ข่าว & ประชาสัมพันธ์

ข่าว & ประชาสัมพันธ์ ทั้งหมด

7 ธันวาคม 2568
4
ข่าวผู้บริหาร
ผู้อำนวยการ พกฉ. ร่วมเป็นเกียรติในพิธีเปิดงาน สืบสานพระราชปณิธาน งานศิลปาชีพบางไทร ครบรอบ 41 ปี

     วันอาทิตย์ที่ 7 ธันวาคม 2568 พันจ่าเอก ประเสริฐ มาลัย ผู้อำนวยการ พกฉ. ร่วมเป็นเกียรติในพิธีเปิดงาน สืบสานพระราชปณิธาน งานศิลปาชีพบางไทร ครบรอบ 41 ปี จัดขึ้นเพื่อน้อมรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณของ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ในฐานะผู้ทรงก่อตั้งงานศิลปาชีพ และเป็นเสาหลักในการจัดหาอาชีพแก่ราษฎร และน้อมรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณของ พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร ผู้ทรงเป็นคู่บุญบารมีและแรงบันดาลใจสำคัญในการแก้ไขปัญหาความยากจนของราษฎรควบคู่กับงานศิลปาชีพ โดยมี นายวิณะโรจน์ ทรัพย์ส่งสุข ปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เป็นประธาน พร้อมด้วย นายเศรษฐเกียรติ กระจ่างวงษ์ เลขาธิการสำนักงานการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม กล่าวรายงาน และผู้บริหารในสังกัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องเข้าร่วม ณ ศูนย์ส่งเสริมและพัฒนาอาชีพเสริมนอกภาคการเกษตร อ.บางไทร จ.พระนครศรีอยุธยา พร้อมทั้งร่วมกิจกรรม ปลูกต้นไม้ตามปณิธานของแม่ และเยี่ยมชมนิทรรศการและกิจกรรมภายในงาน 4 กิจกรรม ดังนี้      1. นิทรรศการน้อมรําลึกในพระมหากรุณาธิคุณของ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง โดยแสดงพระราชประวัติ พระราชกรณียกิจในการก่อตั้งมูลนิธิและศูนย์ศิลปาชีพ บางไทรฯ และการส่งมอบภารกิจให้ ส.ป.ก.      2. นิทรรศการเทิดพระเกียรติเนื่องในโอกาสวันคล้ายวันประสูติของ สมเด็จพระเจ้าลูกเธอเจ้าฟ้าพัชรกิติยาภา นเรนทิราเทพยวดีกรมหลวงราชสาริณีสิริพัชร มหาวัชรราชธิดา โดยจัดทํานิทรรศการแสดงพระราชกรณียกิจของพระองค์ที่เกี่ยวข้องกับงานศิลปาชีพ หรือการพัฒนาคุณภาพชีวิตประชาชน      3. กิจกรรมเชิงปฏิบัติการด้านงานหัตถกรรม (Workshop) ให้ประชาชนได้เข้าร่วมเรียนรู้แบบไม่เสียค่าใช้จ่ายจํานวน 2 แผนกวิชา พร้อมทั้งเปิดอาคารฝึกอบรมให้ประชาชนเข้าเยี่ยมชมกระบวนการผลิต และผลงานหัตถกรรมของช่างฝีมือระดับครู      4. การจําหน่ายผลิตภัณฑ์ศิลปหัตถกรรมคุณภาพสูงจากศิษย์เก่าของ ศพส. และร้านค้าภายในชุมชนรอบพื้นที่

6 ธันวาคม 2568
3
ข่าวผู้บริหาร
สำนักงานพิพิธภัณฑ์เกษตรเฉลิมพระเกียรติฯ จัดโครงการเผยแพร่และถ่ายทอดองค์ความรู้พระอัจฉริยภาพกษัตริย์เกษตร แก่เยาวชนและประชาชน ณ ศูนย์เรียนรู้เครือข่ายพิพิธภัณฑ์เกษตรฯ จังหวัดนครสวรรค์

สำนักงานพิพิธภัณฑ์เกษตรเฉลิมพระเกียรติฯ จัดโครงการเผยแพร่และถ่ายทอดองค์ความรู้พระอัจฉริยภาพกษัตริย์เกษตร แก่เยาวชนและประชาชน ณ ศูนย์เรียนรู้เครือข่ายพิพิธภัณฑ์เกษตรฯ จังหวัดนครสวรรค์      วันเสาร์ที่ 6 ธันวาคม 2568 สำนักงานพิพิธภัณฑ์เกษตรเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว (องค์การมหาชน) จัดโครงการเผยแพร่และถ่ายทอดองค์ความรู้พระอัจฉริยภาพกษัตริย์เกษตร ให้แก่เยาวชนและประชาชนในพื้นที่ศูนย์เรียนรู้เครือข่ายพิพิธภัณฑ์เกษตรฯ “สุพจน์ โคมณี” จังหวัดนครสวรรค์ โดยได้รับเกียรติจาก พันจ่าเอก ประเสริฐ มาลัย ผู้อำนวยการสำนักงานพิพิธภัณฑ์เกษตรเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว พร้อมด้วยนางสาวจุฑามาศ ทองชมพูนุช ผู้อำนวยการสำนักเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร ให้การต้อนรับผู้เข้าร่วมกิจกรรม พร้อมแลกเปลี่ยนมุมมองและสร้างแรงบันดาลใจในการน้อมนำศาสตร์พระราชาไปประยุกต์ใช้ในชีวิตและการประกอบอาชีพ      โครงการดังกล่าวจัดขึ้นเพื่อเปิดโอกาสให้เยาวชนและประชาชนได้เรียนรู้พระเกียรติคุณและพระอัจฉริยภาพด้านการเกษตร ผ่านกิจกรรมการเรียนรู้ที่หลากหลาย ทั้งการเยี่ยมชมฐานการเรียนรู้ภายในพิพิธภัณฑ์ในอาคารและพิพิธภัณฑ์กลางแจ้ง การฝึกปฏิบัติ “การขยายพันธุ์พืชแบบควบแน่น” รวมถึงการศึกษาหลักการบริหารจัดการทรัพยากรดินและน้ำตามแนวพระราชดำริของ พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร      นอกจากนี้ ผู้เข้าร่วมยังได้เยี่ยมชมนิทรรศการจากเครือข่ายพิพิธภัณฑ์เกษตรฯ และหน่วยงานในสังกัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ที่มาร่วมถ่ายทอดองค์ความรู้ภายในงานมหกรรม “ภูมิพลังแผ่นดิน” ซึ่งจัดขึ้นระหว่างวันที่ 4–7 ธันวาคม 2568 ณ พิพิธภัณฑ์การเกษตรฯ จังหวัดปทุมธานี โดยมุ่งหวังให้ประชาชนเห็นคุณค่าทรัพยากรธรรมชาติ สืบสานภูมิปัญญาการเกษตรไทย และนำความรู้ที่ได้รับไปประยุกต์ใช้เพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืน

6 ธันวาคม 2568
55
ข่าวผู้บริหาร
โครงการประกวดผลงานนวัตกรรมและเทคโนโลยีภาคการเกษตร อุตสาหกรรมเกษตร หรืออุตสาหกรรมที่เกี่ยวข้องกับภาคการเกษตร Young Agri Future 2025

