27-30 กค 61
พิพิธภัณฑ์เกษตรเฉลิมพระเกียรติฯ ปิดบริการเข้าชม วันที่ 27 - 30 กรกฎาคม 2561
สำนักงานพิพิธภัณฑ์เกษตรเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว (องค์การมหาชน) จัดโครงการส่งเสริมความสามัคคี เสริมสร้างความดี ความผูกพัน รวมใจ ร่วมต้านทุจริตคอร์รัปชัน โดยได้รับเกียรติจาก พลอากาศเอก เสนาะ พรรณพิกุล ผู้อำนวยการสำนักงานพิพิธภัณฑ์เกษตรเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เป็นผู้นำกล่าวประกาศเจตนารมณ์ในการป้องกันและปราบปรามการทุจริต โดยมีคณะผู้บริหาร และเจ้าหน้าที่ เข้าร่วมโครงการอย่างพร้อมเพรียงกัน ในวันที่ 24 ธันวาคม 2564 ณ ห้องประชุมศาสตร์พระราชา ชั้น 2 อาคารสำนักงานพิพิธภัณฑ์เกษตรเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ปทุมธานี
พิพิธภัณฑ์เกษตรเฉลิมพระเกียรติฯ ปิดบริการเข้าชม วันที่ 27 - 30 กรกฎาคม 2561
วันเสาร์ที่ 29 มิถุนายน 2562 พิพิธภัณฑ์การเกษตรเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว จ.ปทุมธานี ร่วมกับการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) สำนักงานกรุงเทพมหานคร และชมรมจักรยานท่องเที่ยวปทุมธานี เปิดเส้นทางเรียนรู้ใหม่ “เส้นทางจักรยาน นักสำรวจธรรมชาติ พกฉ.” เพื่อตอบโจทย์การท่องเที่ยวเชิงเรียนรู้ ส่งเสริมการออกกำลังกาย เสริมสร้างความสัมพันธ์ที่ดีในครอบครัว ผ่านการปั่นจักรยาน และเดินชมศึกษาเส้นทางการเรียนรู้พิพิธภัณฑ์กลางแจ้ง และพิพิธภัณฑ์ในอาคาร นายสหภูมิ ภูมิธฤติรัฐ ผู้อำนวยการสำนักงานพิพิธภัณฑ์เกษตรเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จ พระเจ้าอยู่หัว เปิดเผยว่า “พิพิธภัณฑ์การเกษตรเฉลิมพระเกียรติฯ ถือเป็นแหล่งเรียนรู้และเผยแพร่ พระเกียรติคุณ พระอัจฉริยภาพพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 9 ด้านการเกษตร ผ่านกิจกรรมที่หลากหลายเหมาะสำหรับทุกคนในครอบครัว และเพื่อตอบโจทย์การเรียนรู้ที่ไม่มีสิ้นสุด พิพิธภัณฑ์การเกษตรฯ จึงเปิดเส้นทางเรียนรู้“เส้นทางจักรยาน นักสำรวจธรรมชาติ พกฉ.” เพื่อเป็นเส้นทางการเรียนรู้รูปแบบใหม่ เรียนรู้ศาสตร์พระราชา ผ่านฐานการเรียนรู้ที่สอดแทรกความรู้ด้านการเกษตร สู่การน้อมนำและประยุกต์ใช้ในชีวิตจริง และยังเป็นการส่งเสริมภาพลักษณ์ประเทศไทยสู่การเป็น The Best Bicycle Destination in Asia เนื่องจากประเทศไทยมีสถานที่ท่องเที่ยวที่สวยงามเหมาะสำหรับการปั่นจักรยานท่องเที่ยว…” สองล้อหมุน สองเท้าปั่น ขับเคลื่อนการเรียนรู้ตามรอยกษัตริย์เกษตรนักพัฒนา ด้วยพลังการเรียนรู้อย่างเต็มที่ เริ่มต้นจุดแรกก็กระตุ้นความอยากรู้ อยากเห็น ตื่นตา ตื่นใจ กับเรือขุดคลองขนาดใหญ่ตั้งเด่นสง่าท่ามกลางแมกไม้ มีนามว่าเรือขุด รข.1 ซึ่งเป็นเรือขุด 