คลังต้นไม้แห่งการเรียนรู้
จันทน์กะพ้อ
ชื่อไทย | จันทน์กะพ้อ |
ชื่ออื่น | เขี้ยวงูเขา จันทน์พอ จันทน์พ้อ |
ชื่อวิทยาศาสตร์ | Vatica diospyroides Symington |
ชื่อวงศ์ | DIPTEROCARPACEAE |
ลักษณะวิสัย | เป็นไม้ยืนต้น สูงประมาณ 5-15 เมตร ไม่ผลัดใบ เรือนยอดเป็นทรงพุ่มกลมโปร่ง ไม่ค่อยสวย ใบน้อย แตกกิ่งก้านจำนวนมากที่ยอด กิ่งเปลา เปลือกต้นเรียบเป็นสีน้ำตาลอมเทาหรือสีเทาคล้ำ มักมียางใสซึมออกมาตามรอยแตก เปลือกชั้นในมีสีเหลือง |
ลักษณะใบ | ใบเป็นใบเดี่ยวออกเรียงสลับ ใบเป็นรูปขอบขนาน ปลายใบเป็นติ่งแหลม โคนใบสอบและบิดเบี้ยวเล็กน้อย ขอบใบเรียบ ใบอ่อนเป็นสีน้ำตาลแดง ใบแก่เป็นสีเขียวเข้มเป็นมัน แผ่นใบเกลี้ยงหนา โคนใบเบี้ยว |
ลักษณะดอก | ดอกสีเหลืองนวล มีขนาดเล็ก มีกลิ่นหอมแรงมาก กลิ่นเป็นแบบหอมร้อน ๆ คล้ายแก้วกาหลงและน้ำมันจันทน์ ออกดอกเป็นช่อสั้น ๆ ตามกิ่งและตามง่ามใบ ดอกมีกลีบสีขาวหรือเหลืองอ่อน 5 กลีบ เรียงเวียนกันเป็นรูปกังหัน กลีบดอกมีขนนุ่มเป็นสีน้ำตาล โคนกลีบเชื่อมติดกันเป็นรูปถ้วย ปลายแยกเป็น 5 แฉก ออกดอกช่วงเดือนพฤศจิกายน-มีนาคม |
ลักษณะผล | ผลกลมรี ผิวผลเป็นขุยสีน้ำตาล เมื่อแก่จะแตกออกเป็น 3 กลีบ มีกลีบประดับ 5 กลีบ สั้นกว่าตัวผล โดยกลีบผลมีลักษณะเป็นรูปสามเหลี่ยมสั้นกว่าความยาวผล ขอบกลีบพับจีบตามยาว มีเมล็ดลักษณะเป็นรูปไข่ปลายแหลม ติดผลช่วงเดือนมีนาคมถึงเดือนเมษายน และแก่ในช่วงเดือนมีนาคม-กรกฎาคม |
สรรพคุณ | ดอก แก้ลม บำรุงหัวใจ เนื้อไม้ แก้สันนิบาต แก้ลมวิงเวียน ขับลม แก้เสมหะ |