     พกฉ. ร่วมกับ สวก. คัดเลือกผลงานนวัตกรรมและเทคโนโลยีภาคการเกษตร อุตสาหกรรมเกษตร หรืออุตสาหกรรมที่เกี่ยวข้องกับภาคการเกษตร Young Agri Future 2025 จากผลงานนักเรียน นักศึกษา คนรุ่นใหม่ ทั่วประเทศ เพื่อช่วยยกระดับคุณภาพชีวิตของเกษตรกร และการพัฒนาด้านการเกษตรสู่การผลิตและสร้างความเข้มแข็งของภาคการเกษตร เชื่อมโยงภารกิจตลอดจนการขับเคลื่อนตามหลักปรัชญของเศรษฐกิจพอเพียง ด้านการเกษตร เพื่อเป็นแนวทางในการน้อมนำสู่การปฏิบัติ และปรับประยุกต์ใช้ให้เกิดประโยชน์ สู่แนวคิดอนาคตเกษตรไทยยั่งยืน      เมื่อวันที่ 3-4 ธันวาคม 2568 สำนักงานพิพิธภัณฑ์เกษตรเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว (องค์การมหาชน) หรือ พกฉ. ร่วมกับ สำนักงานพัฒนาการวิจัยการเกษตร (องค์การมหาชน) หรือ สวก. และกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ จัดกิจกรรมนำเสนอผลงานรอบชิงชนะเลิศ และพิธีมอบรางวัลผู้ชนะการประกวด ในโครงการประกวดนวัตกรรมและเทคโนโลยีภาคการเกษตร อุตสาหกรรมเกษตร หรืออุตสาหกรรมที่เกี่ยวข้องกับภาคการเกษตร Young Agri Future 2025 ระดับพื้นฐาน (มัธยมศึกษา-ปวช.) และระดับอุดมศึกษา (ปวส.-อนุปริญญา-ปริญญาตรี)  รวม 20 รางวัล มูลค่ารวม 530,000 บาท โดยโครงการดังกล่าว ได้เปิดโอกาสให้นักเรียน นักศึกษา และคนรุ่นใหม่ จากทั่วประเทศนำความรู้ และความคิดสร้างสรรค์ มาสร้างนวัตกรรมและเทคโนโลยีทางการเกษตร  สุดยอดนักคิดรุ่นใหม่ ถ่ายทอดความยิ่งใหญ่แห่งศาสตร์พระราชา ในการช่วยยกระดับคุณภาพชีวิตของเกษตรกร และช่วยในการพัฒนาด้านการเกษตรสู่การผลิตและสร้างความเข้มแข็งของภาคการเกษตร ภายใต้หัวข้อ “นวัตกรรมเกษตร : เพิ่มประสิทธิภาพและมูลค่าการผลิตเกษตรไทยยั่งยืน” รวมถึงการพัฒนาต่อยอดผลงานนวัตกรรมที่พร้อมจะพัฒนาและประยุกต์ใช้เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในกระบวนการด้านการเกษตร สู่โอกาสในการพัฒนา ขยายผลและการต่อยอดทางธุรกิจภาคการเกษตรสู่แนวทางในการขับเคลื่อนยุทธศาสตร์การพัฒนาประเทศ และที่สำคัญคือ ผลงานที่ได้รับการคัดเลือก มีโอกาสในการได้รับทุนวิจัยเพื่อพัฒนาต้นแบบ หรือการต่อยอดในเชิงพาณิชย์ สำหรับผลงานที่ผ่านเกณฑ์การพิจารณาให้ทุนวิจัย ของ สวก. ในวงเงินมูลค่ารวม 20,000,000 บาท (ยี่สิบล้านบาท) อีกทั้งยังได้รับเกียรติจากคณะกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ และผู้สนับสนุนทั้งภาครัฐและภาคเอกชน กว่า 12 หน่วยงาน ที่ร่วมสนับสนุนกิจกรรม จนทำให้เกิดผลงานนวัตกรรมและเทคโนโลยีภาคการเกษตรฯ ใหม่ๆ จากมุมมองของกลุ่มคนรุ่นใหม่ที่เข้าร่วมโครงการ กว่า 100 ผลงานจากทั่วประเทศ และคัดเลือกผลงานจนเหลือผู้ผ่านเข้ารอบตัดสินเพียง 59 ผลงานที่ได้เข้าร่วมกิจกรรม Work shop Young Agri Future 2025 และนำเสนอผลงานต่อคณะกรรมการตัดสินในรอบ Final จนได้ผู้ชนะเลิศและรองชนะเลิศของแต่ละระดับ โดยมีผลงาน ที่ผ่านเข้ารอบชิงชนะเลิศ อาทิ เทคโนโลยีสมาร์ทฟาร์มสำหรับตรวจสอบและควบคุมการเจริญเติบโตของสาหร่ายผักกาดทะเล , เครื่องเพาะปลูกพืชเศรษฐกิจแบบลงหัวด้วยระบบหมอกไฮบริดควบคุม สภาพแวดล้อมผ่านระบบอัจฉริยะเพื่อรับมือกับความไม่แน่นอนของสภาพ อากาศ , นวัตกรรมลดความชื้นวัตถุดิบทางการเกษตรต้นทุนต่ำเพื่อสร้างและเพิ่มรายได้อย่างยั่งยืนตามหลักเศรษฐกิจพอเพียง      ผู้อำนวยการสำนักงานพิพิธภัณฑ์เกษตรเฉลิมพระเกียรติพระบาทสวมเด็จพระเจ้าอยู่หัว กล่าวเพิ่มเติมว่า พกฉ. ให้ความสำคัญกับการสร้างเครือข่ายด้านการส่งเสริมการเรียนรู้ รวมทั้งการขยายผลต่อยอดตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง โดยเฉพาะการพัฒนาและยกระดับคุณภาพของเกษตรกรผ่านโครงการและกิจกรรมต่างๆ ร่วมกับทุกหน่วยงาน เพื่อให้เกิดเป็นเครือข่าย กิจกรรม และโครงการที่เข้มแข็งต่อไปในอนาคตและให้ โครงการ Young Agri Future เป็นกลไกในการส่งเสริมให้คนรุ่นใหม่ นักเรียน นักศึกษา รวมทั้ง กลุ่ม Young Famer หรือเกษตรกรผู้สนใจในการขับเคลื่อนการส่งเสริมการใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีและนวัตกรรมภาคการเกษตรฯ เพื่อยกระดับความสามารถในการแข่งขัน พร้อมต่อยอดผลงานนวัตกรรมจากการวิจัยสู่การผลิตเชิงพาณิชย์ต่อไปอย่างยั่งยืน ต่อไป      สำหรับผลการตัดสิน และรับรางวัลโครงการประกวดผลงานนวัตกรรมและเทคโนโลยีภาคการเกษตร และอุตสาหกรรมเกษตรหรืออุตสาหกรรมที่เกี่ยวข้องกับภาคการเกษตร มีทีมที่ได้รับรางวัล ดังนี้      ระดับอุดมศึกษา (ปวส. - อนุปริญญา - ปริญญาตรี)      1. รางวัลชนะเลิศ รับถ้วยรางวัล พร้อมเงินรางวัล 100,000 บาท ได้แก่ทีม