรติบัตร พร้อมเงินรางวัล 10,000 บาท • รางวัลนวัตกรรมเกษตรขวัญใจมหาชน (POPULAR VOTE) โล่รางวัล พร้อมเงินรางวัล 10,000 บาท 5.2 ระดับอุดมศึกษา (ปวส. - อนุปริญญา - ปริญญาตรี) • ชนะเลิศ ถ้วยรางวัล พร้อมเงินรางวัล 100,000 บาท • รองชนะเลิศอันดับ 1 โล่รางวัล พร้อมเงินรางวัล 50,000 บาท • รองชนะเลิศอันดับ 2 โล่รางวัล พร้อมเงินรางวัล 30,000 บาท • รางวัลชมเชย 6 รางวัล เกียรติบัตร พร้อมเงินรางวัล 20,000 บาท • รางวัลนวัตกรรมเกษตรขวัญใจมหาชน (POPULAR VOTE) โล่รางวัล พร้อมเงินรางวัล 20,000 บาท 5.3 ผลงานที่ได้รับการคัดเลือก มีโอกาสในการได้รับทุนวิจัยเพื่อพัฒนาต้นแบบ หรือการต่อยอดในเชิงพาณิชย์ สำหรับผลงานที่ผ่านเกณฑ์การพิจารณาให้ทุนวิจัยของ สวก. ในวงเงินมูลค่ารวม 20,000,000 บาท (ยี่สิบล้านบาท) 6.กำหนดการประกวด 6.1 เปิดรับสมัคร และจัดส่งหลักฐานการสมัคร พร้อมแนวความคิด Concept และรายละเอียดข้อเสนอการจัดทำนวัตกรรม ภายใต้หัวข้อ “นวัตกรรมเกษตร : เพิ่มประสิทธิภาพและมูลค่าการผลิต เกษตรไทยยั่งยืน” ตั้งแต่วันที่ 25 สิงหาคม – 25 กันยายน 2568 สามารถดาวน์โหลดเอกสารหลักฐานการสมัครและส่งผลงาน ได้ที่ https://forms.gle/Lh6HM3pF6VgQos3W8 6.2 ประกาศผลการคัดเลือกผลงานที่เข้ารอบ ภายในวันที่ 10 ตุลาคม 2568 ผ่านทาง www.wisdomking.or.th 6.3 ทีมที่ผ่านเข้ารอบจัดส่งข้อมูลรายละเอียด คลิป หรือวีดิทัศน์การนำเสนอผลงานและสาธิต การดำเนินงาน วิธีการของนวัตกรรมดังกล่าว ให้แก่คณะกรรมการหรือที่คณะกรรมการกำหนดความยาวไม่เกิน 5 นาที เพื่อพิจารณาผลงานที่ได้รับรางวัล ภายในวันที่ 15 พฤศจิกายน 2568 ผ่านทาง https://forms.gle/9oxE9vMsDgKH7jsd6 6.4 เปิดให้ประชาชนทั่วไป ร่วมโหวตรางวัลผลงานนวัตกรรมขวัญใจมหาชน (POPULAR VOTE) ตั้งแต่วันที่ 20-30 พฤศจิกายน 2568 (ปิดรับการโหวต เวลา 24.00 น.) ผ่านทาง www.youtube.com/@wisdomkingmuseum 6.5 ทีมที่ผ่านเข้ารอบนำเสนอผลงาน ทีมละ 2 นาที ในวันที่ 6 ธันวาคม 2568 พร้อมประกาศผลการตัดสินและมอบรางวัล ณ สำนักงานพิพิธภัณฑ์เกษตรเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว (องค์การมหาชน) 6.6 ติดต่อสอบถามรายละเอียดการประกวดเพิ่มเติมได้ที่ ฝ่ายจัดการประกวดสำนักพัฒนากิจการ สำนักงานพิพิธภัณฑ์เกษตรเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว (องค์การมหาชน) โทรศัพท์ 0-2529-2212-3 หรือ 0-650-936-979 โทรสาร 0-2529-2214 หรือ E-mail: Chonniphat.j@wisdomking.or.th ใบสมัครโครงการประกวดนวัตกรรมและเทคโนโลยีภาคการเกษตรฯ ภายใต้หัวข้อ “นวัตกรรมเกษตร: เพิ่มประสิทธิภาพและมูลค่าการผลิต เกษตรไทยยั่งยืน” ดาวน์โหลด แบบฟอร์ม ข้อเสนอรายละเอียดโครงการประกวดนวัตกรรมและเทคโนโลยีภาคการเกษตรฯ ภายใต้หัวข้อ “นวัตกรรมเกษตร: เพิ่มประสิทธิภาพและมูลค่าการผลิต เกษตรไทยยั่งยืน” ดาวน์โหลด
