Acacia auriculiformis A.Cunn. ex Benth.

ไม้ต้นขนาดเล็กถึงขนาดกลาง ไม่ผลัดใบ เรือนยอดทรงกลมทึบ กิ่งห้อยย้อย เปลือกสีน้ำตาลถึงสีน้ำตาลเข้ม แตกเป็นร่องตามยาว ไม่เป็นระเบียบ

ใบประกอบเเบบชนนกสองชั้น ไม่ผลัดใบ แตกใบได้ตลอดทั้งปี ต้นอ่อนแตกใบ 1 - 2 คู่ เป็นใบผสมขนาดเล็ก เมื่อโตขึ้นใบผสมจะร่วงหมดเกิดเป็นใบเดี่ยวแท้ แตกออกตามกิ่งเรียงสลับกัน ใบมีลักษณะเรียวยาว และโค้งเป็นรูปเคียว มีสีเขียวเข้ม ลักษณะค่อนข้างหนา มองเห็นเป็นเส้นใบ 3 เส้น ขนานกันตามแนวยาวจากโคนใบจรดปลายใบ

ดอกสีเหลือง มีกลิ่นหอม ออกเป็นช่อแบบช่อแยกเเขนงเป็นคู่ ๆ ที่ซอกใบและปลายกิ่ง มีดอกย่อยขนาดเล็กจำนวนมาก โคนกลีบเลี้ยงติดกันปลายแยกเป็น 5 แฉก โคนกลีบดอกติดกัน ปลายแยกเป็น 5 แฉก โค้งกลับลง เกสรเพศผู้สีเหลืองจำนวนมาก

เมล็ดมีลักษณะกลมแบน มีรกสีเหลืองติดเมล็ด เมล็ดมีขนาดประมาณ 2.5 - 4.5 มิลลิเมตร สีเมล็ดออกสีน้ำตาลเข้มถึงดำ

ผลมีลักษณะเป็นฝัก ม้วนงอขยุกขยิก ฝักอ่อนจะมีสีเขียว ฝักแก่มีสีน้ำตาลเข้ม และดำตามอายุของฝัก เมื่อแก่มาก ฝักจะแตกเป็น 2 ซีก ตามแนวตะเข็บขอบฝัก แต่ละฝักมีเมล็ดประมาณ 10 - 15 เมล็ด

ปลูกเพื่อฟื้นฟูพื้นที่ดินที่มีสภาพเสื่อมโทรมภายหลังจากการทำไร่เลื่อนลอย หรือปลูกเพื่อป้องกันการชะล้างผิวหน้าดิน

เนื้อไม้มีคุณสมบัติเหมาะที่จะใช้ทำเป็นเชื้อเพลิงได้ดี เพราะให้ความร้อนสูง
ถ้านำไปเผาถ่านจะได้ถ่านที่มีคุณภาพดี ถ่านที่ได้จากไม้กระถินณรงค์เมื่อนำไปใช้จะไม่แตกไม่มีควัน และติดไฟได้ดี กระถินณรงค์จึงเป็นไม้ที่เหมาะสำหรับการปลูกเป็นป่าฟืนเพื่อใช้สอยในครัวเรือน

เปลือกให้น้ำฝาดแทนนินใช้ในอุตสาหกรรมการฟอกหนังสัตว์