Agro -Tech LRU จากมหาวิทยาลัยราชภัฎเลย ผลงานนวัตกรรมการปอกเปลือกเขียวและกะเทาะกะลามะคาเดเมีย 2 ฟังค์ชัน       2. รางวัลรองชนะเลิศอันดับ 1 รับโล่รางวัล พร้อมเงินรางวัล 50,000 บาท ได้แก่ทีม CACOWs สำนักวิชาทรัพยากรการเกษตร จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ผลงาน โครงการนวัตกรรมการจัดการห่วงโซ่คุณค่าโกโก้ บนฐานโมเดลเศรษฐกิจ BCG      3. รางวัลรองชนะเลิศอันดับ 2 รับโล่รางวัล พร้อมเงินรางวัล 30,000 บาท ได้แก่ทีม Ecosphere จากมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี ผลงาน พลาสคูร่า      4. รางวัลนวัตกรรมเกษตรขวัญใจมหาชน (Popular Vote) รับโล่รางวัล พร้อมเงินรางวัล 20,000 บาท  ได้แก่ทีม BOUNTYHUNTER จากมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลธัญญบุรี ผลงาน นวัตกรรมลดความชื้นวัตถุดิบทางการเกษตรต้นทุนต่ำเพื่อสร้างและเพิ่มรายได้อย่างยั่งยืนตามหลักเศรษฐกิจพอเพียง       5. รางวัลชมเชย 6 รางวัล รับเกียรติบัตร พร้อมเงินรางวัล 20,000 บาท ได้แก่      - ทีม First Farm Harvester มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ผลงาน : นวัตกรรมเครื่องเก็บข้าวโพดพร้อมอัดก้อนในตัวลดการเผาอย่างยั่งยืน     - ทีม AMEC_1 มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลตะวันออก ผลงาน : เครื่องให้ปุ๋ยคอกน้ำใต้ดิน     - ทีม DekAgino สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง ผลงาน : เครื่องพ่นสารอัติโนมัติสำหรับวัชพืชโดยควบคุมผ่านการเรียนรู้เชิงลึก     - ทีม KWTK Team วิทยาลัยเทคนิคเขาวง ผลงาน : เครื่องคัดแยกขนาดพุทรานมบ้านโพนสู่การพัฒนาคุณภาพชีวิตที่ยั่งยืน     - ทีม BOUNTYHUNTER มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลธัญบุรี ผลงาน : นวัตกรรมลดความชื้นวัตถุดิบทางการเกษตรต้นทุนต่ำเพื่อสร้างและเพิ่มรายได้อย่างยั่งยืนตามหลักเศรษฐกิจพอเพียง     - ทีม ไข่ทองคำนวัตกรรมยั่งยืน วิทยาลัยเกษตรและเทคโนโลยีอุบลราชธานี ผลงาน : ไส้กรอกไข่ทรงเครื่องกึ่งสำเร็จรูป ระดับพื้นฐาน (มัธยมศึกษา - ปวช.)     1. รางวัลชนะเลิศ รับถ้วยรางวัล พร้อมเงินรางวัล 80,000 บาท ได้แก่ ทีม OsSe จากโรงเรียนเฉลิมพระเกียรติ 60 พรรษา ผลงาน : การพัฒนาเครื่องมือตรวจจับละอองสารเคมีด้วยโทรศัพท์มือถือ     2. รองชนะเลิศอันดับ 1 รับโล่รางวัล พร้อมเงินรางวัล 40,000 บาท ได้แก่ ทีม Angel Film จากโรงเรียนเตรียมอุดมศึกษาภาคใต้ ผลงาน : โครงงานการพัฒนาแผ่นฟิล์มคลุมดินชีวภาพจากกาบกล้วยเปลือกส้มโอ และไบโอชาร์จากเปลือกมังคุดในการรักษาความชื้นหน้าดิน     3. รองชนะเลิศอันดับ 2 รับโล่รางวัล พร้อมเงินรางวัล 20,000 บาท ได้แก่ ทีม ทีม Aerosol จากโรงเรียนชลประทานวิทยา ผลงาน : เครื่องเพาะปลูกพืชเศรษฐกิจแบบลงหัวด้วยระบบหมอกไฮบริดควบคุมสภาพแวดล้อมผ่านระบบอัจฉริยะเพื่อรับมือกับความไม่แน่นอนของสภาพ อากาศ     4. รางวัลนวัตกรรมเกษตรขวัญใจมหาชน (POPULAR VOTE) รับโล่รางวัลพร้อมเงินรางวัล 10,000 บาท ได้แก่ ทีม จิ้งจกผงกหัว โรงเรียนกาฬสินธุ์พิทยาสรรพ์ ผลงาน : เครื่องเพิ่มประสิทธิภาพในการฟักของตั๊กแตนเพื่อแก้ไขปัญหาการฟักไข่ของตั๊กแตนที่ไม่สม่ำเสมอ      5. รางวัลชมเชย 6 รางวัล รับเกียรติบัตร พร้อมเงินรางวัล 10,000 บาท ได้แก่     - ทีม AI BODIN 4 จากโรงเรียนบดินทรเดชา (สิงห์ สิงหเสนี) 4 ผลงาน : โรงเลี้ยงมวนตัวห้ำอัตโนมัติ     - ทีม LUSH จากโรงเรียนเบญจมเทพอุทิศจังหวัดเพชรบุรี ผลงาน : เทคโนโลยีสมาร์ทฟาร์มสำหรับตรวจสอบและควบคุมการเจริญเติบโตของสาหร่ายผักกาดทะเล     - ทีม TAD จากโรงเรียนธาธิตมหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ ฝ่ายมัธยม ผลงาน : นวัตกรรมระบบการเลี้ยงหนอนแมลงวัน BSF กึ่งอัตโนมัติเพื่อย่อยสลายอาหารชีวภาพลดการเกิดก๊าซเรือนกระจก     - ทีม ซุปเปอร์ขาไก่ จากโรงเรียนมหิดลวิทยานุสรณ์ ผลงาน : การพัฒนาไฮโดรเจลผสมเจลาตินที่ก่อตัวเฉพาะที่สำหรับการปลดปล่อยเคอร์คูมิน     - ทีม ปกรณ์พันธ์ไม้อยากพัฒนา นวัตกรรมเกษตร จากโรงเรียนปากเกร็ด ผลงาน : การสังเคราะห์และศึกษาคุณลักษณะของคาร์บอนควอนตัมดอทจากชีวมวลทางการเกษตรเพื่อกระตุ้นการงอกของเมล็ดและการเกิดรากของกิ่งปักชำตอบสนองแนวพระราชดำริเกษตรทฤษฎีใหม่     - ทีม VANTIX จากโรงเรียนปรินส์รอยแยลส์วิทยาลัย ผลงาน : การใช้สารอินทรีย์ระเหยง่ายเป็นชีวสัญญาณในการพัฒนาระบบเฝ้าระวังความผิดปกติของข้าวโพดเลี้ยวสัตว์ที่ถูกหนอนกระทู้ข้าวโพดลายจุดทำลายโดยการใช้เซ็นเซอร์อิเล็กทรอนิส์และปัญญาประดิษฐ์