สำนักงานพิพิธภัณฑ์เกษตรเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว (องค์การมหาชน) ร่วมกับกระทรวงวัฒนธรรม และกระทรวงอุดมศึกษา และกระทรวงอุดมศึกษา วิจัย และนวัตกรรม จัดโครงการ Young Agri Future ประกวดสื่อสร้างสรรค์ในรูปแบบภาพยนตร์สั้น ภายใต้หัวข้อ “ตามรอยพระยุคลบาทด้านการเกษตร ของในหลวงรัชกาลที่ 9” โดยเปิดรับผลงานตั้งแต่ 1 กรกฎาคม 2568 – 20 สิงหาคม 2568 บัดนี้คณะกรรมการตัดสินโครงการฯ ได้พิจารณาคัดเลือกผลงาน เป็นที่เรียบร้อยแล้ว ดังรายชื่อต่อไปนี้ ดาวน์โหลดรายละเอียดคลิก ผู้ผ่านการคัดเลือก รอบตัวอย่างภาพยนตร์สั้น (Teaser) ลำดับ ชื่อผลงาน ทีม สถาบัน 1 ผักกาด เด็กวัด (Phak Kat Temple Boy) Autistic four สถาบันการจัดการปัญญาภิวัฒน์ 2 ในสวนของพ่อ “From His Soul” The Company มหาวิทยาลัยวงษ์ชวลิตกุล 3 ปลูกรัก ปลูกใจ ปลูกรัก ปลูกใจ มหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์ 4 ทวนน้ำ โคตรวิ่ง Production สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง 5 ต้นกล้า 99Talkes@KRU มหาวิทยาลัยราชภัฏกาญจนบุรี 6 อาหารของฉัน ของขวัญจากพ่อ Five Film Full Frame มหาวิทยาลัยเกษมบัณฑิต 7 Father’s Land : แลก นาขวัญ Women Wave : คลื่นหญิง มหาวิทยาลัยเกษมบัณฑิต 8 รอยยิ้มจากฟากฟ้า Women Power : พลังหญิง มหาวิทยาลัยเกษมบัณฑิต 9 ความสุขของอีฮวก Panda Studios มหาวิทยาลัยราชภัฎอุบลราชธานี 10 ไม่มาก แต่สุข YoLo สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง 11 รักวุ่นๆของพอใจและนายพอเลย DC All Star สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง 12 พ่อสอนไว้ CAMI-MCRU มหาวิทยาลัยราชภัฎหมู่บ้านจอมบึง 13 รวย เด็กดอยใจดี มหาวิทยาลัยแม่โจ้ 14 รสชาติของบ้านสวน Power of CDE มหาวิทยาลัยกรุงเทพ 15 Last Hope Mini Aod Production มหาวิทยาลัยกรุงเทพ 16 การเกษตร ของคนรุ่นใหม่ จิรายุ คงลำพูน มหาวิทยาลัยราชภัฎเพชรบูรณ์