1 ใน 2 ลำที่พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 ทรงได้สั่งซื้อจากประเทศเนเธอร์แลนด์ เพื่อนำมาขุดคลองแสนแสบ และคูคลองต่างๆ เพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิตของปวงชนชาวไทย จุดที่ 2 ถัดจากเรือขุดลำใหญ่ สายตาทอดมาเล็งเห็นบ้านสีสันสะดุดตา หลังเล็ก หลังใหญ่ พอปั่นเข้ามาเรียนรู้ใกล้ๆ ก็สร้างความประหลาดใจแก่ผู้มาเยือน เพราะบ้านแต่ละหลังสร้างมาจากดินบ้าง บางหลังสร้างมาจากฟางบ้าง ทำให้นึกย้อนไปถึงนิทานลูกหมู 3 ตัว แท้จริงแล้วการสร้างบ้านจากวัสดุธรรมชาติเหล่านี้สามารถทำได้จริง ไม่ใช่เพียงในจินตนาการเท่านั้น พร้อมมีฐานเรียนรู้และลงมือปฏิบัติ.“บ้านดิน บ้านฟาง”.ให้ผู้ที่สนใจได้ลงมือปฏิบัติจริงอีกด้วย พลังการเรียนรู้ยังมีอย่างท่วมท้นต่อด้วย จุดที่ 3 ในฐานเรียนรู้เกษตรพอเพียงเมือง ในฐานนี้เกือบทุกคนที่ร่วมขบวนต่างร้องออกมาเป็นเสียงเดียวกันว่า “เฮ้ย!!.มันทำแบบนี้ได้ด้วยหรอ!!” ทุกคนต่างตื่นเต้นที่ได้พบกับการเกษตรรูปแบบใหม่ นวัตกรรมเกษตรที่ตอบทุกโจทย์การเกษตรของคนเมือง หรือคนที่มีพื้นที่จำกัดแต่ชื่นชอบการทำเกษตร พบการปลูกข้าวในวงบ่อซีเมนต์ การปลูกผักกลับหัว การปลูกผักบนพื้นปูน การปลูกผักคอนโด ฯลฯ จุดประกายความคิดและสร้างแรงบันดาลใจในการทำการเกษตรแก่ผู้มาเยือนอย่างมิรู้ลืม ตามต่อด้วยจุดที่ 4 บ้านนวัตกรรมพลังงาน เรียนรู้การนำพลังงานธรรมชาติ อย่างเช่น พลังงานแสงอาทิตย์ ที่ส่องสว่างให้พลังแก่ทุกชีวิต มาเปลี่ยนเป็นพลังงานไฟฟ้า เพื่อใช้ในครัวเรือน ตัวช่วยประหยัดค่าไฟ สู่การพึ่งพาตนเองด้านพลังงาน รวมขบวนกันอีกครั้ง คราวนี้เริ่มปั่นเข้าสู่โซนด้านหลังพิพิธภัณฑ์ ซึ่งได้ออกแบบเป็นฐานเรียนรู้แปลงเกษตรปลดหนี้ สรรพสิ่งสร้างชีวิต ในจุดที่ 5 แวะถ่ายรูปและเรียนรู้การทำเกษตรอย่างยั่งยืน ก่อนที่จะปั่นจักรยานเคลื่อนขบวนเข้าสู่ฐานด้านในพิพิธภัณฑ์เพื่อเพิ่มพลังด้วยน้ำสมุนไพรเย็นๆ หวานชื่นใจ ที่พอได้ดื่มแล้วหายเหนื่อยเป็นปลิดทิ้งเลยทีเดียว ในตอนนี้พลังของทุกคนนั้นกลับมาอย่างเต็มที่ พร้อมที่จะเรียนรู้ เราเปลี่ยนจากการปั่นจักรยานมาเป็นการเดินชมสวนสมุนไพร ฐานต้นไม้แห่งการเรียนรู้ ในจุดที่ 6 เดินชมต้นไม้นานาชนิด พร้อมบอกสรรพคุณ และการใช้ประโยชน์ในการดูแลสุขภาพ ระหว่างการเดินชมสายตากลับเหลือบไปสะดุดชื่อพิพิธภัณฑ์หลังหนึ่งที่มีชื่อแปลกไม่คุ้นสายตาและไม่ คุ้นหู.“พิพิธภัณฑ์ในหลวงรักเรา”.เป็นจุดการเรียนรู้ที่ 7.