5 ธันวาคม 2568
16
ข่าวกิจกรรมต่างๆ
พิพิธภัณฑ์การเกษตรฯ จัดงาน “ภูมิพลังแผ่นดิน” เทิดพระเกียรติในหลวง รัชกาลที่ 9 นักวิทยาศาสตร์ดินเพื่อมนุษยธรรม

     วันที่ 5 ธันวาคมของทุกปี เป็นวันที่คนไทยทั้งแผ่นดินน้อมสำนึกพระมหากรุณาธิ ที่สุดมิได้ ของพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร พระมหากษัตริย์ผู้ทรงทำงานหนักท่ามกลางพระราชกรณียกิจนับพันโครงการ โดยเฉพาะพระอัจฉริยภาพด้านการจัดการดินที่โดดเด่นและเป็นที่ประจักษ์ระดับโลก ดินที่เป็นรากฐานของอาหาร ความมั่นคง และการดำรงชีวิต จนได้รับการยกย่องในระดับโลกให้เป็น “นักวิทยาศาสตร์ดินเพื่อมนุษยธรรม”      สำนักงานพิพิธภัณฑ์เกษตรเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว (องค์การมหาชน) จึงได้จัดงานและกิจกรรมในเดือนธันวาคม มหกรรม “ภูมิพลังแผ่นดิน” เพื่อน้อมสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ และเผยแพร่ศาสตร์พระราชาด้านการพัฒนาดินและการเกษตรให้ประชาชนทุกกลุ่มสามารถนำไปประยุกต์ใช้ได้จริงอย่างยั่งยืนพันจ่าเอก ประเสริฐ มาลัย ผู้อำนวยการสำนักงานพิพิธภัณฑ์เกษตรเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว กล่าวว่า “งานภูมิพลังแผ่นดินเป็นเวทีสำคัญที่พิพิธภัณฑ์การเกษตรฯ ใช้ในการเทิดพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศรมหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราชฯ ผู้ทรงเป็นกำลังของแผ่นดินและนักวิทยาศาสตร์ดินเพื่อมนุษยธรรมภายในงานมีนิทรรศการเทิดพระเกียรติ นิทรรศการเครือข่ายฯ และกิจกรรมถ่ายทอดองค์ความรู้เพื่อน้อมนำศาสตร์พระราชาให้ประชาชนสามารถประยุกต์ใช้ได้จริง”      โดยในช่วงเช้าวันนี้ มีพิธีทำบุญตักบาตรข้าวสาร อาหารแห้ง พระสงฆ์ 69 รูป และพิธีไถ่ชีวิตโค โครงการธนาคารโค-กระบือเพื่อเกษตรกร ตามพระระราชดำริ เพื่อถวายเป็นพระราชกุศลแด่ พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง โดยกรมปศุสัตว์ และในช่วงเย็นมีพิธีจุดเทียนน้อมรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณ พร้อมการแสดงโขนเทิดพระเกียรติ ชุด “คารวาลัยพระมิ่งมาตาคู่บุญญา บารมีบรมจักรีองค์ภูมิพล” จากคณะศิลปกรรมศาสตร์มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลธัญบุรี และบทเพลงขลุ่ยเพื่อพ่อ โดย อ.ธนิสร์ ศรีกลิ่นดี ศิลปินแห่งชาติ และคุณขวัญข้าว ธิดารินทร์ ตลอดการจัดงานทั้ง 4 วัน ประชาชนสามารถร่วมกิจกรรมเรียนรู้และอบรมเชิงปฏิบัติการกว่า 16 หลักสูตรโดยไม่เสียค่าใช้จ่าย ทั้ง Onsite และ Online รวมถึงเข้าชมพิพิธภัณฑ์โดยไม่มีค่าใช้จ่าย ได้แก่ พิพิธภัณฑ์ในหลวงรักเรา พิพิธภัณฑ์มหัศจรรย์พันธุกรรม พิพิธภัณฑ์ป่าดงพงไพร พิพิธภัณฑ์ดินดล และพิพิธภัณฑ์สนองพระราชปณิธาน อีกทั้งชม ช้อป สินค้าเกษตรปลอดภัย ผลผลิตเกษตรอินทรีย์ อาหารพื้นบ้าน และต้นไม้นานาพันธุ์กว่า 200 ร้านค้า กิจกรรมพิเศษสำหรับทุกวัย เช่น ทำภาพพิมพ์ Wood Cut ถุงผ้า Eco Bag จากสีธรรมชาติ เพาะ แจก แลกเปลี่ยนต้นไม้ และกิจกรรมสร้างสรรค์อื่น ๆ เพื่อให้ผู้เข้าชมได้เรียนรู้สิ่งใหม่ในทุกวัน      สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ โทร. 02-529-2212, 087-359-7171 ,094-649-2333 หรือทางFacebook พิพิธภัณฑ์การเกษตรฯ และเว็บไซต์ www.wisdomking.or.th

5 ธันวาคม 2568
13
ข่าวกิจกรรมต่างๆ
สำนักงานพิพิธภัณฑ์เกษตรฯ จัดกิจกรรมทำบุญตักบาตร เนื่องในวันพ่อแห่งชาติ 5 ธันวาคม 2568

     วันที่ 5 ธันวาคม 2568 เวลา 08.00 น. พันจ่าเอก ประเสริฐ มาลัย ผู้อำนวยการ พกฉ. นำคณะผู้บริหาร เจ้าหน้าที่ เครือข่ายพิพิธภัณฑ์เกษตรฯ พร้อมด้วยประชาชนร่วมทำบุญตักบาตรข้าวสารอาหารแห้ง แด่พระภิกษุสงฆ์ จำนวน 69 รูป ณ ลานหน้าพระบรมฉายาลักษณ์ฯ สำนักงานพิพิธภัณฑ์เกษตรเฉลิมพระเกียรติฯ ปทุมธานี      เวลา 10.00 น. จัดให้มีพิธีถวายภัตตาหารเพลแด่พระสงฆ์ จำนวน 10 รูป จัดขึ้นเพื่อถวายเป็นพระราชกุศลแด่พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร และสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง จัดขึ้น ณ ลานภูมิปัญญา ภายในพื้นที่พิพิธภัณฑ์ในหลวงรักเรา สำนักงานพิพิธภัณฑ์เกษตรเฉลิมพระเกียรติฯ ปทุมธานี

4 ธันวาคม 2568
10
ข่าวผู้บริหาร
สำนักงานพิพิธภัณฑ์เกษตรฯ จัดประชุมคณะทำงานกลั่นกรองระเบียบข้อบังคับ พกฉ. ครั้งที่ 10/2568

     สำนักงานพิพิธภัณฑ์เกษตรเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว (องค์การมหาชน) หรือ พกฉ. จัดประชุมคณะทำงานกลั่นกรองระเบียบ ข้อบังคับ พกฉ. ครั้งที่ 10/2568 โดยมีนายปฏิญญา เหลืองทองคำ เป็นประธานการประชุม ในวันที่ 4 ธันวาคม พ.ศ. 2568 เวลา 13.30 น. ณ ห้องประชุมตานรอยพ่อ ขั้น 3 อาคารสำนักงานพิพิธภัณฑ์เกษตรเฉลิมพระเกียรติฯ อำเภอคลองหลวง จังหวัดปทุมธานี โดยมีรายละเอียดการประชุม ดังนี้ ระเบียบวาระที่ 1 เรื่องที่ประธานแจ้งให้ที่ประชุมทราบ ระเบียบวาระที่ 2 เรื่องรับรองรายงานการประชุมคณะทำงานกลั่นกรองระเบียบ ข้อบังคับ พกฉ. ครั้งที่ 10/2568 เมื่อวันที่ 22 ตุลาคม 2568 ระเบียบวาระที่ 3 เรื่องที่เสนอให้ที่ประชุมทราบ     3.1 เรื่อง รายงานผลการประชุมคณะกรรมการสำนักงานพิพิธภัณฑ์เกษตรเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ครั้งที่ 11/2568 เมื่อวันที่ 20 พฤศจิกายน 2568 เกี่ยวกับกรณีดังนี้     - ร่างข้อบังคับคณะกรรมการสำนักงานพิพิธภัณฑ์เกษตรเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ว่าด้วยการบริหารงานบุคคล (ฉบับที่ 4)     - ร่างระเบียบคณะกรรมการสำนักงานพิพิธภัณฑ์เกษตรเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ว่าด้วยหลักเกณฑ์และวิธีการเกี่ยวกับการสั่งพักงาน และการจ่ายเงินเดือนของผู้ถูกสั่งพักงาน      - ร่างระเบียบคณะกรรมการสำนักงานพิพิธภัณฑ์เกษตรเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ว่าด้วยการอุทธรณ์และร้องทุกข์ และการพิจารณาวินิจฉัยอุทธรณ์และร้องทุกข์ระเบียบวาระที่ 4 เรื่องที่เสนอให้ที่ประชุมพิจารณา     4.1 เรื่อง ร่างบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ (MOU) เรื่อง การเป็นพันธมิตรด้านองค์ความรู้และเนื้อหาทางวิชาการในโครงการ "King's Wisdom Inspiration Youth Galaxy" ระหว่างสำนักงานพิพิธภัณฑ์เกษตรเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว (องค์การมหาชน) กับ บริษัท มลชญา จำกัด     4.2 เรื่อง ร่างข้อบังคับคณะกรรมการสำนักงานพิพิธภัณฑ์เกษตรเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ว่าด้วยการบริหารงานบุคคล (ฉบับที่ 5)      4.3 เรื่อง ร่างข้อบังคับคณะกรรมการสำนักงานพิพิธภัณฑ์เกษตรเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ว่าด้วยสวัสดิการและสิทธิประโยชน์อื่นของเจ้าที่ (ฉบับที่ 2)  ระเบียบวาระที่ 5 เรื่องอื่น ๆ

4 ธันวาคม 2568
182
ข่าวผู้บริหาร
เปิดมหกรรม “ภูมิพลังแผ่นดิน” เรียนรู้ศาสตร์แห่งแผ่นดิน จัดยิ่งใหญ่สืบสานศาสตร์พระราชา เพื่อการพัฒนาอย่างยั่งยืน