สำนักงานพิพิธภัณฑ์เกษตรเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว (องค์การมหาชน) หรือ พกฉ. จัดโครงการศึกษาดูงานประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2568 ระหว่างวันที่ 16 – 18 สิงหาคม 2568 ณ จังหวัดจันทบุรีและจังหวัดระยอง เพื่อพัฒนาศักยภาพบุคลากรด้านการน้อมนำหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง การบริหารจัดการพิพิธภัณฑ์ และการทำงานในมิติอื่น ๆ ที่สอดคล้องกับภารกิจองค์กร อันเป็นแนวทางปฏิบัติงานที่สามารถนำไปประยุกต์ใช้ในการดำเนินงานจริงได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยมี นางสาวสำเภาว์ งามเชย รองผู้อำนวยการสำนักงานพิพิธภัณฑ์เกษตรเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว นำคณะเจ้าหน้าที่ พกฉ. เข้าร่วมศึกษาดูงานที่จังหวัดจันทบุรีและจังหวัดระยอง ได้แก่ 1.ศูนย์ศึกษาการพัฒนาอ่าวคุ้งกระเบน เพื่อเรียนรู้การพัฒนาและอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติอย่างยั่งยืน 2.พิพิธภัณฑ์อัญมณีและเครื่องประดับ ศึกษาการบริหารจัดการและการจัดแสดงนิทรรศการ 3.ศูนย์เครือข่ายพิพิธภัณฑ์เกษตรเฉลิมพระเกียรติฯ วิสาหกิจชุมชนบ้านวันยาว เรียนรู้การบริหารจัดการวิสาหกิจชุมชน 4.สวนพฤกษศาสตร์ระยอง ศึกษาการอนุรักษ์พันธุกรรมพืชและการใช้ประโยชน์อย่างเหมาะสม 5.ศูนย์การเรียนรู้วิถีประมงชุมชนเนินฆ้อ ชมวิถีประมงพื้นบ้านและการอนุรักษ์ทรัพยากรทางทะเล การศึกษาดูงานในครั้งนี้ นอกจากจะเป็นการเสริมสร้างความรู้ ความเข้าใจด้านการบริหารจัดการแหล่งเรียนรู้และวิสาหกิจชุมชนแล้ว ยังเป็นเวทีแลกเปลี่ยนประสบการณ์ระหว่างบุคลากร พกฉ. และชุมชนต้นแบบ ซึ่งจะช่วยสร้างแรงบันดาลใจและแนวทางใหม่ ๆ ในการพัฒนาองค์ความรู้ รวมถึงการปฏิบัติภารกิจของสำนักงานพิพิธภัณฑ์เกษตรฯ ให้มีประสิทธิภาพและเกิดประโยชน์ต่อสังคมอย่างยั่งยืน
สำนักงานพิพิธภัณฑ์เกษตรเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว (องค์การมหาชน) หรือ พกฉ. จัดประชุมคณะกรรมการดำเนินงานโครงการอนุรักษ์พันธุกรรมพืชอันเนื่องมาจากพระราชดำริ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี สำนักงานพิพิธภัณฑ์เกษตรเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว (อพ.สธ.-พกฉ.) โดยมีพลอากาศเอก เสนาะ พรรณพิกุล ผู้อำนวยการสำนักงานพิพิธภัณฑ์เกษตรเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เป็นประธานการประชุม พร้อมด้วย นายพรชัย จุฑามาศ รองผู้อำนวยการโครงการอนุรักษ์พันธุกรรมพืช อันเนื่องมาจากพระราชดำริฯ ดร.