ในพิพิธภัณฑ์หลังนี้นำเสนอพระเกียรติคุณ พระอัจฉริยภาพพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 9 ด้านการเกษตร พร้อมความตื่นตา ตื่นใจทะลุมิติ ผ่านภาพยนตร์แอนิเมชั่น 3 มิติ เรื่องของพ่อในบ้านของเรา 1 ใน 7 เรื่องยอดฮิตของทางพิพิธภัณฑ์ เรียนรู้ในตัวอาคารเสร็จ ขยับจักรยานประจำตัวตั้งขบวนมุ่งหน้าสู่ จุดที่ 8 แปลงเกษตรทฤษฎีใหม่ประยุกต์ ทำนา 1 ไร่ ได้เงิน 1 แสน พบกับพี่วิทยากรเจ้าของแปลง ผู้เข้าร่วมโครงการทำนา 1 ไร่ ได้เงิน 1 แสน ตัวแทนจาก 9 กล้า ผู้เข้ามาเรียนรู้การเกษตรแบบจริงจัง ตลอดระยะเวลา 5 เดือน เพื่อนำไปประยุกต์ใช้ในชีวิตจริง มาเล่าประสบการณ์การเรียนรู้ และการนำไปพัฒนาต่อยอดต่อไป ปั่นต่ออีกนิดก็พบกับโรงเรือนขนาดใหญ่ จัดตั้งเรียงกันเป็นแถว ฐานเรียนรู้การปลูกผักคุณภาพในโรงเรือน ในจุดที่ 9 แวะจอดจักรยานไว้ข้างถนนเดินเข้าไปเรียนรู้การปลูกผักในโรงเรือน เทคนิคการดูแลและการป้องกันศัตรูพืชเพื่อให้ได้ผักอินทรีย์ ผักคุณภาพสู่การจำหน่ายให้แก่ผู้มาเที่ยวชมพิพิธภัณฑ์ในราคาเพียงถุงละ 20 บาท เท่านั้น สุข สนุก เรียนรู้แบบเต็มที่ ตลอดเส้นทางการเรียนรู้ทั้ง 9 จุด ตามรอยกษัตริย์เกษตรนักพัฒนา บนเส้นทางเกษตรเศรษฐกิจพอเพียง สะท้อนพระอัจฉริยภาพพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 9 ร่วมสืบสานและต่อยอดพระราชปณิธานเกษตรเศรษฐกิจพอเพียง เกิดเป็นแรงบันดาลใจในการทำการเกษตรเพื่อพึ่งพาตนเอง และเป็นกิจกรรมที่สามารถทำร่วมกันได้สำหรับทุกคนในครอบครัว วันหยุดเสาร์ อาทิตย์ที่ 3 และ 4 ของเดือน ชวนคนในครอบครัว ชวนเพื่อน ชวนพี่ ชวนน้อง จัดสรรวันว่างมาเที่ยวแบบชิลล์ๆ ไปเช้าเย็นกลับ เพียง 1 วัน เรียนรู้การเกษตรตามรอยพ่อ ที่พิพิธภัณฑ์การเกษตรเฉลิมพระเกียรติฯ จ.ปทุมธานี แหล่งท่องเที่ยวเพื่อการเรียนรู้ สำหรับทุกคนในครอบครับ สอบถามรายละเอียดโทร 02-529-2212 www.wisdomking.or.th
วันที่ 2 เมษายน 2564 เวลา 9.00 น. พลอากาศเอก เสนาะ พรรณพิกุล ผู้อำนวยการสำนักงานพิพิธภัณฑ์เกษตรเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เป็นประธานในพิธีเปิดงานนิทรรศการหมุนเวียน “รักษ์ทรัพยากรไทย” โดยมีผู้แทนจากหน่วยงานต่างๆ เข้าร่วมงาน ทั้งนี้งานนิทรรศการหมุนเวียนฯ จัดขึ้นระหว่างวันที่ 2 – 4 เมษายน 2564 ตั้งแต่เวลา 08.00 – 17.00 น. ณ พิพิธภัณฑ์การเกษตรเฉลิมพระเกียรติฯ จ.ปทุมธานีพลอากาศเอก เสนาะ พรรณพิกุล เปิดเผยว่า “การจัดงานนิทรรศการหมุนเวียน “รักษ์ทรัพยากรไทย” ในครั้งนี้ เพื่อน้อมรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณอันหาที่สุดมิได้ของพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ทรงเห็นความสำคัญของการอนุรักษ์พันธุกรรมพืชของประเทศไทย และร่วมเทิดพระเกียรติสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ที่ทรงสืบสานงานอนุรักษ์พันธุกรรม และทรงเป็นแรงบันดาลใจทำให้เกิดความรักความหวงแหนทรัพยากร พิพิธภัณฑ์การเกษตรฯ ในฐานะหน่วยงานสนองโครงการอนุรักษ์พันธุกรรมพืชอันเนื่องมาจากพระราชดำริฯขอเชิญชวนพี่น้อ'ประชาชน