     วันที่ 4 ธันวาคม 2568 ณ สำนักงานพิพิธภัณฑ์เกษตรเฉลิมพระเกียรติฯ จังหวัดปทุมธานี เปิดงานมหกรรมใหญ่ “ภูมิพลังแผ่นดิน” ประจำปี 2568 อย่างเป็นทางการ โดยได้รับเกียรติจาก นายนเรศ ธำรงค์ทิพยคุณ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เป็นประธานในพิธี งานนี้จัดขึ้นเพื่อสืบสานพระราชปณิธานพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศรมหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถพิตร ด้านการพัฒนาการเกษตรและความเป็นอยู่ของประชาชน โดยเฉพาะพระอัจฉริยภาพด้านการจัดการดิน สะท้อนศาสตร์พระราชาที่จับต้องได้ และนำไปปฏิบัติได้จริง ผ่านนิทรรศการเทิดพระเกียรติ นิทรรศการเครือข่ายพิพิธภัณฑ์เกษตรฯ ผู้มากประสบการณ์ การอบรมวิชาของแผ่นดิน และ Workshop กว่า 16 หลักสูตร พร้อมชิม ช็อป สินค้าเกษตรในตลาดเศรษฐกิจพอเพียงกว่า 200 ร้าน และนอกจากนี้ยังมีการนำผลงานในโครงการประกวดนวัตกรรมและเทคโนโลยีภาคการเกษตร อุตสาหกรรมเกษตร หรืออุตสาหกรรมที่เกี่ยวข้องกับภาคการเกษตร Young Agri Future 2025 ภายใต้หัวข้อ “นวัตกรรมเกษตร : เพิ่มประสิทธิภาพและมูลค่าการผลิตเกษตรไทยยั่งยืน” ของน้อง ๆ นักเรียน และนักศึกษาที่ผ่านการเข้ารอบทั้ง 59 ทีมมาร่วมจัดแสดง      พันจ่าเอก ประเสริฐ มาลัย ผู้อำนวยการสำนักงานพิพิธภัณฑ์เกษตรฯ กล่าวว่า “ในหลวงรัชกาลที่ 9 ทรงสอนให้พวกเรารู้จักดูแลผืนดิน แผ่นน้ำ และทรัพยากรธรรมชาติ งานมหกรรม “ภูมิพลังแผ่นดิน” ครั้งนี้ จัดขึ้นระหว่างวันที่ 4 – 7 ธันวาคม 2568 เพื่อเทิดพระเกียรติและน้อมรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณของในหลวงรัชกาลที่ 9 ผู้ทรงเป็น “พลังของแผ่นดิน” ที่มุ่งพัฒนาเกษตรกรไทยให้มีความมั่นคงทั้งด้านทรัพยากร ดิน น้ำ ป่า และคุณภาพชีวิต ผ่านหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงและหลักการทรงงาน ซึ่งจัดขึ้นภายใต้แนวคิด “ดินที่สมบูรณ์ สู่เมืองที่สมดุล เกื้อกูลชีวิต” ถ่ายทอดแนวพระราชดำริด้านการจัดการดินอย่างยั่งยืน ผ่านนิทรรศการเทิดพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร พร้อมเปิดพื้นที่เรียนรู้องค์ความรู้ด้านการเกษตร นวัตกรรม เทคโนโลยี ดิน น้ำ ป่า และการจัดการทรัพยากร รวมถึงองค์ความรู้จากเครือข่ายพิพิธภัณฑ์เกษตรฯ ที่นำเสนอประสบการณ์จริงจากการน้อมนำคำพ่อสอนไปใช้ในชุมชน ในนิทรรศการ “ดินอุดม น้ำสมบูรณ์ เกื้อกูลชีวิตที่สมดุล” เช่น การฟื้นฟูดิน การบริหารจัดการน้ำ การสร้างอาชีพ การแปรรูปเพิ่มมูลค่า และการสร้างคนรุ่นใหม่ในวิถีเกษตร”      กิจกรรมพิเศษ เนื่องในวันพ่อแห่งชาติ วันดินโลก 5 ธันวาคม 2568 เวลา 08.30 น. ร่วมทำบุญตักบาตรข้าวสารอาหารแห้ง พระสงฆ์ จำนวน 69 รูป เพื่อถวายเป็นพระราชกุศลแด่พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร  และสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง และช่วงเวลา 17.00 น. เป็นต้นไป ขอเชิญร่วมกิจกรรมและรับชมการแสดงโขนเทิดพระเกียรติ ชุด “คารวาลัยพระมิ่งมาตาคู่บุญญาบารมีบรมจักรีองค์ภูมิพล” พร้อมรับฟังบทเพลงพระราชนิพนธ์จากเสียงขลุ่ยของอาจารย์ธนิสร์ ศรีกลิ่นดี และคุณขวัญข้าว ธิดารินทร์ และร่วมจุดเทียนน้อมรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณ โดยตลอดทั้งงานเปิดเข้าชมฟรี พิพิธภัณฑ์ในหลวงรักเรา พิพิธภัณฑ์มหัศจรรย์พันธุกรรม พิพิธภัณฑ์ป่าดงพงไพร พิพิธภัณฑ์ดินดล และพิพิธภัณฑ์สนองพระราชปณิธาน นิทรรศการขุมทรัพย์แห่งแผ่นดิน พร้อมกิจกรรมเรียนรู้อบรมวิชาของแผ่นดินกว่า 16 วิชา โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย และชม ช็อป ผลผลิตเกษตรปลอดภัยในตลาดเศรษฐกิจพอเพียงที่รวบรวมสินค้าคุณภาพจากเครือข่ายเกษตรกรทั่วประเทศกว่า 200 ร้านค้า Pavilion พร้อมกิจกรรมมีส่วนร่วมมากมายในงาน อาทิ ทำภาพพิมพ์ wood cut  กิจกรรม Eco Bag  สีสันจากธรรมชาติ หล่อเหรียญและลงสพระบรมรูปปั้น DIY เพาะแจกแลกเปลี่ยนต้นไม้ เป็นต้น      ท้ายนี้ ผอ.สำนักงานพิพิธภัณฑ์ฯ กล่าวเชิญชวนประชาชนทุกคนมาเรียนรู้ศาสตร์พระราชาจากประสบการณ์จริงของบุคคลต้นแบบทั่วประเทศ ในงานมหกรรม “ภูมิพลังแผ่นดิน” 4 – 7 ธันวาคม 2568 เพื่อนำไปปรับใช้ในชีวิตประจำวัน ไม่ว่าจะเป็นการทำเกษตรแบบพึ่งตนเอง การจัดการทรัพยากรในครัวเรือน หรือการสร้างอาชีพจากภูมิปัญญาไทย พร้อมจุดประกายแรงบันดาลใจให้ทุกคนได้ร่วมกันสานต่อพระราชปณิธานเพื่อสร้างพลังแห่งแผ่นดินที่มั่นคงต่อไป”      สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม โทร.02-529-2212, 087-359-7171, 094-649-2333 หรือทาง Facebook พิพิธภัณฑ์การเกษตรฯ Website www.wisdomking.or.th

29 พฤศจิกายน 2568
69
ข่าวผู้บริหาร
พิพิธภัณฑ์การเกษตรฯ เปิดเสนาพิเศษ ชูไฮไลท์ งานใหญ่ส่งท้ายปี มหกรรม “ภูมิพลังแผ่นดิน” จากแนวคิดศาสตร์พระราชา สู่ความยั่งยืนของดิน เมือง และการพึ่งตนเอง