ปิยรัษฏ์ ปริญญาพงษ์ เจริญทรัพย์ เลขานุการคณะกรรมการ โครงการอนุรักษ์พันธุกรรมพืช อันเนื่องมาจากพระราชดำริฯ เข้าร่วมการประชุมในครั้งนี้ จัดขึ้นในวันพฤหัสบดีที่ 12 กันยายน 2567 เวลา 09.30 น. ณ ห้องประชุมตามรอยพ่อ ชั้น 3 อาคารสำนักงานพิพิธภัณฑ์เกษตรฯ อำเภอคลองหลวง จังหวัดปทุมธานี โดยมีรายละเอียดการประชุม ดังนี้ ระเบียบวาระที่ 1 เรื่องประธานแจ้งให้ที่ประชุมทราบ ระเบียบวาระที่ 2 เรื่องที่เสนอให้ที่ประชุมเพื่อทราบ 2.1 คำสั่งคณะกรรมการดำเนินงาน และคณะทำงานโครงการอนุรักษ์พันธุกรรมพืชอันเนื่องมาจากพระราชดำริฯ 2.2 รายงานผลการดำเนินงานโครงการอนุรักษ์พันธุกรรมพืชอันเนื่องมาจากพระราชดำริฯ ประจำปีงบประมาณ 2567 ระเบียบวาระที่ 3 เรื่องที่เสนอให้ที่ประชุมพิจารณา 3.1 แนวทางการดำเนินงาน อพ.สธ. ตามแผนแม่บท อพ.สธ. ระยะ 5 ปี ปีที่เจ็ด นำเสนอโดย นายพรชัย จุฑามาศ รองผู้อำนวยการโครงการอนุรักษ์พันธุพืช อันเนื่องมาจากพระราชดำริฯ 3.2 กรอบการดำเนินงาน โครงการอนุรักษ์พันธุกรรมพืชอันเนื่องมาจากพระราชดำริฯ ปีงบประมาณ 2568 3.3 ทบทวนแผนการดำเนินงานโครงการอนุรักษ์พันธุกรรมพืชอันเนื่องมาจากพระราชดำริฯ ปีงบประมาณ 2568 3.4 แผนการดำเนนงานโครงการอนุรักษ์พันธุกรรมพืชอันเนื่องมาจากพระราชดำริฯ ปีงบประมาณ 2569 ระเบียบวาระที่ 4 เรื่องอื่นๆ
สำนักงานพิพิธภัณฑ์เกษตรเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว (องค์การมหาชน) ดำเนินการจัดกิจกรรมค่ายการเรียนรู้การอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติให้กับครู และนักเรียนโรงเรียนในเขตพื้นที่เครือข่ายพิพิธภัณฑ์เกษตรฯ จังหวัดสกลนคร ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งภายใต้โครงการอนุรักษ์พันธุกรรมพืชอันเนื่องมาจากพระราชดำริฯ (อพ.สธ.-พกฉ.) เพื่อสร้างความตระหนักถึงคุณค่าของพันธุกรรมพืชท้องถิ่นให้กับเยาวชนในพื้นที่ จัดขึ้นระหว่างวันที่ 25 - 27 สิงหาคม 2566 ณ ศูนย์การเรียนรู้พิพิธภัณฑ์เกษตรฯ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน “เครือข่ายอินแปง” จ.สกลนคร สำหรับกิจกรรมค่ายการเรียนรู้การอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติ ภายใต้โครงการอนุรักษ์พันธุกรรมพืชอันเนื่องมาจากพระราชดำริ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี สำนักงานพิพิธภัณฑ์เกษตรเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว (อพ.สธ.-พกฉ.) มีวัตถุประสงค์ เพื่อสนองพระราชดำริโครงการอนุรักษ์พันธุกรรมพืชอันเนื่องมาจากพระราชดำริฯ เผยแพร่องค์ความรู้เกี่ยวกับพันธุกรรมพืช พันธุกรรมสัตว์ ที่ควรค่าแก่การอนุรักษ์ รวมถึงสร้างจิตสำนึกให้แก่เด็ก เยาวชนและประชาชนทั่วไป ให้เกิดความตระหนัก เห็นคุณค่าและประโยชน์ของการอนุรักษ์ทรัพยากรทั้งพืชและสัตว์ ซึ่งมีเครือข่ายพิพิธภัณฑ์เกษตรฯ ร่วมเป็นวิทยากรแลกเปลี่ยนองค์ความรู้ ประสบการณ์ในเรื่องราวของของทรัพยากรธรรมชาติในพื้นที่ผ่านแนวคิด "พาเรียนรู้ พาเฮ็ด พาทำพานำไปขาย" โดยแบ่งฐานการเรียนรู้ออกเป็น 4 กิจกรรม อาทิ กิจกรรมพันธุกรรมพื้นถิ่นลุ่มน้ำพระเพลิง กิจกรรมพันธุกรรมพืชหลังนาฟ้าเมืองเลย กิจกรรมหวายเงินล้านสวนบูมสมใจภูไทหนองสูง และกิจกรรมหมอ 2 ใบ สมุนไพรใกล้ตัว โดยกิจกรรมในครั้งนี้มุ่งหวังให้เยาวชนผู้เข้าร่วมกิจกรรมเกิดความรู้ควบคู่กับการอนุรักษ์ พร้อมตระหนักถึงคุณค่าประโยชน์ของการอนุรักษ์ทรัพยากร และเกิดจิตสำนึกและหวงแหนในทรัพยากรธรรมชาติโดยเริ่มจากพื้นที่ของตน ก่อประโยชน์ต่อประเทศชาติต่อไป
สำนักงานพิพิธภัณฑ์เกษตรเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว จัดประชุมคณะกรรมการดำเนินงานโครงการอนุรักษ์พันธุกรรมพืชอันเนื่องมาจากพระราชดำริฯ สำนักงานพิพิธภัณฑ์เกษตรเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว (อพ.สธ.- พกฉ.) โดยมี พลอากาศเอก เสนาะ พรรณพิกุล ผู้อำนวยการสำนักงานพิพิธภัณฑ์เกษตรเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เป็นประธานการประชุม พร้อมด้วย นายพรชัย จุฑามาศ รองผู้อำนวยการโครงการอนุรักษ์พันธุกรรมพืชอันเนื่องมาจากพระราชดำริสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ดร. ปิยรัษฎ์ ปริญญาพงษ์ เจริญทรัพย์ เลขานุการคณะกรรมการโครงการอนุรักษ์พันธุกรรมพืชอันเนื่องมาจากพระราชดำริฯ และคณะกรรมการดำเนินงาน เพื่อติดตามผลการดำเนินงานและกำหนดแนวทางการขับเคลื่อนงานโครงการอนุรักษ์พันธุกรรมพืชอันเนื่องมาจากพระราชดำริ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ในปีงบประมาณ 2566 ร่วมหารือกันในวันอังคารที่ 20 ธันวาคม 2565 ณ ห้องประชุมตามรอยพ่อ ชั้น 3 อาคารสำนักงานพิพิธภัณฑ์เกษตรเฉลิมพระเกียรติฯ ปทุมธานี โดยมีรายละเอียดการประชุม ดังนี้ ระเบียบวาระที่ 1 เรื่องประธานแจ้งให้ที่ประชุมทราบ ระเบียบวาระที่ 2 เรื่องที่เสนอให้ที่ประชุมเพื่อทราบ 2.1 ผลการดำเนินงานโครงการอนุรักษ์พันธุกรรมพืชอันเนื่องมาจากพระราชดำริฯ ประจำปีงบประมาณ 2565 2.2 แผนการดำเนินงานโครงการอนุรักษ์พันธุกรรมพืชอันเนื่องมาจากพระราชดำริฯ ประจำปีงบประมาณ 2566 ระเบียบวาระที่ 3 เรื่องอื่น ๆ
เผยแพร่ พระเกียรติคุณ และ พระอัจฉริยภาพด้านการเกษตร ของพระมหากษัตริย์ไทย และพระบรม วงศานุวงศ์
สืบสาน รักษา ต่อยอด หลักปรัชญา ของเศรษฐกิจพอเพียงด้านการเกษตร
บริหารจัดการองค์กรให้เป็นพิพิธภัณฑ์ แห่งการเรียนรู้หลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงของประเทศ
ส่งเสริม สนับสนุน เครือข่ายและ ภาคีความ ร่วมมือในการขับเคลื่อนหลัก ปรัชญาของ เศรษฐกิจพอเพียง ด้านการเกษตร