ร่วมแรง ร่วมใจในการอนุรักษ์ทรัพยากร และสิ่งที่สำคัญที่สุดคือการสร้างจิตสำนึกให้เยาวชน ประชาชนทุกคนในประเทศได้รู้ปลูก รู้กิน รู้ใช้ รู้อนุรักษ์ รู้พัฒนาคุณค่าความหลากหลายในทรัพยากรไทยต่อไป ดังพระราชกระแส “การรักทรัพยากร คือการรักชาติรักแผ่นดิน””ด้านนางสาวสำเภาว์ งามเชย รองผู้อำนวยการ (ฝ่ายพัฒนา) กล่าวเพิ่มเติมว่า “การจัดงานในครั้งนี้ยังอยู่ในช่วงสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนา2019ทางพิพิธภัณฑ์การเกษตรเฉลิมพระเกียรติฯ ได้ดำเนินการตามมาตรการของกระทรวงสาธารณสุขอย่างเคร่งครัด โดยมีการตรวจวัดอุณหภูมิร่างกาย จุดล้างมือด้วยเจลแอลกอฮอล์ สแกน แอพลิเคชันไทยชนะ และขอให้ผู้ร่วมงานทุกท่านสวมหน้ากากอนามัยหรือหน้ากากผ้ารวมทั้งปฏิบัติตามมาตรการเว้นระยะห่าง (Social distancing) เพื่อสร้างความมั่นใจและความปลอดภัยให้แก่ ผู้มาร่วมงาน”เปิดให้เข้าชมฟรี! พิพิธภัณฑ์มหัศจรรย์พันธุกรรม พิพิธภัณฑ์ที่นำเสนอเรื่องราวของการอนุรักษ์พันธุกรรมพืชเพื่อให้เข้าใจถึงคุณค่า และความหลากหลายของพันธุกรรม อันเป็นมรดกที่ทรงคุณค่า และประโยชน์แก่มวลมนุษยชาติ ในวันที่ 2 เมษายน 2564 เท่านั้นนอกจากนี้ยังมีการจัดอบรมโดยไม่มีค่าใช้จ่ายวิชาของแผ่นดินและอบรมเชิงปฏิบัติการ จากวิทยากรผู้มากความรู้และประสบการณ์ สำหรับผู้ที่ไม่สะดวกเดินทางมาเข้าร่วมอบรมด้วยตัวเองทางพิพิธภัณฑ์การเกษตรฯก็มีจัดอบรมวิชาของแผ่นดินผ่านทางช่องทางออนไลน์ ไว้ให้สำหรับผู้ที่สนใจ
วันที่ 8 สิงหาคม 2566 สำนักงานพิพิธภัณฑ์เกษตรเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว จัดหลักสูตรการปฐมพยาบาลเบื้องต้นและการช่วยชีวิตขั้นพื้นฐาน โดยมีนางวารุณี แหลมภู่ พยาบาลวิชาชีพชำนาญการ งานอุบัติเหตุและฉุกเฉิน โรงพยาบาลคลองหลวง พร้อมคณะ เป็นวิทยากรบรรยายให้ความรู้ในครั้งนี้ เพื่อให้เจ้าหน้าที่มีความตระหนักรู้และเข้าใจ ในการมีส่วนร่วมในการช่วยชีวิตขั้นพื้นฐาน มีความรู้และทักษะในการปฐมพยาบาลเบื้องต้น สามารถช่วยเหลือตนเองและบุคคลใกล้ตัวได้อย่างถูกวิธีก่อนถึงโรงพยาบาล ณ ห้องประชุมศาสตร์พระราชา ชั้น 2 อาคารสำนักงานพิพิธภัณฑ์เกษตรเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
วันที่ 5 เมษายน 2562 นายสหภูมิ ภูมิธฤติรัฐ ผู้อำนวยการสำนักงานพิพิธภัณฑ์เกษตรเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ประธานในพิธีเปิดงานมหกรรม “อนุรักษ์พันธุกรรมพืช อนุรักษ์ทรัพยากรไทย” ระหว่างวันที่ 5 – 7 เมษายน 2562 นี้ เวลา 08.00 – 18.00 น. นางสาวสำเภาว์ งามเชย รองผู้อำนวยการสำนักงานพิพิธภัณฑ์เกษตรเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว กล่าวรายงานว่า “...