     สำนักงานพิพิธภัณฑ์เกษตรเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว (องค์การมหาชน) จัดงานใหญ่ส่งท้ายปี งานมหกรรม “ภูมิพลังแผ่นดิน” จัดขึ้นในวันที่ 4 – 7 ธันวาคม 2568 เพื่อเทิดพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ด้านการจัดการดินเพื่อการเกษตร เนื่องในวันคล้ายวันพระบรมราชสมภพ 5 ธันวาคม วันพ่อแห่งชาติ และวันดินโลก พระมหากษัตริย์นักพัฒนา พระผู้ทรงมีพระอัจฉริยภาพ พระมหากรุณาธิคุณด้านการจัดการดินที่ยั่งยืน และทรงวางรากฐานความอุดมสมบูรณ์ให้แก่ผืนแผ่นดินไทย โดยจัดงานภายใต้แนวคิด “ดินที่สมบูรณ์ สู่เมืองที่สมดุล เกื้อกูลชีวิต” ถ่ายทอดศาสตร์พระราชาผ่านนิทรรศการ พร้อมเสริมทัพองค์ความรู้ผลงาน เทคโนโลยี และนวัตกรรมเกษตร จากหน่วยงานในสังกัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ หน่วยงานภาคีเครือข่าย เครือข่ายพิพิธภัณฑ์เกษตรฯ 4 ภูมิภาค และจากเยาวชนคนเก่งที่นำผลงานนวัตกรรมในโครงการประกวดนวัตกรรมและเทคโนโลยีภาคการเกษตร อุตสาหกรรมเกษตร หรืออุตสาหกรรม หรืออุตสาหกรรมที่เกี่ยวข้องกับภาคการเกษตร ชม ช้อป เพลิดเพลินกับตลาดเศรษฐกิจพอเพียง และกิจกรรมเรียนรู้มากมายตลอด 4 วัน ตั้งแต่เวลา 08.00 – 17.00 น. ณ พิพิธภัณฑ์การเกษตรเฉลิมพระเกียรติฯ จังหวัดปทุมธานี      พันจ่าเอก ประเสริฐ มาลัย ผู้อำนวยการสำนักงานพิพิธภัณฑ์เกษตรเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว กล่าวว่า “พิพิธภัณฑ์การเกษตรฯ ทำหน้าที่สำคัญในการเผยแพร่พระเกียรติคุณและพระอัจฉริยภาพของสถาบันพระมหากษัตริย์ไทย 5 ธันวาคม วันคล้ายวันพระบรมราชสมภพพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร วันพ่อแห่งชาติ วันชาติ  และวันดินโลก เพื่อน้อมรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณและพระอัจฉริยภาพด้านการจัดการดินที่ทรงวางรากฐานความอุดมสมบูรณ์ของผืนดินไทย เพื่อประโยชน์สุขของมหาชนชาวไทย การจัดงานมหกรรมในหลวงรักเรา ครั้งนี้จัดขึ้นภายใต้แนวคิด “ดินที่สมบูรณ์ สู่เมืองที่สมดุล เกื้อกูลชีวิต” ถ่ายทอดแนวพระราชดำริด้านการจัดการดินอย่างยั่งยืน ผ่านนิทรรศการเทิดพระเกียรติ นิทรรศการเครือข่ายพิพิธภัณฑ์เกษตรฯ ภาคีความร่วมมือ และงานนี้ถือเป็นครั้งสำคัญที่ผนึกกำลังร่วมจากทุกหน่วยงานในสังกัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ การน้อมนำศาสตร์พระราชาของในหลวงรัชกาลที่ 9ในโซนมหกรรม“เกษตรไทยก้าวสู่อนาคต ด้วยศาสตร์พระราชา” ที่ถ่ายทอดความยิ่งใหญ่แห่งศาสตร์พระราชา และจัดแสดงผลงานนวัตกรรมและเทคโนโลยีเพื่อการเกษตร และนิทรรศการไฮไลท์ที่มีชีวิตจากเครือข่ายพิพิธภัณฑ์ฯ ผู้น้อมนำคำพ่อสอนที่นำเอาองค์ความรู้และภูมิปัญญาท้องถิ่นและวิถีชีวิตที่สอดคล้องกับธรรมชาติ จากภูเขาสู่ท้องทะเล การจัดการดินและน้ำของทั้ง 4 ภูมิภาค การทำเกษตรในพื้นที่สูง การปลูกพืชอนุรักษ์ดิน หญ้าแฝก การจัดการดินหัวไร่ปลายนา การทำป่าร่วมยาง และป่าวนเกษตร ที่สะท้อนเอกลักษณ์ความเป็นไทยในทุกมิติ”      นายอร่าม แก้วนิล ผู้เชี่ยวชาญพิเศษ ให้รายละเอียดเพิ่มเติมว่า “ภายในงานครั้งนี้ ผู้เข้าร่วมงานจะได้เรียนรู้จากพี่น้องเครือข่ายพิพิธภัณฑ์ฯ บุคคลต้นแบบที่น้อมนำแนวพระราชดำริไปประยุกต์ใช้ในพื้นที่ของตนเอง และประสบความสำเร็จ ในนิทรรศการ “ดินอุดม น้ำสมบูรณ์ เกื้อกูลชีวิตที่สมดุล” โดยงานนี้นำเสนอองค์ความรู้และภูมิปัญญาท้องถิ่นที่สอดคล้องกับธรรมชาติและวิถีชีวิตที่สร้างความอุดมสมบูรณ์ และเกิดสมดุลอย่างยั่งยืน มาจัดแสดง แลกเปลี่ยน และถ่ายทอดประสบการณ์ ในโซนฐานนิทรรศการย่อยต่างๆ ทั้งการจัดการดินและน้ำ จาก 4 ภูมิภาค การทำเกษตรในพื้นที่สูง การปลูกพืชอนุรักษ์ดิน ระบบป่าต้นน้ำ เช่น หญ้าแฝก ระบบเหมืองฝาย ต้นไม้ท้องถิ่น ฝายชะลอน้ำ การจัดการดินหัวไร่ปลายนา การทำป่าร่วมยาง และป่าวนเกษตร  ทั้งวิถีวัฒนธรรม ความเชื่อ ที่อยู่คู่กับเกษตรกร องค์ความรู้ พืชน้ำ พันธุกรรมสัตว์ประจำถิ่น วิถีชาวนา วิถีประมงชายฝั่ง และความหลากหลายทางชีวภาพ และที่สำคัญภายในงานยังมีการถ่ายทอดองค์ความรู้ผ่านการอบรมวิชาของแผ่นดินและ Workshop กว่า 16 วิชา โดยไม่มีค่าใช้จ่าย อาทิ หลักสูตร“จากพืชเชิงเดี่ยว สู่เกษตรพอเพียง” โดย รศ.ดร.สุภีร์ สมอนา จาก “สวนเกษตรคนอินทรีย์” จ.นครราชสีมา หลักสูตร“ปรุงดินด้วยปุ๋ยหมัก 5 พลัง” โดย อาจารย์เพชรรุ่ง พุกกะเวส เครือข่ายพิพิธภัณฑ์เกษตรฯ จ.จันทบุรี หลักสูตร“สะเดานอกฤดู สร้างรายได้” โดย อาจารย์วีรยุทธ ศรีเลอจันทร์ (อ.ทอง ธรรมดา) เครือข่ายพิพิธภัณฑ์เกษตรฯ จ.นครราชสีมา หลักสูตร“พลิกดิน สู่ชีวิตอินทรีย์” โดย อาจารย์สุธรรม จันทร์อ่อน “ปราชญ์เกษตรของแผ่นดิน” จ.นครปฐม หลักสูตร“ระบบซิงค์ผลิตไฟฟ้า ลดการพึ่งพา” โดย อาจารย์ธีระยุทธ ทองเต่าอินทร์ หลักสูตร“ปั้นแบรนด์ธุรกิจ ด้วยเทคนิคการเล่าเรื่อง” โดย ดร.สุชีรา มาตยภูธร ภาควิชาส่งเสริมและนิเทศศาสตร์เกษตร คณะเกษตร กำแพงแสน จ.นครปฐม หลักสูตร“เบญจคุณ บำรุงดิน” โดย อาจารย์เฉลิม พีรี “สวนเกษตรสมคิด” เครือข่ายพิพิธภัณฑ์เกษตรฯ จ.กำแพงเพชร      นายสมเกียรติ ไพฑูรย์ เครือข่ายพิพิธภัณฑ์เกษตรฯ จังหวัดปราจีนบุรี กล่าวเพิ่มเติมส่วนของกิจกรรมเครือข่ายพิพิธภัณฑ์เกษตรฯ ว่า “นิทรรศการ “ดินอุดม น้ำสมบูรณ์ เกื้อกูลชีวิตที่สมดุล”เกิดจากความร่วมมือของเหล่าเครือข่ายพิพิธภัณฑ์เกษตรฯ ได้มารวมตัวและร่วมจัดแสดงนิทรรศการ ถ่ายทอดความรู้ ประสบการณ์ที่ได้ประยุกต์ใช้ในภูมิสังคม ของแต่ละคน ผ่านความสำเร็จ ความล้มเหลวมาบอกเล่า และสร้างแรงบันดาลใจในงานครั้งนี้ โดยเฉพาะด้านการจัดการดิน ซึ่งถือเป็นหัวใจสำคัญของการเกษตร แต่ละพื้นที่มีลักษณะดิน ภูมินิเวศน์ และปัญหาที่แตกต่างกัน ดังนั้นจะได้เห็นตัวอย่างการปรับใช้แนวพระราชดำริให้เหมาะสมกับสภาพแวดล้อมท้องถิ่น เช่น การทำแนวกันดินและระบบน้ำสำหรับพื้นที่สูงและลาดชัน การบำรุงดินทรายหรือดินเปรี้ยวด้วยปุ๋ยหมักและวัสดุอินทรีย์ การปลูกพืชคลุมดินเพื่อป้องกันการชะล้างดินในพื้นที่ลุ่ม การจัดการหัวไร่ปลายนาอย่างเป็นระบบ การสร้างป่าร่วมยางหรือป่าวนเกษตรเพื่อฟื้นฟูความอุดมสมบูรณ์ของดินและระบบนิเวศน์ และการปลูกหญ้าแฝกเพื่อรักษาหน้าดิน ทุกเทคนิคและวิธีการเหล่านี้สะท้อนการน้อมนำแนวพระราชดำริให้เข้ากับบริบทของดินในแต่ละภูมิภาคอย่างเหมาะสม พร้อมทั้งสอดแทรกองค์ความรู้เรื่องการจัดการน้ำและการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติอย่างสมดุล เพื่อให้ผู้เข้าร่วมงานไม่เพียงแค่ชมผลงาน แต่สามารถเรียนรู้แนวทางและนำไปปรับใช้ได้จริงตามสภาพพื้นที่ของตนเอง เป็นการส่งต่อภูมิปัญญาและแนวคิดที่ยั่งยืนของในหลวงรัชกาลที่ 9 สู่การปฏิบัติในชีวิตจริง”      พันจ่าเอก ประเสริฐ มาลัย ผู้อำนวยการสำนักงานพิพิธภัณฑ์เกษตรเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว กล่าวเชิญชวนเนื่องในวันพ่อแห่งชาติ ในช่วงเช้าเวลา 08.30 น. ขอเชิญร่วมทำบุญใส่บาตรข้าวสารอาหารแห้ง พระสงฆ์ จำนวน 69 รูป เพื่อถวายเป็นพระราชกุศลแด่พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร  และสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง และช่วงเวลา 17.00 น. เป็นต้นไป ขอเชิญร่วมกิจกรรมและรับชมการแสดงโขนเทิดพระเกียรติ ชุด “คารวาลัยพระมิ่งมาตาคู่บุญญาบารมีบรมจักรีองค์ภูมิพล” พร้อมรับฟังบทเพลงพระราชนิพนธ์จากเสียงขลุ่ยของอาจารย์ธนิสร์ ศรีกลิ่นดี และคุณขวัญข้าว ธิดารินทร์ และร่วมจุดเทียนน้อมรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณ และขอย้ำว่าตลอดทั้ง 4 วัน ชม ช้อป ผลผลิต สินค้าแปรรูปจากเกษตรกรเครือข่ายฯ กว่า 200 ร้าน เปิดให้เข้าชม 6 พิพิธภัณฑ์ ไม่มีค่าใช้จ่าย ได้แก่ พิพิธภัณฑ์ในหลวงรักเรา พิพิธภัณฑ์มหัศจรรย์พันธุกรรม พิพิธภัณฑ์ป่าดงไพร พิพิธภัณฑ์ดินดล พิพิธภัณฑ์สนองพระราชปณิธาน นิทรรศการขุมทรัพย์แห่งแผ่นดิน และพิพิธภัณฑ์กษัตริย์เกษตร นิทรรศการ Immersive of Mado Pavilion พร้อมกิจกรรมหลากหลายภายในงาน อาทิ ทำภาพพิมพ์ wood cut กิจกรรม Eco Bag  สีสันจากธรรมชาติ  เพาะแจกแลกเปลี่ยน เป็นนต้น มาทุกวันได้เรียนรู้สิ่งใหม่ๆทุกวัน      สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมโทร.02-529-2212, 087-359-7171, 094-649-2333 หรือทาง Facebook พิพิธภัณฑ์การเกษตรฯ Website www.wisdomking.or.th

28 พฤศจิกายน 2568
27
คณะเข้าชม
ก้าวสู่ความพอเพียง เรียนรู้วิถีเกษตรผ่านประสบการณ์จริง

     วันที่ 28 พฤศจิกายน 2568 น้อง ๆ และเจ้าหน้าที่ จากโรงเรียนสาธิตแห่งมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ศูนย์วิจัยและพัฒนาการศึกษา กทม. โรงเรียนนครรังสิต สิริเวชชะพันธ์ จ.ปทุมธานี และกรมปศุสัตว์ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กทม. เข้าร่วมโครงการส่งเสริมการเรียนรู้เกษตรเศรษฐกิจพอเพียง โดยเริ่มต้นกิจกรรมด้วยการเรียนรู้พระอัจฉริยภาพของในหลวงรัชกาลที่ 9 ที่มุ่งเน้นการพัฒนาประเทศ และส่งเสริมให้ประชาชนสามารถพึ่งพาตนเองได้ รวมถึงเรียนรู้เรื่องราวหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง ในพิพิธภัณฑ์ในหลวงรักเรา ผ่านนิทรรศการตามรอยพ่อ นิทรรศการนวัตกรรมเกษตรเศรษฐกิจพอเพียง นิทรรศการตามรอยพ่อ นิทรรศการวิถีเกษตรลุ่มน้ำ นิทรรศการน้ำคือชีวิต นิทรรศการตลาดเก่าชาวเกษตร และนิทรรศการพิพิธภัณฑ์ป่าดงพงไพร ต่อด้วยเข้าชมภาพยนตร์แอนิเมชัน 3 มิติ และ 7 มิติ นอกจากนั้นทางคณะยังได้เข้าชมพิพิธภัณฑ์กลางแจ้ง สนุกไปกับการเดินชมการเรียนรู้ผักคุณภาพในโรงเรือน การขยายพันธุ์พื้น เกษตรพอเพียงเมือง และ 1 ไร่ พอเพียง ที่ พร้อมลงมือฝึกปฏิบัติการขยายพันธุ์พืชแบบควบแน่น และการเพาะเห็ดฟางในตะกร้า เป็นต้น      หน่วยงานใดที่สนใจเข้าร่วมเรียนรู้ในรูปแบบหมู่คณะ สามารถดูหลักสูตรต่างๆได้ที่ https://www.wisdomking.or.th/views/course/ สอบถามรายละเอียด 094-649-2333 087-359-7171 02-529-2212 หรือ www.wisdomking.or.th facebook: wisdomkingmuseum และ Line ID: @wisdomkingmuseum

23 พฤศจิกายน 2568
17
ข่าวกิจกรรมต่างๆ
พกฉ. จัดค่ายเรียนรู้พันธุกรรมพืชท้องถิ่น จ.อุตรดิตถ์ เสริมสร้างจิตสำนึกเยาวชนสู่การอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติอย่างยั่งยืน