งานมหกรรมอนุรักษ์พันธุกรรมพืช อนุรักษ์ทรัพยากรไทย จัดขึ้นเพื่อเป็นการน้อมรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 9 และเทิดพระเกียรติสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ผู้ทรงเป็นองค์ประธานในการขับเคลื่อนโครงการอนุรักษ์พันธุกรรมพืชอันเนื่องมาจากพระราชดำริ หรือ อพ.สธ. ทรงเป็นแรงบันดาลใจให้เกิดความรักความหวงแหนทรัพยากร สู่การแบ่งปัน แลกเปลี่ยน รวมถึงการขยายผลเพื่อให้พันธุกรรมอยู่ในแผ่นดิน พิพิธภัณฑ์เกษตรฯได้ร่วมมือกับเครือข่ายพิพิธภัณฑ์เกษตรฯ จัดนิทรรศการเรียนรู้ที่หลากหลายและได้นำพันธุกรรมพืชพื้นถิ่นมาจัดแสดงเพื่อสะท้อนวิถีชีวิต ความเชื่อ ภูมิปัญญา ความเป็นอยู่ดั้งเดิมของคนไทย ให้เด็กเยาวชน ตลอดจนประชาชนทั่วไปได้ศึกษาเรียนรู้...” ด้านนายสหภูมิ เปิดเผยว่า “...เดือนเมษายน เป็นเดือนพระราชสมภพสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี พิพิธภัณฑ์จึงได้จัดงานมหกรรม "อนุรักษ์พันธุกรรมพืช อนุรักษ์ทรัพยากรไทย" เพื่อมุ่งเน้นการเสริมสร้างจิตสำนึกและเผยแพร่การอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติของไทย ผู้ที่มาร่วมงานสามารถนำความรู้ ประสบการณ์ ไปเผยแพร่เพื่อให้เกิดประโยชน์ต่อตนเอง ครอบครัว และสังคมไทยต่อไป..." ในพิธีเปิดครั้งนี้ สร้างความสนุก ความครื้นเครงด้วยการแสดงศิลปวัฒนธรรมพื้นบ้าน จากกลุ่มผู้สูงอายุ เทศบาลท่าโขลง จิตอาสาสูงวัยที่รวมกลุ่มกันมาสร้างความสุข ความสนุกสนานให้แก่ลูกหลาน โอกาสเดียวกันนี้ผู้อำนวยการสำนักงานพิพิธภัณฑ์เกษตรเฉลิมพระเกียรติฯ เปิดกรวยกระทงดอกไม้ถวายราชสักการะหน้าพระฉายาลักษณ์ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ พร้อมนำแขกผู้มีเกียรติ และสื่อมวลชนเยี่ยมชมนิทรรศการ เรียนรู้ได้ทุกวัย ผ่านกิจกรรมที่หลากหลาย อาทิ นิทรรศการตามรอยพ่อเจ้าฟ้านักอนุรักษ์ นิทรรศการพันธุกรรมสร้างชีวิต เช่น นิทรรศการตรีผลาปรับสมดุล นิทรรศการมะแปรมและความหลากหลายของผลไม้ท้องถิ่นฤดูร้อน นิทรรศการพันธุกรรมมะตูมผลไม้คลายร้อน นิทรรศการหวายสร้างเศรษฐกิจชุมชน และนิทรรศการสีสันธรรมชาติบนผืนผ้า นอกจากนี้ยังมีอบรมวิชาของแผ่นดิน และอบรมเชิงปฏิบัติการ องค์ความรู้เกษตรเศรษฐกิจพอเพียง ตลอดทั้ง 3 วัน กว่า 40 วิชา ชิม ชม ช้อป ตลาดนัดเศรษฐกิจพอเพียง จำหน่ายสินค้าเกษตรอินทรีย์ ผัก ผลไม้ตามฤดูกาล ต้นไม้ พันธุ์ไม้ ผลิตภัณฑ์แปรรูปคุณภาพ ต้นไม้ อาหารเครื่องดื่มพื้นบ้าน จำนวนกว่า 300 บูท ตลอดจนกิจกรรมสีสัน เพลิดเพลินกับเกมงานวัด และชมพิพิธภัณฑ์ในอาคาร พิพิธภัณฑ์ในหลวงรักเรา พิพิธภัณฑ์มหัศจรรย์พันธุกรรม พิพิธภัณฑ์ป่าดงพงไพร สุข สนุก เรียนรู้กับการนำเสนอด้วยเทคโนโลยีที่ทันสมัย พิพิธภัณฑ์ที่มีชีวิตแหล่งเรียนรู้ของทุกคนในครอบครัว