     สำนักงานพิพิธภัณฑ์เกษตรเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว (องค์การมหาชน) จัดโครงการส่งเสริมการเรียนรู้การอนุรักษ์ทรัพยากร “ค่ายเรียนรู้พันธุกรรมพืชท้องถิ่น จังหวัดอุตรดิตถ์” ระหว่างวันที่ 21–23 พฤศจิกายน 2568 ณ ศูนย์เรียนรู้เครือข่าย พกฉ. จังหวัดอุตรดิตถ์ “กลุ่มเกษตรธรรมเพื่อชีวิต” วัดดอยท่าเสา อำเภอเมือง จังหวัดอุตรดิตถ์ โดยมีเยาวชนในพื้นที่เข้าร่วมทำกิจกรรม โครงการดังกล่าวมีวัตถุประสงค์เพื่อเสริมสร้างความรู้และความเข้าใจด้านการอนุรักษ์พันธุกรรมพืชท้องถิ่น ตลอดจนปลูกฝังจิตสำนึกในการหวงแหนและรักษาทรัพยากรธรรมชาติในชุมชน กระตุ้นให้เยาวชนตระหนักถึงคุณค่าและประโยชน์ของทรัพยากรพืชพื้นบ้าน ซึ่งเป็นรากฐานสำคัญของความมั่นคงทางอาหารและสิ่งแวดล้อม ภายในค่ายเยาวชนได้ร่วมเรียนรู้กับปราชญ์ชุมชนผ่านฐานกิจกรรมหลากหลาย อาทิ “ลูกประคบสมุนไพร ภูมิปัญญาเพื่อสุขภาพ” การทำบุษบาห่มผ้า และการประดิษฐ์พวงกุญแจสมุนไพรหอม พร้อมเรียนรู้ภูมิปัญญาท้องถิ่นด้านสมุนไพรและพืชพื้นบ้าน กิจกรรมได้รับความสนใจและความร่วมมืออย่างคึกคัก สร้างแรงบันดาลใจให้เยาวชนสามารถนำความรู้ไปต่อยอดในการอนุรักษ์ทรัพยากรในพื้นที่ของตนอย่างยั่งยืน

21 พฤศจิกายน 2568
22
คณะเข้าชม
เรียนรู้จัดเต็ม ลุยไม่ยั้ง ณ พิพิธภัณฑ์การเกษตรฯ

     วันที่ 21 พฤศจิกายน 2568 พิพิธภัณฑ์การเกษตรฯ จ.ปทุมธานี ต้อนรับคณะนักเรียน จากโรงเรียนพระหฤทัยนนทบุรี จ.นนทบุรี โรงเรียนสารสาสน์วิเทศราชพฤกษ์ จ.นนทบุรี โรงเรียนบดินทรเดชา(สิงห์ สิงหเสนี) กทม. เข้าร่วมโครงการส่งเสริมการเรียนรู้เกษตรเศรษฐกิจพอเพียง โดยเริ่มต้นกิจกรรมด้วยการเรียนรู้พระอัจฉริยภาพของในหลวงรัชกาลที่ 9 ที่มุ่งเน้นการพัฒนาประเทศ และส่งเสริมให้ประชาชนสามารถพึ่งพาตนเองได้ รวมถึงเรียนรู้เรื่องราวหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง ในพิพิธภัณฑ์ในหลวงรักเรา ผ่านนิทรรศการหลักการทรงงาน นิทรรศการนวัตกรรมเกษตรเศรษฐกิจพอเพียง นิทรรศการวิถีเกษตรของพ่อ และนิทรรศการพิพิธภัณฑ์ป่าดงพงไพร จากนั้นสนุกกับการทำงานร่วมกันเป็นทีมในกิจกรรมสร้างสรรค์ความคิด ตามด้วยการเข้าชมภาพยนตร์การ์ตูนแอนิเมชัน 3 มิติ นอกจากนั้นทางคณะยังได้เข้าชมพิพิธภัณฑ์กลางแจ้ง สนุกไปกับการเดินชมการเรียนรู้ อาทิ ฐานการเรียนรู้บ้านนวัตกรรมพลังงาน ฐานการเรียนรู้บ้านดินบ้านฟาง ฐานการเรียนรู้เกษตรพอเพียงเมือง ฐานการเรียนรู้ 1 ไร่พอเพียง และได้ลงมือฝึกปฏิบัติขยายพันธุ์พันธุ์(ควบแน่น) การเพาะเห็ดฟางในตะกร้า ที่และการสร้างบ้านดิน สามารถนำไปปรับประยุกต์ใช้ได้จริง อีกทั้งยังเป็นการสร้างจิตสำนึกที่ดีในการทำเกษตรในกับผู้ที่เข้าร่วมกิจกรรมอีกด้วย      หน่วยงานใดที่สนใจเข้าร่วมเรียนรู้ในรูปแบบหมู่คณะ สามารถดูหลักสูตรต่างๆได้ที่ https://www.wisdomking.or.th/views/course/ สอบถามรายละเอียด 094-649-2333 087-359-7171 02-529-2212 หรือ www.wisdomking.or.th facebook: wisdomkingmuseum และ Line ID: @wisdomkingmuseum  

20 พฤศจิกายน 2568
24
คณะเข้าชม
น้อง ๆ เปิดประสบการณ์ เรียนรู้วิถีพอเพียง ณ พิพิธภัณฑ์การเกษตรฯ

     วันที่ 20 พฤศจิกายน 2568 โรงเรียนสยามสามไตร กทม. และองค์การบริหารส่วนตำบลบางพลีใหญ่ จ.สมุทรปราการ เข้าเยี่ยมชมภายในพิพิธภัณฑ์การเกษตรเฉลิมพระเกียรติฯ จ.ปทุมธานี ซึ่งน้อง ๆ มาศึกษา และเรียนรู้พระอัจฉริยภาพของในหลวงรัชกาลที่ 9 ที่มุ่งเน้นการพัฒนาประเทศ และส่งเสริมให้ประชาชนสามารถพึ่งพาตนเองได้ รวมถึงเรียนรู้เรื่องราวหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง ในพิพิธภัณฑ์ในหลวงรักเรา ผ่านนิทรรศการหลักการทรงงาน นิทรรศการตามรอยพ่อ นิทรรศการวิถีเกษตรของพ่อ และเข้าชมพิพิธภัณฑ์ป่าดงพงไพร ถ่ายทอดองค์ความรู้ด้านระบบนิเวศและทรัพยากรป่าไม้ผ่านนิทรรศการที่จัดแสดงอย่างเป็นระบบ ผู้เข้าชมสามารถเรียนรู้โครงสร้างของป่า ความสัมพันธ์ของสิ่งมีชีวิต และแนวคิดการอนุรักษ์ธรรมชาติได้อย่างลึกซึ้ง พร้อมสนุกกับการทำงานร่วมกันเป็นทีมในกิจกรรมสร้างสรรค์ความคิด ตามด้วยการเข้าชมภาพยนตร์การ์ตูนแอนิเมชัน 3 มิติ จากนั้นยังได้เข้าชม และเรียนรู้ไปในฐานเรียนรู้พิพิธภัณฑ์กลางแจ้งเส้นทางนวัตกรรมเกษตรเศรษฐกิจพอเพียง อาทิ ฐานเรียนรู้บ้านนวัตกรรมพลังงาน ฐานเรียนรู้เกษตรพอเพียงเมือง ฐานเรียนรู้วิถีเกษตรไทย 4 ภาค ปิดท้ายด้วยการลงมือฝึกปฏิบัติการทำนาดำ และนาโยนกล้า       หน่วยงานใดที่สนใจเข้าร่วมเรียนรู้ในรูปแบบหมู่คณะ สามารถดูหลักสูตรต่างๆได้ที่ https://www.wisdomking.or.th/views/course/ สอบถามรายละเอียด 094-649-2333 087-359-7171 02-529-2212 หรือ www.wisdomking.or.th facebook: wisdomkingmuseum และ Line ID: @wisdomkingmuseum